เห็นประกาศของ ผอ.โรงพยาบาลอำเภอแห่งหนึ่งใน จ.ชัยภูมิ แจ้งว่างดให้บริการผู้ป่วยประเภทไม่ฉุกเฉิน (OPD CASE) นอกเวลาราชการ (รับเฉพาะ CASE ฉุกเฉิน) ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 66 เป็นต้นไป เหตุผลมาจากการจัดสรรอัตรากำลังแพทย์ใน จ.ชัยภูมิ ทำให้โรงพยาบาลอำเภอได้รับผลกระทบจากอัตรากำลังแพทย์ต่อการให้บริการผู้ป่วย ทั้งในเวลา-นอกเวลาราชการ

ประกาศดังกล่าวสะท้อนปัญหาแพทย์ (หมอ) ลาออกจากราชการกันมากช่วงนี้ โดยเฉพาะ “หมออินเทิร์น” หรือ “หมอจบใหม่ใช้ทุน” ส่วนใหญ่ไปใช้ทุนในโรงพยาบาลรัฐตามต่างจังหวัด แล้วเจอภาระงานหนัก ทำงานมากกว่า 80 ชั่วโมง/สัปดาห์ ต้องอดหลับอดนอน เวลาพักผ่อนน้อย เมื่อต้องเจอสภาพแบบนี้ไปนาน ๆ ก็ทนไม่ไหว จึงสมองไหลกันมาก ลาออกไปเปิดคลินิกเสริมความงามกันดีกว่า!

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และ นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน รองปลัดกระทรวงฯ ช่วยสละเวลาตาม “พยัคฆ์น้อย” มาสักนิด! ว่าปัญหาใหญ่มีอะไรบ้าง!

1.ที่พักอาศัยของหมออินเทิร์นในโรงพยาบาลต่างจังหวัดแย่มาก! โดยเฉพาะโรงพยาบาลประจำอำเภอ คือทำงานกันหนัก แต่จะให้กลับมา “เสือกหัวนอน” มันก็คงไม่ใช่! และปัญหาเหล่านี้คนที่เป็น ผอ.โรงพยาบาล-สาธารณสุขจังหวัด ต้องบริหารจัดการ!

ผู้บริหารกระทรวงฯ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าคนที่เรียนหมอส่วนใหญ่เป็นลูกคนมีฐานะ เป็น “คุณหนู” กันส่วนใหญ่ ส่วนลูกชาวบ้าน-ลูกเกษตรกรมีบ้าง แต่น้อย! คือต้องเป็นลูกชาวบ้านที่เรียนเก่งจริง ๆ เนื่องจากไม่ค่อยมีเงินไปเรียนกวดวิชากันหรอก! นอกจากเรียนเก่งแล้ว ลูกสอบติดหมอก็ต้องมีเงินส่งเรียนด้วย ดังนั้นลูกชาวบ้าน ลูกเกษตรกรเรียนหมอจึงไม่ง่าย เพราะต้องเรียนหนัก เรียนยาก และเรียนนาน (6 ปี)

หมออายุ 50-60 ปี เคยผ่านประสบการณ์ “อินเทิร์น” มาก่อน ต้องเจอสภาพการเดินทางยากลำบาก ถนนลูกรัง บ้านพัก
ผุ ๆ พัง ๆ หลังคารั่ว ต้องจุดตะเกียง-เทียนไข เพราะไม่มีไฟฟ้า ต้องนอนกางมุ้ง เป็นต้น

นั่นคือสภาพในอดีต แต่ปัจจุบันโลกมันเปลี่ยนไป จะให้หมออินเทิร์นมาแหวก ๆ บ้านพักแล้วซุกหัวนอน มันไม่ได้หรอก! โดยมีตัวอย่างที่ จ.หนองบัวลำภู หมออินเทิร์นไม่ถึง 3 ปี ลาออกไปแล้ว 8 คน จากทั้งหมด 15 คน นพ.โอภาสและนพ.ทวีศิลป์ ลองไปถาม 8 คน ว่าลาออกเพราะอะไร?

2.ตารางเวรอัดแน่น ทำงานหัวทิ่ม! หมออินเทิร์นรายได้เดือนละ 5-6 หมื่นบาทก็จริงอยู่! แต่ต้องแลกกับภาวะงานหนัก ต้องควงเวรดึกบ่อย ๆ เวลาพักผ่อนน้อย นี่ยังไม่รวมปัญหาจุกจิกจากคนไข้ และการฟ้องร้องหมอ

3.หมอผู้ใหญ่ (อาจารย์หมอ) บางท่านไม่ได้เป็น “พี่เลี้ยง” ที่ดีให้กับหมออินเทิร์น ปล่อยให้หมออินเทิร์นต้องรับหน้ากับคนไข้ไปก่อน เพราะหมอผู้ใหญ่ติดธุรกิจส่วนตัวอยู่ที่คลินิก พอมีปัญหา CASE หนัก ๆ ก็ติดต่อยาก ไม่รับโทรศัพท์ หรือถ้ารับโทรศัพท์มักจะตำหนิหมออินเทิร์นว่าทำไมไม่ทำอย่างนั้น ทำไมไม่ทำอย่างนี้ โดยใช้ถ้อยคำค่อนข้างรุนแรง เหยียดหยาม โดยเฉพาะหมอที่จบมาคนละสถาบันการศึกษา จะมีปัญหามาก

บาง CASE หลายชั่วโมงแล้ว แต่ยังติดต่อหมอผู้ใหญ่ไม่ได้ ไม่รับโทรศัพท์ เขาจึงต้องลงในบันทึกว่า “ติดต่อไม่ได้” สุดท้ายคือเจอหมอผู้ใหญ่อาละวาด เอ็ดตะโร

4.ทำไม? หมออินเทิร์น 3 ปี จะไปเรียนต่อเชี่ยวชาญ (เฉพาะทาง) ยากเย็นแสนเข็ญจัง! ยากเย็นจนที่คนไม่มีเส้นสาย “หมดสิทธิ” แล้วแบบนี้จะสร้างหมอที่มีคุณภาพ หมอเฉพาะทางผู้เชี่ยวชาญได้อย่างไร?

5.วงการ “หมอ” เหมือนจะเกรงอกเกรงใจกันหรือเปล่า? เคยรักษาใครต้องไปรักษาคนนั้น บางกรณี (รพ.เอกชน) ขนาดหมอบางคนโปรไฟล์ดีมาก! แต่พอเห็นคนไข้เคยรักษากับ “หมอผู้ใหญ่กว่า” มาก่อน จะไม่กล้าหรือเลี่ยงรักษาเลย! แล้วแบบนี้หมอจบเฉพาะทางมาได้ไม่นาน เมื่อไหร่จะมีโอกาสสร้างชื่อเสียง-เติบโต

ที่ไล่เลียงมาทั้งหมดก็ด้วยความหวังดี และเคารพคุณหมอทุกท่าน ที่ช่วยกันดูแลรักษาคนไข้ไม่ว่าจะคนรวยหรือคนจน แต่อยากสะท้อนปัญหาเพื่อให้เกิดการแก้ไขอย่างตอบโจทย์และตรงจุด เท่านั้นจริงๆ.

————————–
พยัคฆ์น้อย