เมื่อเวลา 12.00 น. ที่รอยัลพารากอนฮอลล์ ชั้น 6 ห้างสยามพารากอน กรุงเทพฯ นางประพิณ รุจิรวงศ์ และนายปารเมศ เหตระกูล กรรมการบริหารหนังสือพิมพ์เดลินิวส์และเดลินิวส์ออนไลน์ พร้อมด้วย น.ส.ปานบัว บุนปาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) นายปราปต์ บุนปาน รองกรรมการผู้จัดการสายเทคโนโลยีและดิจิทัลมีเดีย บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) และฝ่ายบริหารกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์เดลินิวส์และเดลินิวส์ออนไลน์ หนังสือพิมพ์มติชน หนังสือพิมพ์ข่าวสด หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ นิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ ข่าวสดออนไลน์ มติชนออนไลน์ และมติชนทีวี ร่วมกันจัดเวที “สงคราม 9 พรรค THE LAST WAR”ตามโครงการ “มติชน : เลือกตั้ง 66 บทใหม่ประเทศไทย” ที่จัดมาแล้ว 4 เวทีด้วยกัน ซึ่งในการจัดงานวันนี้ เป็นเวทีที่ 5

สำหรับการจัดกิจกรรมขึ้นในครั้งนี้ ถือเป็นเวทีครั้งสำคัญในความร่วมมือของกลุ่มสื่อระหว่างหนังสือพิมพ์เดลินิวส์และเครือมติชน โดยบรรยากาศภายในงาน มีบรรดานักการเมืองระดับแกนนำพรรค ผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อ ผู้สมัครแบบแข่งเขต รวมถึงกองเชียร์ของแต่ละพรรค ทยอยเดินทางมาสร้างสีสันภายในงานอย่างคึกคักด้วยกัน อาทิ น.ส.สิริลภัส กองตระการ พรรคก้าวไกล, น.ส.รัดเกล้า สุวรรณคีรี พรรครวมไทยสร้างชาติ, นายเมธี อรุณ พรรคประชาธิปัตย์, น.ส.สกาวใจ พูนสวัสดิ์ พรรคเพื่อไทย, นายอิทธิเดช สุพงษ์ พรรคภูมิใจไทย, นายปณิธาน ประจวบเหมาะ พรรคไทยสร้างไทย, ดร.อาชวิทธิ์ เจิงกลิ่นจันทน์ พรรคชาติไทยพัฒนา, น.ส.วิเวียน จุลมนต์ พรรคชาติพัฒนากล้า และ นายระพีพัฒน์ สุเมธโชติเมธา พรรคพลังประชารัฐ

เมื่อเวลา 12.30 น. เข้าสู่รอบที่ 1 เวที “Young blood วัดอนาคต” เปิดโอกาสให้ตัวแทนคนหนุ่มสาวหน้าใหม่ ที่ลงสนามเลือกตั้งเป็นครั้งแรก แต่มีความรู้ความสามารถ ประชันนโยบายของพรรคในมุมมองที่สดใหม่ สะท้อนให้เห็นถึงความหวัง และการทำงาน การเมืองเชิงสร้างสรรค์ ทิศทางใหม่ๆ เพื่อการขับเคลื่อนประเทศไทยในอนาคต

นายปณิธาน ประจวบเหมาะ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 23 กทม. พรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า ถ้าเราคิดจะเปลี่ยนแปลง งานการเมืองจะส่งผลต่อสังคมและภาพรวมของประเทศมากที่สุด การเมืองไม่ใช่เรื่องของเฉพาะคนรุ่นใหม่ หรือคนที่มีประสบการณ์ แต่เป็นเรื่องที่คนทุกวัย ทุกสายอาชีพ ต้องมาร่วมกันคิดร่วมกันทำ เพื่อนำเสนอนโยบายที่ตอบโจทย์คนหมู่มาก มากที่สุด พรรคไทยสร้างไทยเรามีผู้นำอย่าง คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา มักจะปลูกฝังผู้สมัครในพรรคว่ามาทำงานการเมือง ไม่ได้มาเป็นเจ้านายประชาชน แต่คือขี้ข้าของประชาชน เชื่อเหลือเกินว่าการมาเป็น ส.ส.ไม่ได้มีหน้าที่แค่ไปพิจารณาร่างนิติบัญญัติในรัฐสภาอย่างเดียว แต่มีหน้าที่ในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ดูแลประชาชนในเขตพื้นที่

