บรรยากาศหุ้นไทยวันที่ 6 ก.ย.64 เคลื่อนไหวในแดนบวกสลับลบ จากนักลงทุนเริ่มขายหุ้นขยายกลางและขนาดใหญ่เพื่อทำกำไร อาทิ กลุ่มพลังงาน กลุ่มธนาคาร หลังจากขยับขึ้นมาก่อนหน้านี้ และมีการกลับเข้าไปเข้าซื้อเก็งกำไรหุ้นขนาดเล็กแทน โดยเคลื่อนไหวในระดับ 1,645-1,655 จุด เพื่อรอปัจจัยสนับสนุนใหม่ ส่งผลให้ดัชนีปิดที่ 1,648.37 จุด ลดลง 1.96 จุด หรือ 0.12% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 78,324.98 ล้านบาท ส่วนตลาดเอ็มเอไอ ปิดที่ 534.42 จุด เพิ่มขึ้น 8.09 จุด หรือ 1.54% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6,313.22 ล้านบาท
รายงานข่าวจาก บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ช่วงสัปดาห์นี้คาดว่าดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,620-1,635 จุด และแนวต้านอยู่ที่ 1,665-1,680 จุด โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ สถานการณ์โควิดทั้งในและต่างประเทศ ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือน ส.ค. ของไทย และประเด็นการเมืองภายในประเทศ รวมไปถึงข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้ผลิตเดือน ส.ค. และจํานวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ การประชุมอีซีบี ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2 ปีนี้ของยูโรโซนและญี่ปุ่น ข้อมูลเศรษฐกิจเดือน ส.ค. ของจีน อาทิ ดัชนีราคาผู้ผลิต และดัชนีราคาผู้บริโภค
หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่
1.บ้านปู ปิดที่ 12.90 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
2.กัลฟ์ ปิดที่ 41.75 บาท ลดลง -0.75 บาท
3.ซีพีออลล์ ปิดที่ 62.50 บาท ลดลง -0.50 บาท
4.เดลต้า ปิดที่ 764.00 บาท เพิ่มขึ้น 34.00 บาท
5.เอสซีจีพี ปิดที่ 67.00 บาท ลดลง -1.50 บาท