นายวิชานัน นิวาตจินดา รองผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อในเดือน ส.ค.64 ลดลง 0.02% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ซึ่งถือเป็นการติดลบครั้งแรกในรอบ 5 เดือน เนื่องจากเป็นผลจากมาตรการลดภาระค่าครองชีพของรัฐ ทั้งการลดค่าเล่าเรียน ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำประปา ประกอบกับราคาสินค้ากลุ่มอาหารสดบางชนิดมีราคาลดลง แต่คาดว่าในเดือนหน้าหากสิ้นสุดมาตรการของรัฐแล้ว ประกอบกับการคลายล็อกดาวน์ให้เปิดห้าง เปิดร้านอาหาร ร้านทำผม จะทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจฟื้นตัว และทำให้เดือน ก.ย.เงินเฟ้อกลับมาเป็นบวกได้อีกครั้ง
“แม้เงินเฟ้อเดือน ก.ย.64 มีแนวโน้มกลับมาขยายตัวในระดับที่ไม่สูงนัก แต่ก็ต้องรอดูว่าภาครัฐด้วยว่าจะขยายมาตรการต่อไปหรือไม่ หาก ครม.อนุมัติต่ออายุการลดค่าน้ำ ค่าไฟ ออกไปอีกจนถึงสิ้นปีงบประมาณ 64 ก็จะทำให้เงินเฟ้อรายเดือนติดลบต่อเนื่องไปตั้งแต่ ก.ย.ไปจนถึงสิ้นปี แต่ถ้าไม่ต่อมาตรการแล้ว เงินเฟ้อรายเดือนก็อาจจะกลับไปเป็นบวกได้”
ส่วนแนวโน้มเงินเฟ้อตลอดทั้งปี 64 สศค.จะมีการปรับประมาณในเดือน ต.ค.64 โดยคาดว่าถ้ารัฐบาลไม่ต่ออายุมาตรการลดค่าครองชีพ เงินเฟ้อในปี 64 คงอยู่ต่ำกว่า 1% จากปัจจุบันที่กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์ไว้ที่ 0.7-1.7% แต่หากต่ออายุอาจทำให้เงินเฟ้อทั้งปีต่ำกว่านั้นได้อีก แต่การใช้มาตรการช่วยลดค่าครองชีพถือว่ามีความจำเป็นต้องในช่วงวิกฤติ ช่วยเหลือคนไทยที่ประสบปัญหาทางเศรษฐกิจ ทั้งการตกงาน ขาดรายได้
สำหรับการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการในเดือน ส.ค.นี้ พบว่า มีสินค้าที่ราคาสูงขึ้นจากเดือน ก.ค.64 รวม 114 รายการ เช่น ไข่ไก่, ขิง, ส้มเขียวหวาน, หัวหอมแดง เป็นต้น ส่วนสินค้าที่ราคาลดลงจากเดือน ก.ค.64 รวม 113 รายการ เช่น ข้าวสารเจ้า, ข้าวสารเหนียว, มะนาว, มังคุด, เงาะ, ค่าธรรมเนียมการศึกษา เป็นต้น ในขณะที่สินค้าและบริการที่ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มี 203 รายการ