นอกจากนี้ยังมีเรื่องของโควิด-19 ที่ได้มีโอกาสได้เข้าไปดูแล รับ-ส่งผู้ป่วย พรรคไทยสร้างไทยมีนโยบายที่จะดูแลประชาชนตั้งแต่เกิดจนแก่ เรื่องแรกคือทุกพรรคการเมืองมักจะมีการพูดถึงว่าต้องมียาแรงในการกระตุ้นเศรษฐกิจ พรรคไทยสร้างไทยมองว่าจะใช้งบประมาณทั้งทีต้องแก้ปัญหาได้หลายๆ เรื่อง เรามีนโยบายบำนาญประชาชนเดือนละ 3,000 บาท ให้ผู้สูงอายุมีรายได้เพียงพอและยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจจากฐานราก นโยบายเรียนฟรีจนจบปริญญาตรี ยกระดับมาตรฐานการศึกษาให้มีความทันสมัย คิดจะสร้างเมืองสร้างประเทศที่ดี ต้องเริ่มจากการสร้างคน ถัดมาคือเราเห็นความลำบากของพ่อค้าคนตัวเล็ก หรือธุรกิจ SME การกู้เงินแต่ละครั้งเป็นเรื่องยาก เพราะฉะนั้นพรรคไทยสร้างไทยจึงมีนโยบายกองทุนเครดิตประชาชน ให้พ่อค้าแม่ขายเข้าถึงเงินทุน แก้ปัญหาหนี้นอกระบบ เรื่องถัดมาคือเรื่องปัญหายาเสพติด พรรคไทยสร้างไทยทำเรื่องนี้ตั้งแต่ยังไม่มี ส.ส.สักคนในสภา

นายปณิธาน กล่าวว่า สำหรับจุดยืนของพรรคไทยสร้างไทย นำโดยคุณหญิงสุดารัตน์ที่ทำงานการเมืองมาตลอด 30 ปี ผลงานเป็นที่ประจักษ์ ประสบการณ์เยอะ ถ้าพ่อแม่พี่น้องทุกคนไปดูรูปป้ายหาเสียง มันออกมาจากใจจริงๆ ไม่ว่าคุณหญิงจะลงพื้นที่ที่ไหนก็จะไปกอด ไปใหกำลังใจชาวบ้าน เรายึดมั่นในระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เราจะไม่เป็นที่เหยียบยืนให้กับฝั่งที่ยึดอำนาจรัฐประหารมาเด็ดขาด

นายปณิธาน กล่าวทิ้งท้ายว่า 14 พฤษภาคมนี้ ออกไปใช้สิทธิใช้เสียง เลือกพรรคไทยสร้างไทย ดูแลพ่อแม่พี่น้องประชาชนตั้งแต่เกิดจนแก่ ถ้าผู้สมัครของไทยสร้างไทยได้รับเลือกเป็น ส.ส.แล้วหายหน้าหายตา ไม่ทำอย่างที่พูดไว้ 4 ปีต่อมาไม่ต้องเลือก ถ้าไทยสร้างไทยไม่สามารถมาขับเคลื่อนนโยบาย ยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีกว่านี้ให้กับพ่อแม่พี่น้องประชาชนตามที่เราพูดไว้ ถ้าทำไม่ได้ 4 ปีไม่ต้องเลือกเรา