สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 4 ก.ย.ว่ากระทรวงสาธารณสุขของออสเตรเลียรายงานสถิติผู้ป่วยโรคโควิด-19 สะสมในประเทศอย่างน้อย 59,968 คน เพิ่มขึ้น 1,758 คน เป็นสถิติรายวันสูงสุดครั้งใหม่ โดยจากจำนวนดังกล่าวเป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศเพียง 2 คน
ด้านผู้ติดเชื้อต้องรักษาตัวอยู่ในระบบ มีอีกอย่างน้อย 24,519 คน ส่วนสถิติผู้เสียชีวิตสะสมที่อย่างน้อย 1,036 ราย เพิ่มขึ้น 4 ราย ทั้งหมดอยู่ที่รัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งพบผู้ป่วยจากภายในพื้นที่เพิ่มอีก 1,533 คน 
9 News Australia
ขณะที่รัฐวิกตอเรียซึ่งอยู่ติดกัน พบผู้ป่วยยืนยันจากภายในชุมชน 190 คน กรุงแคนเบอร์ราพบผู้ติดเชื้อจากภายในพื้นที่ 32 คน และรัฐควีนส์แลนด์ยืนยันผู้ป่วยจากภายในชุมชนเพิ่มขึ้น 1 คน โดยเฉลี่ยแล้วกลุ่มรัฐใหญ่เหล่านี้พบผู้ป่วยรายวันเพิ่มขึ้น 2 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งเป็นการแพร่ระบาดระลอกแรกสำหรับออสเตรเลีย
นพ.เบรตต์ ซัตตัน สาธารณสุขรัฐวิกตอเรีย กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในรัฐวิกตอเรีย ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของเมืองเมลเบิร์น เมืองใหญ่อันดับสองของประเทศ "ยังไม่ถึงจุดสูงสุด" การฉีดวัคซีนและการปฏิบัติตามมาตรการควบคุมทางสังคมคือสิ่งสำคัญ
9 News Australia
ส่วนทางการรัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองซิดนีย์ เมืองใหญ่ที่สุดของออสเตรเลีย คาดการณ์จะยังคงพบผู้ป่วยวันละไม่ต่ำกว่า 1,000 คน ต่อเนื่องอีกประมาณ 2 สัปดาห์ และสัดส่วนการครองเตียงของผู้ป่วยโควิด-19 ในโรงพยาบาล จะถึงจุดสูงสุดในเดือนหน้า พร้อมทั้งเน้นย้ำความสำคัญของการฉีดวัคซีนเช่นกัน โดยเผยว่า จำนวนผู้ป่วยหนักอย่างน้อย 137 จาก 173 คนในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ยังไม่เคยได้รับวัคซีน
ปัจจุบัน ประมาณ 37.1% ของประชากรในออสเตรเลีย ซึ่งมีประมาณ 25.8 ล้านคน ได้รับวัคซีนครบแล้ว และ 61.3% ฉีดวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 เข็ม.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES