ชัยชนะเป็นของพรรคฝ่ายประชาธิปไตย เพื่อไทย ไม่แลนด์สไลด์ตามเป้า 280-310 เสียง และเอาเข้าจริงห่างเป้าไปไกล ได้เพียง 141 เสียง  ส่วน พรรคก้าวไกล แปรกระแส “ส้มรักพ่อ” เป็นคะแนนเสียงถึง 151 ที่นั่ง ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล 2 พรรคนี้ได้ไป 292 เสียง เกินครึ่งของสภา 500 เสียง ถึง 42 เสียง ถ้าบ้านเมืองที่เป็นประชาธิปไตยปกติ ตั้งรัฐบาลได้สบายมาก แต่ในสภาพการเมืองไทยที่รัฐธรรมนูญอัปยศ ให้สิทธิ 250 ส.ว.ลากตั้งเลือกนายกฯ ได้

ฉันทามติ 292 เสียงจึงยังไม่พอจะปิดสวิตช์ ส.ว. ต้องได้ถึง 376 เสียง ถึงจะโอเค แล้วยังมีองค์กรอิสระ (จากประชาชน) เช่น กกต. ที่พร้อมแจก ใบเหลือง ใบแดง กระทั่งส่งศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคได้ง่าย ๆ 

ขวากหนามฝ่ายประชาธิปไตยจึงมีกับระเบิดหลายลูกรอ “บึ้ม” อยู่ ดูเถอะ ยังไม่ทันไรเลย นักข่าวป้อนคำถามใส่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา หลังรู้ผลเลือกตั้งทันทีว่า พรรคก้าวไกลได้เสียงมากขนาดนี้ จะมีปฏิวัติหรือไม่ ชุดคำถามสุด “โหลยโท่ย” แบบนี้ เกิดได้ไง ทำไมเราไม่ได้ยินนักข่าว ถาม พล.อ.ประยุทธ์บ้างว่า  เมื่อมติมหาชนเลือกฝ่ายประชาธิปไตยมากขนาดนี้ ท่านคิดว่า ส.ว.ที่ท่านแต่งตั้งมากับมือ ควรจะโหวตเลือกนายกฯ ตามฉันทามติของประชาชนหรือไม่ หรือฝืนกระแส ไม่แยแส

นี่กระมังที่นักวิชาการบอก การปฏิวัติ เลวร้ายแล้ว แต่การทำให้การปฏิวัติเป็นเรื่องปกติได้ขนาดนี้ มันเลวร้ายกว่าเยอะ เมื่อไหร่ประเทศเราจะพ้น “วงจรอุบาทว์” นี้เสียที ล่าสุดแม้ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. จะออกมาขอให้ลบคำ “ปฏิวัติ” ออกจากพจนานุกรมนักข่าว  แต่นักข่าวก็ไม่เชื่อ (ฟัง ) เพราะพูดแล้วเกิดทุกครั้ง ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่ ว่างั้นเถอะ แต่นั่นล่ะ เป็นคำถาม ไร้รสนิยม  ไม่สร้างสรรค์  ทำลายประชาธฺิปไตย    

กลับมาที่ ผลเลือกตั้ง สะท้านแผ่นดิน สำหรับ เพื่อไทย แล้ว ในช่วงยี่สิบปีนี้คือ พรรคที่ผลิตนโยบายดี ๆ ให้ประชาชนจนชนะเลือกตั้งทุกครั้ง แม้ถูกทุบทำลายล้างยังไง ก็ฝ่าด่านไปได้  ก่อนหน้า ปรากฏการณ์ก้าวไกล ที่ พิธา ลิมเจริญรัตน์ ประกาศจุดยืน “มีลุงไม่มีเรา มีเราไม่มีลุง” ทุกโพลเพื่อไทยได้ที่หนึ่ง  มา 2 อาทิตย์สุดท้ายหรอกที่คะแนนไหลออกเป็นทำนบแตก ยิ่ง ทักษิณ ชินวัตร วอแวเรื่อง ขออนุญาตกลับบ้านเลี้ยงหลาน คนยิ่งตัดสินใจง่าย  ปั่นกันง่าย นี่ไง ดีลลับ  (อีกแล้ว)      

ใน กทม. ส้มกินแทบทุกเขต เหลือให้ อิ่ม-ธีรารัตน์ สำเร็จวณิชย์ แดงแค่ที่เดียว (ชนะก้าวไกล 4 คะแนน) เขตอื่นทั่วประเทศ ก้าวไกล “ล้มช้าง” เป็นแถบ ๆ เพื่อไทย มีสิทธิใจเสีย ถึงเสียใจ อย่างที่ เศรษฐา ทวีสิน บอก แต่ควรขอบคุณ ก้าวไกล ที่จะทำให้ เพื่อไทย ได้เวลาหันมา “ปฏิรูปพรรค” ให้เข้มแข็ง  เป็น “สถาบันการเมือง” ที่อยู่ในใจของประชาชนอย่างเดิม

ถ้าพรรคก้าวไกลอยู่รอด อีกไม่กี่ปี นี่คือ พรรคคู่มือที่เพื่อไทยต้องปะทะอย่างสมศักดิ์ศรี

แผ่นดินไหวยังไปเกิดที่พรรคประชาธิปัตย์ แม้จะออกมาขอให้ Save ตัวเอง ในโค้งสุดท้าย  แต่กลับว่างเปล่า อย่าว่าแต่ประชาชนเลย แม้แต่คนประชาธิปัตย์เอง อาจไม่รู้จุดยืนตัวเองอยู่ไหน จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ต้องลาออกจากหัวหน้าพรรค รับผิดชอบที่นำทัพได้มาแค่ 25 เสียง แนวโน้มจะเป็นพรรคท้องถิ่นสูงมาก  แม้แต่ภูเก็ตก้าวไกลยังเจาะได้ถึง 3 ที่นั่ง  หักเสาไฟฟ้าระเนนระนาด 

สำหรับ 2 ลุงแล้ว ไม่อยากเก็บฉากก็ต้องเก็บ เพราะคนเลิกดู กลายเป็นโรงละครร้างในที่สุด  คนกำลังรอดูว่า พรรค
ก้าวไกลที่มีนโยบายปฏิรูปกองทัพ ล้มล้างผลพวงการปฏิวัติ 3 ลุงจะพบจุดจบยังไง  เหมือนที่ “งูเห่าส้ม” ตายเรียบมั้ย

สายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงมาแล้ว ก้าวไกล ใต้การนำของ พิธา  จะจับมือ เพื่อไทย และพรรคฝ่ายเสรีอื่น ๆ (พิธาบอกรวมได้ 309 เสียงแล้ว ไม่รวมภูมิใจไทย) บริหารประเทศในสถานการณ์พิเศษ พร้อม “พันธกิจยิ่งใหญ่” เอาประชาธิปไตย
คืนมา หยุด “วงจรอุบาทว์ถาวร” ได้หรือไม่ 250 ส.ว.ลากตั้งจะหา “ทางออก” หรือสร้าง “ทางตัน” ให้ประเทศ ดูกันต่อไป.

————————–
ดาวประกายพรึก