สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 2 ก.ย. ว่า องค์การสุขภาพภาคพื้นอเมริกา ( ปาโฮ ) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งขององค์การอนามัยโลก ( ดับเบิลยูเอชโอ ) เผยแพร่แถลงการณ์ เมื่อวันพฤหัสบดี เรื่องการเฝ้าจับตาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ บี.1621 ( B.1621 ) ซึ่งมีชื่อเรียกเป็นอักษรภาษากรีกว่า "มิว" ( Mμ ) และดับเบิลยูเอชโอจัดอยู่ในกลุ่ม "สายพันธุ์น่าจับตา" เมื่อวันที่ 30 ส.ค.ที่ผ่านมา ร่วมกับเชื้ออีตา ไอโอตา แคปปา และแลมป์ดา 
พญ.ไฮโร เมนเดซ ริโก ที่ปรึกษาด้านโรคอุบัติใหม่ของปาโฮ กล่าวว่า เชื้อไวรัสมิวได้รับการค้นพบเป็นครั้งแรกในโคลอมเบีย เมื่อเดือน ม.ค.ปีนี้ แต่หลังจากนั้น สถาบันสุขภาพแห่งชาติของโคลอมเบียเร่งการตรวจเชิงรุก และจนถึงขณะนี้ยังไม่พบความเสี่ยงอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากอัตราการแพร่ระบาด การติดเชื้อ การเกิดอาการป่วย และการเสียชีวิต "ยังไม่สูงในระดับน่าผิดสังเกต"
แม้ 39% ของผู้ป่วยสะสมจากโรคโควิด-19 ในโคลอมเบียติดเชื้อไวรัสมิว และในเอกวาดอร์มีรายงานผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ดังกล่าวคิดเป็น 13% ของผู้ป่วยสะสมในประเทศ และยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม สัดส่วนผู้ป่วยจากเชื้อไวรัสมิวมีสัดส่วนยังไม่ถึง 0.1% ของผู้ป่วยรวมทั่วโลก ตามสถิติของดับเบิลยูเอชโอซึ่งเผยแพร่ในสัปดาห์นี้ ส่วนการยืนยันประเทศที่พบเชื้อนี้แล้ว มีอยู่ในอย่างน้อย 39 ประเทศ
อนึ่ง รายงานของดับเบิลยูเอชโอระบุด้วยว่า เชื้อไวรัสทุกชนิดบนโลก รวมถึงเชื้อไวรัสโคโรนาที่ก่อให้เกิดโรคโควิด-19 มีการกลายพันธุ์ตลอดเวลา แม้รูปแบบการกลายพันธุ์ส่วนใหญ่แทบไม่ส่งผล หรือมีผลกระทบน้อยมากต่อโครงสร้างของเชื้อไวรัส แต่ยังคงมี "การกลายพันธุ์บางรูปแบบ" ซึ่งก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างจำเพาะเจาะจงต่อคุณสมบัติของเชื้อไวรัส และอาจมีผลต่อความเร็วในการแพร่กระจาย ความรุนแรงของอาการป่วย และการต้านทานต่อวัคซีน ยา และรูปแบบการรักษา.

เครดิตภาพ : AP