อีกเพียง 1 สัปดาห์ ก็จะครบ 1 เดือน ของการเลือกตั้ง แม้ทาง สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะเผยแพร่รายงานผลการเลือกตั้ง ส.ส. ทั่วไป ปี 2566 ครบ 100% ไปแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ
พรรคก้าวไกล อันดับ 1 ได้ ส.ส.แบ่งเขต 112 คน, ส.ส. บัญชีรายชื่อ 39 คน (คะแนนรวม 14,438,851 คะแนน) ส่วน พรรคเพื่อไทย อันดับ 2 ส.ส. แบ่งเขต 112 คน, ส.ส.บัญชีรายชื่อ 29 คน (คะแนนรวม 10,962,522 คะแนน) ยังคงจับมือ 6 พรรค คือ ประชาชาติ, ไทยสร้างไทย, เพื่อไทรวมพลัง, เสรีรวมไทย, เป็นธรรม และ พลังสังคมใหม่ เดินหน้าจัดตั้งรัฐบาล
ท่ามกลางความงุนงงของนานาชาติ แม้พรรคการเมือง(ฝ่ายค้านเก่า) กลุ่มเสรีนิยม ต่อต้านรัฐประหาร อุตส่าห์ฝ่าอุปสรรคห่ากระสุนดินดำ เผด็จศึกเล่นงานพรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาลเก่า กลุ่มอนุรักษนิยมที่อิงแอบรัฐประหาร ก็ใช่จะตั้งรัฐบาลได้ง่าย ๆ เพราะต้องลุยสารพัดกับดักขวากหนามขวางหน้าอีกมากมาย ทั้งที่ประชาชนกว่า 25 ล้านเสียง ได้เลือก ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และเพื่อไทย (ยังไม่รวมอีก 6 พรรค) ก็ทิ้งห่างพรรคซีกรัฐบาลเก่าแบบไม่เห็นฝุ่น
เสียงฉันทามติประชาชนอยากจะเห็นความเปลี่ยนแปลง หลังให้โอกาสรัฐบาลที่แปลงร่างมาจากรัฐประหารได้บริหารประเทศมา 8-9 ปีแล้ว แต่เมื่อถึงเวลาจะเปลี่ยนผ่านให้ฝ่ายค้านเก่าที่ต่อต้านรัฐประหารได้เข้ามาบริหารประเทศบ้างกลับกลายเป็นเรื่องยากเย็นจนเกินจะคาดเดา ถึงขั้นโยนหินออกมาหวังจะล้มกระดานให้ได้
ในเมื่ออีกฝ่ายไม่ยอมพ่ายแพ้ง่าย ๆ หวังอาศัยช่องโหว่ในรัฐธรรมนูญที่พวกตัวเองร่วมกันเขียนขึ้นมา แต่ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 จึงเดินหน้าแสดงบทบาทภาวะผู้นำหนุ่มรุ่นใหม่ออกมาให้เห็น เพียงแค่ไม่กี่สัปดาห์มีหลายสิ่งหลายอย่าง ประชาชนอาจจะไม่เคยสัมผัสได้จากผู้นำที่แต่งเพลงวาดฝัน ’เราจะทำตามสัญญา ขอเวลาอีกไม่นาน แล้วแผ่นดินที่งดงามจะคืนกลับมา“ ความเป็นจริงหลายปัญหาก่อนรัฐประหารยังอยู่คงเดิม
ลองจิ้มเพียงแค่หน่วยงาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตอนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สมัยยังเป็น ผบ.ทบ. นำกองทัพยึดอำนาจ รัฐประหาร 22 พ.ค. 2557 อ้างจะเข้ามา ปฏิรูปประเทศ ที่สำคัญ “ตำรวจ” เป็นหน่วยงานเป้าหมายแรก ๆ จะต้องปฏิรูป พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ควบเก้าอี้ รมว.กลาโหม พร้อมดึงเอาสำนักงานตำรวจแห่งชาติไปดูแลเองด้วย ได้พิสูจน์ฝีมือให้เห็น แต่สุดท้ายปัญหาวงการสีกากียังคงเดิม !!
แค่ลองไปไล่เรียงปัญหาใหญ่รอบ 2-3 ปีที่ผ่านมา หากยังจำกันได้ ตั้งแต่ คดีผู้กำกับโจ้–พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล อดีต ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์, คดี ส.ต.ท.หญิง ทำร้ายร่างกายทรมาน ทหารหญิง จนถูกตีแผ่ให้เห็นปัญหาระบบอุปถัมภ์สั่นสะเทือนไปหลายวงการ, คดี ส.ต.อ.คลั่งสติแตก โศกนาฏกรรมหนองบัว ลำภู สังหารหมู่เด็กนักเรียนไร้เดียงสา ยิ่งมาแจ๊กพอตแตก แก๊งมังกรข้ามชาติ ขยายอิทธิพลบานปลายเป็น เครือข่ายทุนจีนสีเทา ปราบปรามยังไม่สะเด็ดน้ำ ล่าสุดโผล่มาให้ถูกจับกลางเมืองกรุง เปิดผับหรูมั่วยาเสพติดแบบไม่ยำเกรงกฎหมายไทย
ยังไม่รวมปัญหา เครือข่ายพนันออนไลน์ เม็ดเงินมหาศาลที่มี ก๊วนสีกากีนอกรีต เข้าไปเป็น หัวโจกใหญ่ ฝังรากลึกมานาน ไม่รู้ขุดรากถอนโคนกันไปถึงไหนแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ รัฐประหารเข้ามาก็ยังปราบไม่ได้
นับเป็นโอกาสดี พรรคก้าวไกล เคยตามเกาะติดปัญหาวงการสีกากี กำลังมีโอกาสจะได้บริหารประเทศ เชื่อว่าคงได้เห็นอะไรเปลี่ยนแปลง ขนาดยังไม่ได้เป็นรัฐบาล ทั้งปัญหา ส่วยสติกเกอร์สิบล้อ ส่วยลอตเตอรี่ ส่วยต่างด้าว ฯลฯ เริ่มถูกขุดคุ้ยเปิดโปงออกมาต่อเนื่อง หากก้าวไกลได้กำกับดูแล สตช. ท่าทางเก้าอี้ “พิทักษ์ 1” อาจหนาว ๆ ร้อน ๆ ก่อนถึงวันเกษียณก.ย.นี้ หลังเจอระเบิดลูกใหญ่ทั้ง “ส่วยสติกเกอร์-แก๊งมังกรข้ามชาติ” โผล่มาพร้อม ๆ กันในช่วงกำลังเปลี่ยนผ่านรัฐบาล!!
————-
เชิงผา
