อย่างเมื่อเดือน มี.ค. 2566 มีกรณีคลิปชาวต่างชาติ-สาวชุดแดง บรรเลงเพลงรักกันริมชายหาดอย่างไม่แคร์สายตาผู้คนที่ผ่านไปผ่านมา แต่ที่เป็นคู่คนไทยก็ใช่ว่าจะไม่มี อย่างเมื่อเร็ว ๆ นี้ก็ฮือฮากันบนโลกโซเชียล เมื่อปรากฏคลิปและภาพคู่รักชายหญิงคู่หนึ่ง ซึ่งนี่ก็ “บรรเลงเพลงรักริมหาด” แห่งหนึ่ง ที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวมีชื่อเสียงของจังหวัดหนึ่งทางภาคใต้ ซึ่งแม้ว่าจะเป็นในเต็นท์ แต่ก็ “ปุจฉากันเซ็งแซ่”…
ทำไมถึง “กล้ามีเซ็กซ์แบบเปิดเผย??”
อะไรคือ “แรงจูงใจ??-ปัจจัยกระตุ้น??”
เรื่องนี้-กรณีนี้ “มุมจิตวิทยามีวิสัชนา”…
ทั้งนี้ กับกรณี “มีเพศสัมพันธ์ในที่สาธารณะ” หรือ “เซ็กซ์เอาต์ดอร์” ที่ผ่านมาในประเทศไทยก็เคยมีกรณีลักษณะนี้ โดยที่เป็นคู่คนไทยไม่ใช่ชาวต่างชาติ เคยเกิดกระแสครึกโครมอยู่เนือง ๆ จนทำให้สังคมไทยเคยเกิด “ปุจฉา” กับกรณีในลักษณะนี้มาก่อนแล้ว รวมถึงมีการวิเคราะห์ผ่าน “มุมจิตวิทยา” ว่า…การที่ “กล้ามีเซ็กซ์แบบเปิดเผย” กรณีแบบนี้นี่เพราะ…
ยั้งไม่อยู่…อยากตื่นเต้น…หรือยังไง??
พลิกแฟ้มดูกันผ่าน “มุมจิตวิทยา” อีกครั้ง…เกี่ยวกับพฤติกรรม-การแสดงออกในลักษณะนี้ ทาง ดร.วัลลภ ปิยะมโนธรรม นักจิตวิทยา ได้เคยวิเคราะห์และเคยสะท้อนแง่มุมผ่านทาง “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” ไว้ว่า… กับกลุ่มคนที่ ชอบการมีเซ็กซ์นอกสถานที่-ตามสถานที่สาธารณะ หรือที่เรียกกันว่า “เซ็กซ์เอาต์ดอร์” และรวมถึงกลุ่มคนที่ ชอบโชว์การมีเพศสัมพันธ์ให้ผู้อื่นเห็น นั้น ในแง่มุมพฤติกรรมศาสตร์ ในทางศาสตร์ด้านจิตวิทยา จะถือว่าเป็นกลุ่ม “พฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศ (Exhibitionism)” ซึ่งก็จะมีทั้งกลุ่มที่ ชอบโชว์อวัยวะเพศ ไปจนถึงกลุ่มที่ชอบโชว์การมีเพศสัมพันธ์ให้ผู้อื่นเห็น…ซึ่งถ้าเป็นกลุ่มนี้ ก็เพื่อจะ กระตุ้นความรู้สึกตื่นเต้นและอารมณ์ทางเพศ นี่ถูกจัดเป็นกลุ่มคนที่ มีความสุขทางเพศแบบไม่ปกติ!!
หรือ “เข้าข่ายพฤติกรรมแบบกามวิปริต”
ทาง ดร.วัลลภ ได้ระบุในภาพรวมไว้อีกว่า… พฤติกรรมดังกล่าว ระยะเริ่มต้นอาจจะแค่ ความรู้สึกท้าทาย ที่ได้ทำเรื่องที่แหกกฎและขนบสังคม ด้วยการเปลี่ยนสถานที่มีเพศสัมพันธ์ ไม่ใช่จำกัดอยู่แค่เพียงในห้องนอน แต่ในระยะต่อไป เมื่อมีแนวโน้มพฤติกรรมที่ผิดปกติมากขึ้นอีก การย้ายสถานที่ออกจากห้องนอนเพียงอย่างเดียวนั้นก็จะมิอาจตอบสนองความสุขทางเพศได้ จึงทำให้ต้องพยายาม ค้นหาความตื่นเต้นรูปแบบใหม่ เช่น การ มีเซ็กซ์ในสถานที่สาธารณะ มีเซ็กซ์ในสถานที่ที่มีคนพลุกพล่าน เพื่อจะกระตุ้นความรู้สึกตื่นเต้น เพื่อให้เกิดอารมณ์ทางเพศ ทั้ง ๆ ที่ทราบดีว่าผิดศีลธรรม-ผิดกฎหมาย แต่…
“ไม่สามารถยับยั้งชั่งใจ-ความต้องการ”
จน “พฤติกรรมเลยเถิดเตลิดไปไกล!!”
