แจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาทให้คนไทยอายุ 16 ปีขึ้นไปกว่า 55 ล้านคน ตามนโยบายพรรคเพื่อไทย ถูกรุมขย้ำอย่างเมามัน ดูแล้วไม่ต่างจากตอน “ไทยรักไทย” ทำโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค และโครงการกองทุนหมู่บ้านละ 1 ล้าน…ฯลฯ หรือตอน พลังประชาชน ใน รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะทำโครงการ 2 ล้านล้าน ไทยแลนด์ 2020 ยกระดับโครงสร้างพื้นฐานทั้งระบบ ทั้งรถไฟความเร็วสูง ถนนหนทาง สนามบิน ท่าเรือ รวมทั้งแก้น้ำท่วมทั้งระบบ เท่าไหร่เลย

ฝ่ายตรงข้ามหยามเหยียดว่า 30 บาทรักษาทุกโรค คือ 30 บาทตายทุกโรค ทั้งที่เจ้าของแนวคิด คุณหมอสงวน นิตยารัมพงศ์ เอาไปเสนอทุกพรรค แต่ไม่มีใครตอบสนองเลย เพราะมันเสี่ยงและทำยาก เป็นการเปลี่ยนโครงสร้างการจัดทำงบประมาณครั้งใหญ่สุดของประเทศ ขณะกองทุนหมู่บ้านถูกสาดโคลนหนักว่า เอาเงินไปแจกชาวบ้านซื้อมือถือเอื้อประโยชน์ธุรกิจ ทักษิณ ชินวัตร ทำประชาชนติด “วัตถุนิยม” ไปโน่น

ผ่านมา 20 ปี ทั้ง 2 โครงการยังอยู่ ทั้งที่รัฐบาลเผด็จการต่อ ๆ มาพยายาม “ทำลายล้างทุกวิถีทาง” แต่ไม่สำเร็จ 30 บาทรักษาทุกโรคกลายเป็น โครงการที่ “ยูเอ็นยกย่อง” และประเทศอื่นนำไปใช้เป็นต้นแบบ กองทุนหมู่บ้านละล้าน มีหนี้เสียบ้าง แต่ไม่ถึง 5% ซึ่งถือว่าน้อยมาก เพราะบริหารโดยคณะกรรมการที่เลือกกันเองในหมู่บ้าน ย่อมรู้ดี ใครเป็นใคร ที่กองทุนหมู่บ้านท้องคุ้ง อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นอีกตัวอย่างชัดเจน จากเงินเริ่มต้น 1 ล้าน กลับมีเงินงอกเป็น 20 กว่าล้าน จนหมู่บ้านอื่นมาขอกู้ไปทำมาหากิน ไม่ต้องไปกู้นอกระบบ ทำให้พรรคเก่าแก่หาเสียงจะเพิ่มเป็นหมู่บ้านละ 2 ล้านแล้ว นี่หากกองทุนหมู่บ้านไม่กระท่อนกระแท่นเพราะอคติบังตา และความขี้อิจฉาของบางคน

สิทธิบัตรทอง ครอบคลุม-ไม่ครอบคลุม อะไรบ้าง

นี่คือ ธนาคารหมู่บ้านดี ๆ นี่เอ

หากไม่ใช่เพราะ ศาลรัฐธรรมนูตีตกโครงการ 2 ล้านล้าน และเกิดวลีติดปาก ไปทำถนนลูกรังให้หมดประเทศก่อน ชาวสวนทุเรียนก็คงไม่ต้องดิ้นรนจี้ รัฐบาล 3 ป.ไปคุยกับ รัฐบาล สปป.ลาว ให้ช่วยขนทุเรียนไทยใส่รถไฟความเร็วสูงลาวไปขายจีน ทำเงินปีละเป็นแสนล้าน

เมื่อ เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย ประกาศนโยบายแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาทให้คนไทย 16 ปีขึ้นไปทุกคนรวม 55 ล้านคน เป็นเงิน 5.5 แสนล้าน มุ่งกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ มีเงื่อนไขต้องใช้ในระยะ 4 กม. ตามบัตรประชาชน ห้ามข้ามเขต และต้องใช้หมดใน 6 เดือน โดยใช้ “บล็อกเชน” ควบคุม หากได้รับเลือกตั้งเป็นรัฐบาลนั้น คือใครหมั่นไส้ เกลียดมันนัก ไม่อยากใช้เงินชั่วร้ายก้อนนี้ก็คืนเงินให้รัฐไปทำอย่างอื่นก็เท่านั้น

เปิดตัว "เศรษฐา ทวีสิน" นั่งที่ปรึกษาครอบครัวเพื่อไทย พรุ่งนี้! สยามรัฐ

แล้วก็อีหรอบเดียวกันถูกรุมขย้ำทั่วทิศ ทั้งจากฝ่ายหวังดีจริงและพวกมุ่งเตะตัดขา เพราะกลัวโดนใจประชาชน เนื่องจากตัวเองคิดไม่เป็น ข้อหามีตั้งแต่เอื้อประโยชน์นายเศรษฐา เพราะมีธุรกิจเงินดิจิทัล (อีกแล้ว) เป็นนโยบายแจกเงินที่ชั่วร้าย เฮลิคอปเตอร์มันนี่ เกิดเงินเฟ้อใหญ่ เพิ่มเพดานหนี้สาธารณะ ควรมุ่งผ่าตัดโครงสร้างใหญ่มากกว่ามุ่งรักษาระยะสั้น

ความห่วงใยนั้นดี เป็นเรื่องที่พรรคเพื่อไทยต้องสังวรและรับฟังนำสู่หนทางอุดจุดโหว่ซึ่งมีแน่ โครงการใหญ่ขนาดนี้ย่อมไม่สมบูรณ์แบบ เงินที่จะเอามาใช้มาจากไหน เพื่อไทย แถลงคร่าว ๆ คือ 1.จากเงินงบประมาณปี 67 กว่า 1 แสนล้าน 2.ภาษีที่เก็บได้จากโครงการนี้ 1 แสนล้าน 3.ภาษีปี 67 อีก 2.6 แสนล้าน และ 4.ตัดจากงบส่วนอื่น ๆ ราว 1 แสนล้าน รวมแล้วประมาณ 5.5 แสนล้าน ก็ยังไม่รู้ กกต.จะบ้าจี้ เลือกปฏิบัติหรือไม่?!?

เผด็จการและรัฐบาลสืบทอดเผด็จการ แก้ปัญหามาจะ 10 ปี แจกเงินอีลุ่ยฉุยแฉกทั้ง คนละครึ่ง บัตรคนจนที่มีแต่เพิ่มขึ้นทุกปี กู้เงินมาใช้กว่า 10 ล้านล้าน แต่เศรษฐกิจไทยยัง “โหลยโท่ย” โตเกือบรั้งท้ายในอาเซียน การคิดนอกกรอบของพรรคเพื่อไทย จึงไม่ใช่เรื่องผิดแต่ประการใด

วิสัยทัศน์ ฝีมือในอดีต คือตัวการันตีว่า พรรคนี้ทำได้จริง มิใช่หรือ…

—————————–
ดาวประกายพรึก