สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากประเทศรายงานจากประเทศสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 7 ก.ย.ว่านายลอว์เรนซ์ หว่อง ประธานร่วมของคณะทำงานระหว่างกระทรวง ด้านการตอบสนองต่อวิกฤติโรคโควิด-19 ของสิงคโปร์ กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศของโรคโควิด-19 ว่าอัตราการติดเชื้อภายในชุมชน "กำลังเพิ่มขึ้นในอัตราเร่ง" จากการที่จำนวนผู้ติดเชื้อตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นเกือบสองเท่า เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของสัปดาห์ก่อนหน้า
ตอนนี้ ค่าอัตราอุบัติการณ์ของโรคในสิงคโปร์ "สูงกว่า 1.0" หากเป็นเช่นนี้ต่อไป "โดยที่ไม่มีมาตรการใดเลย" ภายในระยะเวลาอีกเพียง 2 สัปดาห์นับจากนี้ สิงคโปร์จะมีผู้ป่วยยืนยันรายวันมากกว่า 1,000 คน หรือมากกว่า 2,000 คนต่อวัน ภายในระยะเวลาอีก 1 เดือน ซึ่งจะเพิ่มความตึงตัวให้กับระบบสาธารณสุข และผลที่จะตามมาอีกหลังจากนั้น คือการมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 
CNA
แม้อัตราการติดเชื้อ การป่วยและเสียชีวิตยังคงสูงในกลุ่มผู้ที่ยังไม่ฉีดวัคซีน แต่รัฐบาลสิงคโปร์เน้นย้ำว่า ผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้วยังมีโอกาสติดเชื้อและล้มป่วยเช่นกัน ต่อให้มีอาการน้อยหรือไม่มีเลย แต่เป็นสิ่งที่ไม่มีใครต้องการให้เกิดขึ้น ด้วยเหตุนี้ จะมีการยกระดับมาตรการตรวจเชิงรุกอีก โดยจะเป็นการบังคับตรวจกับ "สถานที่เสี่ยง" และผู้ประกอบอาชีพซึ่งต้องมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนจำนวนมาก อาทิ พนักงานตามศูนย์การค้า 
นอกจากนี้ รัฐบาลสิงคโปร์สั่งห้ามการรวมกลุ่มในสถานที่ทำงาน ตั้งแต่วันที่ 8 ก.ย.เป็นต้นไป "จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง" เนื่องจากมาตรการตามสถานที่ทำงานหลายแห่ง "ยังหละหลวม"
ปัจจุบัน สิงคโปร์มีสถิติผู้ป่วยโรคโควิด-19 สะสมในประเทศอย่างน้อย 68,901 คน เพิ่มขึ้น 241 คน จากจำนวนดังกล่าว 6 คน เดินทางมาจากต่างประเทศ เสียชีวิตสะสมอย่างน้อย 55 ราย และหายป่วยแล้ว 66,600 คน.

เครดิตภาพ : REUTERS