การต่อสู้คือวิธีการเอาชนะความยากจนในประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งรู้กันอยู่โดยทั่วไปแล้ว แต่การเป็นนักมวยเจ้าของเข็มขัดแชมป์โลก 8 เส้น และการเป็นคนดังที่คนต้องยอมจ่ายเงินเพื่อดูการชกมวยของเขา จนเรียกได้ว่าเป็นตัวท็อปอีกคนหนึ่งก็ว่าได้ จนถือได้ว่าเป็นตำนานนักชกอีกคนหนึ่ง ซึ่งโลกจะต้องจดจำ

แล้วก็อย่าลืมด้วยว่า ปาเกียวยังมีอีกหนึ่งอาชีพในฐานะนักการเมือง จึงมีโอกาสเช่นกันที่เขาอาจจะได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีแห่งฟิลิปปินส์ ถ้าเขาเลือกเดินทางที่ถูกต้อง

Premier Boxing Champions

ข้อเท็จจริงตอนนี้สำหรับปาเกียว ในการออกจากมุมอย่างง่ายดาย ด้วยการประกาศแขวนนวมเลิกชกมวยเสียที หลังไฟต์ล่าสุดไปแพ้ให้กับยอร์เดนิส อูกัส ที่ลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา แม้จะได้ค่าเหนื่อยมามากถึง 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 750 ล้านบาท) ส่วนคู่ชกชนะได้ไป 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 60 ล้านบาท) เท่านั้น แต่ก็หวังว่าเขาจะพอมีเงินเก็บหลายร้อยล้าน เอาไว้ใช้หลังลงจากเวที

แม้เขายอมรับว่ายังชกได้อยู่ แต่ด้วยวัย 42 ปีแล้ว แม้ยังมีอีกหลายคนบอกว่า จะยอมเสียเงินซื้อตั๋วเข้าชมการชกมวยของเขา แต่จุดประสงค์และเจตนาของปาเกียว ดูเหมือนว่าจะเสร็จสมอารมณ์หมายแล้ว ซึ่งบางครั้งปาเกียวเองก็ได้ยอมรับว่าเขาอาจจะยังไม่พร้อมสำหรับการแขวนนวม ปาเกียวแถลงหลังชกเสร็จว่า ขอบคุณแฟนมวยทุกคน น้ำเสียงเหมือนกับว่า จะเป็นนัดสุดท้ายแล้วที่เขาจะได้ชกมวย แถมยังขอบคุณกีฬาชกมวย

South China Morning Post

ตามประวัติศาสตร์ของการเป็นนักกีฬามวยแล้ว ส่วนใหญ่นักชกจะไม่ได้แขวนนวมด้วยเหตุผลของตัวเองหรอก แม้แต่ยอดนักชกในตำนานรุ่นเฮฟวี่เวท อย่างสิงห์จอมโว “มูฮัมหมัด อาลี” ก็ไม่ได้อยู่ในข่ายยกเว้น นัดสุดท้ายเขาได้ไปชกที่เบอร์มิวดา และยังต้องมาสู้กับโรคพาร์กินสัน จนกระทั่งวาระสุดท้ายของชีวิต เมื่อ 3 มิ.ย. 2559

นักกีฬากอล์ฟเองอาจลงแข่งได้ยาวนานกว่า แต่ก็เชื่อได้ว่าผ่านจุดสูงสุดที่ประสบผลสำเร็จมาแล้ว ตัวอย่างเช่นนักกอล์ฟอเมริกัน อย่างฟิล มิคเคลสัน ได้แชมป์พีจีเอ ตอนอายุ 50 ปี นักกีฬาอเมริกันฟุตบอลในวัยเดียวกับปาเกียว ที่รัฐฟลอริดาหลายคนน่าจะรู้จัก ยอดควอเตอร์แบ็ก ทอม เบรดี้ ก็สามารถชนะได้แชมป์ซูเปอร์โบว์ล โดยไม่มีวี่แววว่าจะเลิกเล่น

