ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นในการนำผลิตภัณฑ์ชุมชนมาเป็นสื่อกลางเชื่อมโยงระหว่างผู้ผลิตสู่ผู้บริโภค เพื่อสนับสนุนพี่น้องเกษตรกรไทย ล่าสุดได้รับซื้อ “ข้าวลดโลกร้อน” จำนวน 40 ตัน จากวิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่ เกษตรสมัยใหม่ ต.เดิมบาง จ.สุพรรณบุรี ผ่านบริษัท ออมสุขวิสาหกิจเพื่อสังคม นำมาเป็นสินค้าสมนาคุณแก่ลูกค้าสถานีบริการบางจากที่ร่วมรายการ ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตั้งแต่วันที่ 5-30 มิ.ย. 66 หรือจนกว่าสินค้าจะหมดเป็นการช่วยรณรงค์เรื่องสภาวะโลกร้อนได้อีกทางหนึ่ง

สำหรับข้าวลดโลกร้อน เป็นตัวอย่างที่สะท้อนผลสำเร็จของการปรับเปลี่ยนมุมมองและวิถีการทำนาแบบใหม่ของวิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่เกษตรสมัยใหม่ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดองค์ความรู้ การทำนาแบบเปียกสลับแห้งในโครงการไทยไรซ์ นามา ภายใต้ความร่วมมือหลักระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมนี ประจำประเทศไทย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน

สมชัย เตชะวณิช ประธานเจ้าหน้าที่การตลาด กลุ่มธุรกิจการตลาด บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น

โดยปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิตข้าวรูปแบบใหม่ของชาวนา ใช้ 4 เทคโนโลยีเข้ามาช่วยลดต้นทุน คือ 1.การปรับพื้นที่นาด้วยเลเซอร์ให้เรียบเสมอกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเพาะปลูก 2.การจัดการนํ้าแบบเปียกสลับแห้ง 3.การใช้ปุ๋ยในปริมาณที่เหมาะสม และ 4.การจัดการฟางและตอซังด้วยนํ้าหมักแทนการเผาสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและช่วยลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่สำคัญ คือ ก๊าซมีเทน และก๊าซไนตรัสออกไซด์

ทั้งนี้ การทำนาเปียกสลับแห้งจะไม่ปล่อยให้นํ้าขังอยู่ในพื้นที่นาตลอดเวลา ช่วยลดการใช้นํ้าในการเพาะปลูก โดยการวิจัยและติดตามผลโครงการไทยไรซ์ นามา พบว่า สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและช่วยลดปริมาณก๊าซมีเทนที่ปล่อยสู่ชั้นบรรยากาศ ซึ่งก๊าซมีเทนทำให้โลกร้อนขึ้นมากกว่าคาร์บอนไดออกไซด์ ถึง 27 เท่า ซึ่งการทำนาแบบเปียกสลับแห้ง ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงได้ราว 30% เทียบกับวิธีทำนาปกติ จึงเรียกว่า “นาข้าวลดโลกร้อน” ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการบริโภคที่จะช่วยบรรเทาภาวะโลกร้อน ซึ่งกำลังส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อทุกภาคส่วน.