สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงคาบูล ประเทศอัฟกานิสถาน เมื่อวันที่ 3 ก.ย.ว่านายซูฮาอิล ชาฮีน โฆษกกลุ่มตาลีบัน ประจำสำนักงานฝ่ายการเมืองที่กรุงโดฮา เมืองหลวงของกาตาร์ เปิดเผยเมื่อวันศุกร์ ว่านายอับดุล ซาลัม ฮานาฟี สมาชิกของกลุ่มตาลีบันประจำสำนักงานโดฮา สนทนาทางโทรศัพท์กับนายอู๋ เจียงฮ่าว รมช.กระทรวงการต่างประเทศจีน และได้รับการยืนยันจากรัฐบาลปักกิ่ง ว่าสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำกรุงคาบูลจะยังคงเปิดดำเนินการต่อไปตามปกติ
ขณะเดียวกัน รัฐบาลปักกิ่งมีแผนยกระดับความสัมพันธ์ และขยายขอบเขตความร่วมมือกับรัฐบาลอัฟกานิสถานในอนาคต นอกจากนี้ จีนจะเดินหน้าการมอบความสนับสนุนด้านมนุษยธรรมแก่อัฟกานิสถาน โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และเพิ่มเติมความช่วยเหลือในด้านที่จำเป็นและเกี่ยวข้องอีกด้วย
แม้กระทรวงการต่างประเทศในกรุงปักกิ่ง และสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำกรุงคาบูล ยังไม่มีปฏิกิริยาอย่างเป็นทางการต่อคำกล่าวของแกนนำกลุ่มตาลีบัน อย่างไรก็ตาม รัฐบาลปักกิ่งวิพากษ์วิจารณ์แผนการถอนทหารและการอพยพประชาชนของสหรัฐให้ออกจากอัฟกานิสถาน "ไร้ประสิทธิภาพ" การใช้มาตรการทางการเมืองและเศรษฐกิจกดดันกลุ่มตาลีบันจากทุกทิศทาง นอกจากไม่ใช่การแก้ไขปัญหาอย่างสร้างสรรค์แล้ว มีแต่จะยิ่งส่งผลให้เกิดแรงต้านมากขึ้นเท่านั้น 
ด้านนายหวัง อี้ รมว.กระทรวงการต่างประเทศจีน เคยให้ความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ในอัฟกานิสถาน สะท้อนชัดเจนว่า "โมเดลต่างชาติ" ไม่สามารถใช้ได้ "ตามอำเภอใจ" ในประเทศซึ่งเต็มไปด้วย "เงื่อนไขทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่แตกต่าง" แต่ยังสงวนท่าที ในเรื่องการยอมรับรัฐบาลอัฟกานิสถานชุดใหม่ ซึ่งแน่นอนว่า กลุ่มตาลีบันจะมีบทบาทอย่างมาก.

เครดิตภาพ : AP