แม้ปาเกียวจะไม่ดูเลวร้ายในวันชกนัดล่าสุดที่ผ่านมา ซึ่งเขาต้องแพ้คะแนนอย่างเป็นเอกฉันท์ชนิดเซียนมวยหลายรายมองว่าสู้ไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง แต่เขาก็มั่นใจว่า คงไม่เหมือนนักชกคนอื่นผู้สามารถเอาชนะเออร์รอล สเปนซ์ จูเนียร์ นักชกรุ่นเวลเตอร์เวท ซึ่งตามกำหนด จะต้องเป็นคู่ชกคนต่อไปของเขา แต่ได้มาตรวจเจออาการที่จอประสาทตา สองสัปดาห์ก่อนการชก

ปาเกียวรอดจากการถูกน็อกไปได้ แต่ชัยชนะได้ตกเป็นของอูกัสไปแล้ว เป็นสัญญาณบ่งบอกว่า 26 ปี ของการเป็นนักมวยอาชีพของปาเกียว อาจถึงเวลาแล้ว ที่จะต้องแขวนนวม

ปาเกียวบอกว่า เขาเป็นนักสู้ทั้งในเวทีและนอกเวที เขาต้องทำงานเพื่อประชาชนของเขา ในอนาคตคุณอาจจะไม่ได้เห็นปาเกียวบนเวทีอีกแล้ว แต่เขาก็มีความสุขกับความสำเร็จซึ่งเขาได้สร้างขึ้น และความสำเร็จนั้นมีหลายอย่างด้วยกัน และคุ้มค่าที่จะได้รับ ปาเกียวสู้ได้อย่างสุดยอดเกือบจะทุกนัด ยกเว้นนัดที่เขาแพ้ฟลอยด์ เมย์เวเทอร์ จูเนียร์

ปาเกียวไม่เพียงแต่ได้บรรจุชื่อลงในหอเกียรติยศแล้ว เขายังเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักต่อสู้ทั่วโลก จากเด็กซุกซนข้างถนน เขาได้ก้าวขึ้นมา เป็นหนึ่งในนักชกที่ได้รับค่าจ้างสูง และฉลองความสำเร็จมากมาย กล้าสู้กับทุกคนที่ขวางเส้นทางการชกของเขา

การชกแต่ละนัดของเขา ถือเป็นกิจกรรมระดับชาติในประเทศฟิลิปปินส์ ทุกชีวิตขอหยุดนิ่งในกิจกรรมที่ทำประจำสัก 1-2 ชั่วโมง เรียกว่าทุกคนจะต้องมาเฝ้าหน้าจอ เพื่อรอชมและส่งแรงใจเชียร์นักชกยอดขวัญใจคนนี้ ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังในสหรัฐอเมริกาด้วย แน่นอนว่าเขาได้ใช้เวลาฝึกภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สอง เพื่อใช้ในการสัมภาษณ์

ตอนนี้จึงไม่มีอะไรเหลือ สำหรับความสำเร็จที่จะต้องพิชิตให้ได้ ไม่ต้องมีเข็มขัดแชมป์อีกแล้ว และไม่ต้องมาคุยถึงการชกล้างตากับเมย์เวเทอร์ ซึ่งได้แขวนนวมไปแล้วด้วย โชคดีสำหรับปาเกียว ซึ่งมีทางเลือกที่สองในชีวิต เพราะขณะนี้เขามีตำแหน่งในทางการเมือง คือวุฒิสมาชิก และยังได้ลองพูดถึงความเป็นไปได้ ของการลงสมัครรับเลือกตั้ง ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีแห่งฟิลิปปินส์ในปีหน้า แม้การหยั่งเสียงประชามตินั้น ดูเหมือนว่าจะยังไม่ได้รับความนิยมอย่างมาก แต่ปาเกียวก็ได้ลงแข่งมาแล้วในทุกสนามการต่อสู้ เพราะความเป็นนักสู้ของเขานั่นเอง.

เลนซ์ซูม

เครดิตภาพ : AP