เมื่อวันที่ 9 พ.ค. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก.3 บก.ป. พ.ต.ท.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ รอง ผกก.3 บก.ป. แถลงผลการจับกุมพระลูกวัด วัดป่าธรรมคีรี จ.นครราชสีมา และ ฆราวาส ร่วมกระทำผิดยักยอกเงินวัดป่าธรรมคีรีเพิ่มเติม 6 คน ประกอบด้วย 1.นายบุญส่ง หรือพระบุญส่ง ผ่านภูวงษ์ อายุ 34 ปี 2.นายบัณฑิต หรือพระบัณฑิต ย่อยชา อายุ 42 ปี 3.นายณัฐพัช หรือพระณัฐพัช ตั้งใจสนอง อายุ 36 ปี 4.นายบุญเหลือ หรือพระบุญเหลือ โพธิ์ทอง อายุ 36 ปี 5.นายธนกฤต หรือพระธนกฤต ยศสุรินทร์ อายุ 34 ปี และ 6.นายบุญศักดิ์ ภัทรโกศล อายุ 45 ปี คนขับรถ ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบที่ 67-72/2566 ลงวันที่ 9 พ.ค. 66 ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานเบียดบังทรัพย์ไปเป็นของตนเองโดยทุจริต, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และร่วมกันรับของโจร พร้อมของกลาง เงินสด รวม 76,021,813 บาท ทองคำรูปพรรณ 920 รายการ น้ำหนักประมาณ 100 บาท มูลค่าประมาณ 2.8 ล้านบาท ทองคำแท่ง 46 รายการ น้ำหนักประมาณ 500 บาท มูลค่าประมาณ 16 ล้านบาท ทองคำแผ่น 540 รายการ น้ำหนักประมาณ 100 บาท มูลค่าประมาณ 3.2 ล้านบาท สมุดบัญชี 30 เล่มหนังสือเดินทาง 3 เล่ม รถตู้ 1 คันโทรศัพท์มือถือ 11 เครื่อง รวมมูลค่าของกลางทั้งหมดเกือบ 100 ล้านบาท    

พล.ต.ต.มนตรี เปิดเผยว่า ภายหลังการจับกุมตัว นายคม คงแก้ว หรืออดีตพระอาจารย์คม อภิวโร อายุ 39 ปี นาย วุฒิมา หรืออดีตพระหมอ เถาว์หมอ อายุ 38 ปี และ น.ส.จุฑาทิพย์ ภูบดีวโรชุพันธุ์ อายุ 35 ปี ร่วมกันยักยอกเงินวัดป่าธรรมคีรี ไปกว่า 180 ล้านบาท เมื่อวันที่ 6 พ.ค. แล้วนั้น ตำรวจกองปราบฯ ยังคงเร่งขยายผลต่อเนื่องจนทราบข้อมูลสำคัญจากการสอบปากคำนายวุฒิมา ว่าเคยนำเงินของวัด 9 ล้านบาท ไปซื้อทองคำตามคำสั่งพระอาจารย์คม มาเก็บรักษาไว้ในตู้เซฟภายในกุฏิ เช้าวันที่ 7 พ.ค. จึงเร่งนำกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบ แต่ไม่พบทองคำดังกล่าว

พล.ต.ต.มนตรี เปิดเผยต่อว่า หลังปรากฏกรณีดังกล่าวขึ้นมา เจ้าหน้าที่จึงเร่งแกะรอยสืบหาเบาะแส จนทราบว่าก่อนหน้าที่เจ้าหน้าที่จะเข้าไปตรวจสอบ ได้มีพระลูกวัด 5 รูป และฆราวาสอีก 1 คน ซึ่งเป็นคนขับรถของพระอาจารย์คม ช่วยกันขนย้ายทองคำแท่งและเงินสดทรัพย์สินต่างๆ ใส่รถตู้ก่อนแล้วนำไปจอดไว้ที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งอยู่ห่างจากวัดประมาณ 10 กิโลเมตร เพื่อเตรียมจะเคลื่อนย้ายหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงเร่งติดตามนำกลับคืนมา 

ด้าน พ.ต.อ.วิวัฒน์ กล่าวว่า จากแนวทางสืบสวนยังพบว่า ก่อนที่อดีตพระอาจารย์คม และ อดีตพระอาจารย์หมอ และน.ส.จุฑาทิพย์ จะถูกจับนั้น ได้สั่งการให้ผู้ต้องหาทั้ง 6 ราย ช่วยกันขนย้ายทรัพย์สินออกไปจากกุฏิของตนให้หมด แล้วนำไปซุกซ่อนไว้ตามสถานที่ต่างๆ ภายในวัด อีกทั้งในช่วงขณะที่ถูกควบคุมตัว อดีตพระอาจารย์คม ยังได้ออกอุบายขอยืมโทรศัพท์ตำรวจอ้างว่าขอติดต่อญาติ ให้นำยารักษาโรคประจำตัวของน้องสาวมาให้ ก่อนจะแอบโทรศัพท์ไปสั่งการให้กลุ่มขบวนการนี้ช่วยกันขนย้ายเงินสดและทองคำ ออกไปนอกวัดให้หมด ซึ่งมีทรัพย์สินบางส่วนที่ไม่สามารถขนย้ายได้ทัน จึงนำไปขุดฝังเอาไว้บนภูเขาหลังวัด จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับ และนำมาสู่การตามจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 6 รายในวันนี้ ขณะที่ในส่วนของทรัพย์สินวัด จนถึงขณะนี้สามารถตรวจยึดกลับคืนมาได้แล้วจำนวนกว่า 280 ล้านบาท 


พ.ต.ท.สุริยศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับวัดดังกล่าว เดิมทีมีพระ 22 รูป ถูกจับกุมและสึกไป 9 รูป ส่วนผู้ร่วมขบวนการจากข้อมูลพยานหลักฐานขณะนี้เชื่อว่าส่วนใหญ่จะเป็นพระลูกวัดที่อยู่ภายใต้การควบคุมสั่งการได้ หรือพระลูกวัดที่สนิทและไว้ใจ ซึ่งขณะนี้ผู้เกี่ยวข้องได้ถูกจับกุมหมดแล้ว ส่วนทรัพย์สินของวัดที่ถูกยักยอกไปยังเชื่อว่าน่าจะมีมากกว่านี้ อยู่ระหว่างการตรวจสอบขยายผลติดตามกลับคืนมาต่อไป.