เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ผู้ใช้รถใช้ถนนโดยทั่วไปมักจะลืมเลือนกันไม่ใช่น้อย นั่นคือการพกอุปกรณ์ช่วยเหลือยามฉุกเฉินติดไว้ในรถ ที่เราคงจะคาดเดาเวลาและสถานที่เกิดเหตุกันไม่ได้ “ช่างเอก” จึงอยากจะแนะนำ “6 อุปกรณ์ฉุกเฉิน” ที่ควรมีติดรถยนต์ ซึ่งจะช่วยสามารถประคับประคองเหตุหนักให้ผ่อนเป็นเบาลงได้ครับ

1.ยางอะไหล่และแม่แรงฉุกเฉิน หลายคนอาจจะคิดว่ามีพกไว้ก็หนักรถเปล่าๆ แต่ถ้าเกิดวันหนึ่งเกิดยางแบนขึ้นมา ทั้งยางอะไหล่และแม่แรงจะเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งยวดขึ้นมาทันที เพื่อให้คุณสามารถขับรถต่อไปยังร้านเปลี่ยนยางหรือจุดหมายได้ต่อ โดยสิ่งสำคัญคือ ควรเช็กสภาพและเติมลมยางอะไหล่ทุกๆ 3 เดือน เพื่อให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ

2.สายพ่วงแบตเตอรี่ หากแบตเตอรี่รถยนต์เสีย หมดสภาพจนแบตหมดกลางทาง เจ้าสายพพ่วงแบตเตอรี่นี่แหละ จะช่วยให้จั๊มแบตกับรถคันอื่น แต่ก่อนจะซื้อสายก็ควรศึกษาให้แน่ใจว่า สายพ่วงแบตเตอรี่ที่จะซื้อมานั้นตรงประเภทรถที่ขับ

3.ที่ทุบกระจกและตัดเข็ดขัดนิรภัย ที่ทุบกระจกมักจะมาพร้อมที่ตัดเข็มขัดนิรภัยสามารถหาซื้อได้ทั่วไป โดยอุปกรณ์ชิ้นนี้จะมีประโยชน์มากในยามที่อยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉิน เช่น รถตกน้ำ รถเกิดอุบัติเหตุจนไม่สามารถปลดเข็มขัดออกจากร่างกายได้

4.ป้ายสัญญาณเตือนแบบสะท้อนแสง ควรมีไว้อย่างยิ่ง ยามเกิดเหตุรถเสียในทางคับขันที่ไม่สามารถเลื่อนรถได้ ควรวางป้ายไว้ในระยะก่อนถึงรถประมาณ 50 เมตร ช่วยป้องกันการเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน ปลอดภัยทั้งตัวเราและเพื่อนร่วมถนน

5.อุปกรณ์ปฐมพยาบาล หากเกิดอุบัติเหตุจนได้รับบาดเจ็บ ระหว่างรอเจ้าหน้าที่กู้ภัยหรือจากโรงพยาบาลมาถึง ก็สามารถปฐมพยาบาลตนเองได้เบื้องต้น และยังสามารถช่วยเหลือเพื่อนร่วมถนนคนอื่นๆ ได้ โดยสามารถเก็บไว้ใต้ที่นั่งรถ ที่กระโปรงหลังหรือบริเวณอื่นได้ตามสะดวก

6.ไฟฉาย แม้สมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ในปัจจุบันจะมีฟังก์ชั่นไฟฉายเอาไว้ใช้ แต่ถ้าเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน รถกลับไม่สามรถใช้งานได้ในเวลากลางคืน ก็ควรจะประหยัดแบตเตอรี่โทรศัพท์ไว้ให้ใช้งานได้นานที่สุด เพราะฉะนั้นไฟฉายจึงถือเป็นอุปกรณ์ฉุกเฉินที่สำคัญและมีประโยชน์มาก ทั้งยังสามารถหาซื้อได้ตามร้านสะดวกซื้อทั่วไป

………………………..
คอลัมน์ : รู้ก่อนเหยียบ
โดย “ช่างเอก”
ติดต่อสอบถามข้อมูลโดยตรงที่ [email protected]