อย่างไรก็ตาม กับเรื่องลักษณะนี้ ดร.วัลลภ ยังระบุไว้ว่า… ยุคนี้พฤติกรรมแบบนี้น่าจะมีหลายกลุ่ม คือมีทั้งกลุ่มที่สมัครใจ หรือ ทำเพราะเป็นความสะใจ!! และอีกกลุ่มหนึ่งคือกลุ่มที่ ทำเพื่อเงิน!! เพราะเห็นช่องทางในการสร้างรายได้จากเรื่องนี้ได้ รวมถึงอาจมีกลุ่มที่ มีพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศ อยู่แล้ว ที่อาจจะทำเพราะต้องการโชว์ให้คนอื่น ๆ พบเห็น
เช่นเดียวกับกรณี “ชอบโชว์อวัยวะเพศ” ที่ในสังคมไทยยุคนี้มีปรากฏไม่น้อย ทาง ดร.วัลลภ มองว่า…ก็มีหลายสาเหตุที่ทำให้ตัดสินใจทำ ทำเพราะความรู้สึกพอใจ ทำเพราะธรรมชาติภายในเรียกร้อง หรืออาจ ทำเพราะต้องการแสดงออกถึงความเป็นคนยุคใหม่ที่ไม่แคร์โลก-ไม่แคร์สังคม ซึ่งสำหรับอย่างหลังนี่เป็นผลจาก “ค่านิยมอยากเด่นดัง”
ทำให้เกิด “รสนิยมผิด ๆ…ค่านิยมผิด ๆ”
ทั้งนี้ พลิกแฟ้มโฟกัสที่ “เซ็กซ์เอาต์ดอร์” ที่มิใช่แค่โชว์ของลับ นักจิตวิทยาคนเดิมได้ชี้ไว้ว่า… ถ้าทำแค่บางครั้งบางคราว ทำแล้วรู้สึกผิด ตัดสินใจเลิกทำ ก็อาจจะเป็นเพียงต้องการความรู้สึกท้าทายใหม่ ๆ แต่ถ้าถอนตัวไม่ขึ้น กู่ไม่กลับ จนนำสู่การทำซ้ำแบบนี้บ่อย ๆ เรื่อย ๆ กรณีนี้ก็อาจถึงขั้น “เสพติด” จนนำไปสู่อาการ “ป่วยทางจิต” ได้!!
ทาง ดร.วัลลภ ยังได้สะท้อนแง่มุมผ่าน “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” ไว้ด้วยว่า… ปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดพฤติกรรม “เซ็กซ์เอาต์ดอร์ในอดีต” นั้นส่วนใหญ่มักเกิดจากความรู้สึก ท้าทาย หรือตื่นเต้น แต่กับปัจจัยกระตุ้นให้เกิด “เซ็กซ์เอาต์ดอร์ในปัจจุบัน” น่าจะมีปัจจัยเพิ่มเติมคือจากการที่มี เทคโนโลยี ทันสมัย ที่สามารถใช้งานได้ง่ายและสะดวกมากกว่าในอดีต รวมถึงมีปัจจัย รายได้-ผลประโยชน์…จากการใช้สื่อโซเชียล สื่อออนไลน์ เพื่อเป็นช่องทางหาเงินจากเรื่องนี้ ด้วย
เทคโนโลยีที่ทันสมัยขึ้น-ใช้งานง่ายขึ้น…ก็ตัวกระตุ้น โดยช่องทางโซเชียลช่วยให้สามารถโชว์ให้คนเห็นได้มากขึ้น แถมยังอาจมีรายได้จากการกระทำแบบนี้อีกต่างหาก ก็เลยยิ่งทำให้คนกล้าแสดงออกแบบนี้ง่ายขึ้น …นี่เป็นอีกส่วนจากการสะท้อนไว้โดย ดร.วัลลภ ปิยะมโนธรรม …ซึ่งกับเทคโนโลยีนั้น…ก็ มีหลายเคสที่คนที่พบเห็นกลายเป็นคนเผยแพร่การโชว์??
ไม่ว่าเพราะปัจจัยใดที่ทำให้เกิดกรณีนี้
“เซ็กซ์เอาต์ดอร์” ในสถานที่สาธารณะ
วันนี้ก็ “แพร่ระบาดในไทยอื้อแล้ว!!”.
