“Transformers: Rise of the Beasts ทรานส์ฟอร์เมอร์ส: กำเนิดจักรกลอสูร” ภาพยนตร์ลำดับที่ 7 ของแฟรนไชส์รถแปลงร่างเป็นหุ่นยนต์ “Transformers” ที่เคยสร้างความประทับใจให้ผู้คนทั่วโลกกับภาคแรกที่ออกฉายเมื่อปี 2007 แม้ภาคต่อ ๆ มา Transformers: Revenge of the Fallen (2009), Transformers: Dark of the Moon (2011), Transformers: Age of Extinction (2014), Transformers: The Last Knight (2017) จะค่อย ๆ ถอยหลังลงคลองไปเรื่อย ๆ จนหลายคนเทกระจาดใส่แฟรนไชส์หนังเรื่องนี้ไปแล้ว ทว่า Bumblebee (2018) ที่เป็นหนังไซส์สตอรี่ภาคแยกก็สามารถกู้ศรัทธาคืนจากแฟน ๆ ได้อย่างสุดยิ่งใหญ่ ด้วยการกวาดเงินไปถล่มทลายถึง 468 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ต่อชีวิต Transformers ให้เดินหน้าต่อไปได้สำเร็จ ทำให้ Transformers: Rise of the Beasts ถือเป็นหนังภาคที่สำคัญมาก ๆ ต่อแฟรนไชส์นี้ จะไปต่อได้สวย ๆ หรือดิ่งลงเหวอีก ก็ขึ้นอยู่กับหนังภาคนี้เลย

Transformers: Rise of the Beasts จะพาเราย้อนกลับไปในปี 1994 ช่วงเวลา 7 ปีหลังจากหนัง Bumblebee ซึ่งเป็นเหตุการณ์ก่อน Transformers ภาคแรกในปี 2007 เป็นเรื่องราวที่โลกต้องเผชิญหน้ากับมหาวายร้าย UNICRON ที่หวังจะเข้ามากลืนกินดาวโลก ทำให้เหล่ามนุษย์ต้องร่วมมือกับ ออโตบอตส์ (Autobots) และแม็กซิมอลส์ (Maximals) เพื่อหยุดยั้งการเขมือบโลกครั้งนี้

จุดแข็งของ Transformers: Rise of the Beasts

การนำเส้นเรื่องความดราม่ากระแทกใจ ความสัมพันธ์ระหว่างตัวละคร ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์กับมนุษย์ หรือมนุษย์กับหุ่น หรือหุ่นกับหุ่น และฉากแอ็คชั่นอลังการงานสร้าง ผสมปนเปเข้าด้วยกันจนกลายเป็นสูตรสำเร็จความสนุก

และการที่หนังเล่าย้อนไปในช่วงเวลายุค 90 ทีมโปรดักชั่นส์จึงต้องทำงานอย่างหนักในการทำให้เราเชื่อว่า ทุกอย่างในหนังเกิดขึ้นในยุคนั้นจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าหน้าผม ตึกรามบ้านช่อง รถรา ฯลฯ ซึ่งทีมผู้สร้างก็ทำได้อย่างยอดเยี่ยม

การทุ่มทุนสร้างยกกองไปถ่ายทำที่ไอซ์แลนด์, แคนาดา, นิวยอร์ก และที่สุดของที่สุดคือการบุกสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของโลกอย่าง มาชูปิกชู ในประเทศเปรู ซึ่งเป็นหนังฮอลลีวู้ดเรื่องแรกที่ไปถ่ายทำที่นั่น แม้จะมีอุปสรรคและความยากลำบากมากมาย แต่ก็แลกมาด้วยภาพอันแสนสวยงามเรียล ๆ โดยไม่ต้องใช้ CG ช่วยแต่อย่างใด

ความโดดเด่นของตัวละครต่าง ๆ ก็ทำให้หนังน่าดูมาก ๆ เริ่มตั้งแต่พระเอก “แอนโทนี รามอส” ซึ่งโด่งดังมาจากละครเวที การแสดงของเขามีความ Old School ตามมาด้วย “โดมินิก ฟิชแบ็ก” นางเอกในแบบฉบับหนังยุคใหม่ ที่ไม่ต้องสวยหยาดเยิ้ม ไม่ต้องหุ่นนางแบบสูงยาวเข่าดี และหุ่นตัวใหม่ ๆ อย่าง ARCEE พลแม่นปืนสาวในร่างรถมอเตอร์ไซค์ดูคาติ, WHEELJACK หุ่นสุดเท่ที่แปลงตัวเป็นรถตู้ Volkswagen ยุคปี 70, STRATOSPHERE หุ่นเครื่องบินรบสุดเก๋า

รวมทั้งหุ่นยนต์สัตว์ Maximals นำทัพมาโดย OPTIMUS PRIMAL จักรกลคิงคองสุดแกร่ง, RHINOX จักรกลแรดสุดห้าวหาญ, CHEETOR จักรกลร่างเสือชีตาห์ และ AIRAZOR จักรกลร่างเหยี่ยว ซึ่งให้เสียงโดย มิเชล โหย่ว นักแสดงดีกรีออสการ์จากเอเชีย

และตัวละครที่แย่งซีนทุกคนได้ทุกครั้งที่ออกจอ ก็คือ “มิราจ” (Mirage) เจ้าหุ่นสุดแสบที่อยู่ในร่างของรถ PORSCHE 911 CARRERA RS 3.8 ซึ่งได้ พีท ดาวิดสัน มาให้เสียง ความโดดเด่นของ Mirage นั้นเกินหน้าเกินตาคนอื่น ๆ ไปไกล ชนิดที่ว่าถ้าได้สะสมบารมีอีกสัก 1-2 ภาค มีโอกาสจะมีหนังภาคแยกของตัวเองเหมือน Bumblebee ได้เลย

จุดอ่อนของ Transformers: Rise of the Beasts

แม้ 2 นักแสดงนำอย่างพระเอก แอนโทนี รามอส กับนางเอก โดมินิก ฟิชแบ็ก จะเป็นที่ถูกใจของใครหลาย ๆ คน แต่ก็มีคนที่ไม่ถูกใจอยู่ไม่ใช่น้อย ๆ เช่นกัน เพราะไม่ได้สวยหล่อจนกระชากใจคนดูได้

ส่วนตัวของหมีเช รู้สึกว่าการแสดงของ แอนโทนี รามอส โดยเฉพาะในฉากที่ต้องทำตัวเท่ ยังดูแข็ง ๆ เกร็ง ๆ อยู่ ผิดกับฉากแสดงอารมณ์ต่าง ๆ ที่เขาทำได้ดี

หนังไม่มีอะไรแปลกใหม่ เดินเรื่องไปตามสูตรสำเร็จเดิม ๆ

4/5
ผู้กำกับ สตีเว่น เคเปิล จูเนียร์ สามารถนำเสน่ห์ใหม่ ๆ มามอบให้กับแฟรนไชส์ Transformers ความ Old School ที่ผสมผสานกับความทันสมัยของหุ่นแปลงร่าง ฉากแอ็คชั่นที่ยิ่งใหญ่อลังการ หนังไม่ยาวเกินไป 117 นาที กำลังพอดิบพอดี และตอนจบมีเซอร์ไพร้ส์ให้ได้กรี๊ดออกมาดัง ๆ กันด้วย

หมีเช