เหลืออีกไม่ถึง 10 วัน จะมีการเลือกตั้ง ส.ส. ทั่วประเทศในวันอาทิตย์ที่ 14 พ.ค. 66 ตามระเบียบบอกว่า 7 วันก่อนเลือกตั้ง ห้ามมีการเผยแพร่ “ผลโพล” สำรวจกระแสความนิยมของพรรคการเมือง และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี
แต่ 7 วันก่อนมีการเลือกตั้ง ได้มีโพลสำนักต่าง ๆ สำรวจความเห็นประชาชนกันไปเต็มที่ และถูกนำมาเผยแพร่ผ่านสื่อมวลชนกันทุกสัปดาห์ เรียกว่าบางโพลน่าจะถูกต้อง มีความน่าเชื่อถือพอสมควร เกี่ยวกับจำนวนคนสำรวจ และประเด็นคำถาม บางโพลฟังดูจะค้านสายตาประชาชน
โพลแต่ละสำนักจะให้กระแสพรรคไหนมาแรง! แคนดิเดตนายกฯ คนไหนมีเสียงเชียร์มากที่สุดก็ว่ากันไป แต่ที่แม่นที่สุดคือ หลังปิดหีบเลือกตั้งวันที่ 14 พ.ค. นี้ จะรู้ว่าพรรคไหนได้จำนวน ส.ส. เป็นลำดับที่ 1-2-3-4-5 ใครมีโอกาสเป็นนายกฯ คนที่ 30 มากที่สุด
จะเป็นนายกฯ ที่เดินเหินคล่องแคล่ว วิ่งได้ปร๋อ! หรือว่าจะเป็นนายกฯ ที่เวลาไปไหนต้องประคองปีก หรือเดินสะดุดพรมบ่อย ๆ อีกไม่ถึง 10 วันรู้กัน
ในช่วงที่ผ่านมา มีการพูดถึงการจับขั้วจัดตั้งรัฐบาลกันมาก! ด้วยอิทธิพลของผลโพลว่า พรรคไหนมีแนวโน้มได้จำนวน ส.ส. มาเป็นลำดับที่ 1-2-3-4-5
แต่ “พยัคฆ์น้อย” ปรารถนามากที่สุด คืออยากเห็น “มารยาท” ในการจัดตั้งรัฐบาล ต้องให้พรรคอันดับ 1 จากฉันทามติของพี่น้องประชาชน มีโอกาสในการจัดตั้งรัฐบาลอย่างเต็มที่ อย่างสุดความสามารถก่อน และขอย้ำว่า ส.ว.ลากตั้ง 250 คน ต้องมี “มารยาท” ด้วย! ส่วนเรื่องการมี “บุญคุณ” กับคนทำรัฐประหารที่แต่งตั้ง ส.ว. ชุดนี้เข้ามา ควรจะ “หมดบุญคุณ” กันเสียที!
ถ้าพรรคลำดับ 1 จัดตั้งรัฐบาลไม่ได้จริง ๆ พรรคลำดับที่ 2 จึงค่อย “รวบรวมเสียง” จัดตั้งรัฐบาล ส่วนพรรคลำดับที่ 3-4-5 ต้องท่องคำว่า “มารยาท” ไว้ให้ขึ้นใจ!
พรรคลำดับที่ 3-4-5 อย่าไปแย่งเขาจัดตั้งรัฐบาล เนื่องจากผลการเลือกตั้งพ่ายแพ้ขนาดนี้ จนได้ลำดับที่ 3-4-5 ก็อย่ามาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลเลย! เพราะคุณไม่ได้มาจากเสียงส่วนใหญ่ของประชาชน เวลาไปไหนไม่สง่าผ่าเผยหรอก!
โดยเฉพาะเวลาไปเยือนต่างประเทศที่เป็นประชาธิปไตย เขาจะมอง “ผู้นำ” ที่ใช้แทคติกการรวบรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลอย่างดูถูกดูแคลน!
ดังนั้นพรรคที่ได้ลำดับ 3-4-5 จึงต้องมี “มารยาท” ทางการเมืองมาก ๆ ก่อนการเลือกตั้งจะซื้อเสียง หรือจะโกงด้วยวิธีไหนก็แล้วไป! แต่หลังเลือกตั้งแล้วอย่า “โกงมารยาท” อีกเลย!
โดยเฉพาะ ส.ว.ลากตั้ง 250 คน ถ้าพรรคไหนนำโด่งชนะแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ส.ว.ลากตั้งต้องเห็นหัวของประชาชน และต้องรู้จักปล่อยวางให้ “สภาล่าง” จัดตั้งรัฐบาลกันไป ไม่เช่นนั้นบ้านเมืองจะวุ่นวายไม่รู้จบ เพราะการที่ไม่เคารพเสียงของประชาชน ไม่เคารพกฎของเสียงข้างมากในระบอบประชาธิปไตย
สำหรับฝ่ายประชาธิปไตย ต้องตั้งสติกันให้ดีว่าวันที่ 14 พ.ค. นี้ จะเลือกเพื่อเปลี่ยนแปลง! หรือจะเลือกให้ชนะก่อน เพราะถ้าเลือกแล้วไม่ชนะ! ก็ยังไม่สามารถที่จะไปเปลี่ยนแปลงอะไรได้ ดังนั้นจึงต้องชนะก่อน ชนะอย่างไร แล้วจึงค่อยคิดในช็อตต่อไปว่าจะเข้าไปเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง 1-2-3 ทำได้จริงหรือไม่? หรือหาเสียงโม้ไว้ก่อน!
8-9 ปีที่ผ่านมา คนไทยเดือดร้อนจากปัญหาเรื่องเศรษฐกิจปากท้อง รายได้โตไม่ทันกับรายจ่าย ปัญหาหนี้ครัวเรือนพุ่งสูง ส่งผลให้มีปัญหาทางสังคมตามมามากมาย
ถ้ามีการเลือกตั้งวันนี้ เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ต้องการเลือกนายกฯ ที่รู้เรื่องเศรษฐกิจ พูด-ฟังภาษาอังกฤษได้ ยังกระฉับ กระเฉง พร้อมที่จะวิ่งได้ไปกับโลก ส่วนประเภทที่ว่าเดินไม่ค่อยไหว เดินสะดุดพรม แล้วอนาคตประเทศ อนาคตของลูกหลานไทยจะไปรอดหรือ?
————————–
พยัคฆ์น้อย