สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม เมื่อวันที่ 3 ก.ย.ว่านายฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ นายกรัฐมนตรีเวียดนาม กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศ ว่ามาตรการล็อกดาวน์และมาตรการควบคุมทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง  "สร้างความยากลำบากทั้งในด้านจิตใจและการดำเนินชีวิต" เวียดนามไม่สามารถควบคุมวิกฤติครั้งนี้ได้ด้วยการล็อกดาวน์ และติดตามประชาชนให้เข้าสู่มาตรการกักตัวได้ตลอดไป เนื่องจากเศรษฐกิจของประเทศจะยิ่งทรุดหนัก
นายกรัฐมนตรีเวียดนามกล่าวต่อไปว่า นับจากนี้ การลดจำนวนผู้เสียชีวิตให้ได้มากที่สุด การเร่งตรวจเชิงรุก และการฉีดวัคซีนแก่ประชาชนให้ได้มากที่สุด คือสิ่งที่รัฐบาลต้องให้ความสำคัญเป็นลำดับต้น อย่างไรก็ตาม ทุกฝ่ายต้องตระหนักและปฏิบัติตนด้วยความเคร่งครัดตลอดเวลา เพราะรูปแบบการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 "ซับซ้อนและคาดเดาได้ยาก" และสถานการณ์อาจยาวนานกว่าที่คิด
ทั้งนี้ ผลผลิตด้านอุตสาหกรรมของเวียดนาม เมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมา ลดลง 7.4% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่การส่งออกลดลง 5.4% ส่วนยอดขายปลีกและการบริการเมื่อเดือนที่แล้ว ลดลงมากถึง 33.7%
อย่างไรก็ตาม มีประชากรเวียดนามเพียง 2.9% จากทั้งหมดประมาณ 98 ล้านคน ซึ่งได้รับวัคซีนครบแล้ว ในเวลาที่อัตราการเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ในเวียดนาม อยู่ที่ 2.5% สูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกคือ 2.1%
ปัจจุบันเวียดนามมีสถิติผู้ป่วยสะสมจากโรคโควิด-19 อย่างน้อย 486,727 ราย เพิ่มขึ้น 13,197 คน หายป่วยเพิ่มขึ้น 10,602 คน ยังเหลือผู้ติดเชื้อต้องรักษาตัวอีกอย่างน้อย 215,265 คน และมีผู้เสียชีวิตสะสมอย่างน้อย 12,138 ราย เพิ่มขึ้น 271 ราย.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES