เมื่อวันที่ 18 เม.ย. ที่โรงแรมอัศวิน แกรนด์ คอนเวนชั่น ย่านหลักสี่ กทม. นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวในการเปิดกิจกรรมรณรงค์ Kick off สร้างความตระหนักรู้และประชาสัมพันธ์การเลือกตั้ง ส.ส. “ไทยโหวต คนไทยพร้อมใช้สิทธิ” ว่า กกต. ร่วมกับภาคีเครือข่ายขอยืนยันกับผู้มีสิทธิเลือกตั้งให้มั่นใจ จะจัดการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นไปโดยสุจริตเที่ยงธรรม และชอบด้วยกฎหมาย และจะอำนวยความสะดวกในการออกมาใช้สิทธิให้กับผู้มีสิทธิเลือกตั้งทุกท่านอย่างเท่าเทียม จึงขอเชิญทุกคนเข้ามามีส่วนร่วมในการเลือกตั้งครั้งนี้ ซึ่ง กกต. ได้ทำแอปพลิเคชัน Smart Vote เพื่อให้ศึกษาข้อมูลเตรียมความพร้อมในการออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งอย่างมีคุณภาพ ซึ่งหลังจากนี้ 1-2 วัน จะมีข้อมูลทั้งประวัติผู้สมัครนโยบายพรรค รวมถึงประชาชนสามารถตรวจสอบหน่วยเลือกตั้งที่จะใช้สิทธิ วิธีการที่จะใช้สิทธิที่ไม่ผิดกฎหมาย เช่น ไม่ถ่ายรูปบัตรเลือกตั้งที่มีการกากบาทแล้ว ข้อควรระวังการกรีดบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ก่อนหย่อนลงหีบบัตรเลือกตั้งที่ไม่ควรกรีดแรงจนเกินไป เพราะอาจทำให้ฉีกขาดชำรุดได้ ซึ่งขณะนี้มีผู้ดาวน์โหลดแล้ว 1,089,000 กว่าคน

นายอิทธิพร ให้สัมภาษณ์หลังเปิดกิจกรรมว่า สำหรับตัวอย่างบัตรเลือกตั้ง มีแนบท้ายในระเบียบว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ซึ่งมี 2 ประเภท คือ แบบเลือกตั้งแบบแบ่งเขตมีสีม่วง ส่วนแบบบัญชีรายชื่อเป็นสีเขียว และรูปแบบบัตรเป็นไปตามมาตรา 84 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วย ส.ส. เพื่อไม่สร้างความสับสนให้ประชาชนในการไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันเลือกตั้ง ส่วนความปลอดภัยนั้น ต้องบอกว่าทุกบัตรเลือกตั้งไม่ว่าจะเป็นบัตรเลือกตั้งประเภทไหนในการจัดพิมพ์ จะต้องจัดพิมพ์แบบมีระดับความมั่นคง ปลอดภัย มีรหัสลับอย่างน้อย 3 อย่าง ดังนั้นตรวจสอบได้ตามกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ส่วนการรักษาความมั่นคงของบัตรหลังจากที่พิมพ์แล้ว บัตรจะเก็บอยู่ที่โรงพิมพ์ โดยอยู่ในห้องมั่นคงจะมีคนเฝ้าตลอดเวลา มีตัวแทนของ กกต. และมีกล้องวงจรปิด การนำบัตรออกจากที่พิมพ์โดยไปรษณีย์ จะต้องมีรถมั่นคงของไปรษณีย์ มีรถตำรวจติดตาม มีแทรคกิ้งซิปเทป และเจ้าหน้าที่ กกต. ฉะนั้นแล้ว บัตรเลือกตั้งมีความมั่นคงแน่นอน

สำหรับข้อวิพากษ์วิจารณ์การเดินทางของ กกต. 6 คน ไปต่างประเทศ ยืนยันว่าไม่ได้เดินทางไปพร้อมกันทั้งหมด แต่เดินทางเหลื่อมกัน ตั้งแต่วันที่ 9-25 เม.ย. อย่างไรก็ตาม มีการตกลงกันแล้ว หากมีเรื่องที่จะต้องพิจารณาสามารถประชุมผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ โดยเมื่อวันที่ 12 เม.ย. ที่ผ่านมา ได้มีการประชุมเรื่องการประกาศรายชื่อผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อ และผู้ได้รับการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรี ดังนั้นไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนเราสามารถประชุมได้ทุกที่ แจ้งกันใน 3-4 ชั่วโมง ก็ประชุมได้ ส่วนกรณีมีการตั้งข้อสังเกตว่า ใช้งบประมาณมากนั้น ขอชี้แจงว่า ทุกครั้งที่มีการจัดการเลือกตั้ง จะมีงบประมาณอยู่ก้อนหนึ่งให้ กกต. ซึ่งการศึกษาดูงานต่างประเทศก็อยู่ในงบประมาณก้อนนี้ ทั้งนี้ผลจากการศึกษาดูงานจะมีการนำกลับมาพิจารณาและถอดบทเรียนต่อไป ไม่ให้ซ้ำรอยปัญหาเหมือนปี 62 ซึ่งการส่งบัตรเลือกตั้งกลับไทยนั้น ได้ประสานกับกระทรวงการต่างประเทศส่งกลับมาถึงไทย ภายในวันที่ 9 พ.ค. นี้ ใน 13 ประเทศ อาทิ แอฟฟริกาใต้ เคนยา ที่ต้องต่อ 2-3 สนามบินนั้น จะมีเจ้าหน้าที่สถานทูตทั้ง 13 ประเทศ เป็นผู้ดูแล ดังนั้นมั่นใจว่าไม่มีการสูญหาย ตกหล่น

ขอย้ำว่า หากประชาชนไม่สามารถไปใช้สิทธิ ได้ขอให้แจ้งเหตุไม่ไปใช้สิทธิ ภายใน 7 วันก่อนเลือกตั้งคือวันที่ 7-13 พ.ค. และหลังเลือกตั้ง 7 วันคือ 15-21 พ.ค. อย่างไรก็ตาม ขอย้ำว่าการเลือกตั้งวันที่ 14 พ.ค. นี้ ถือเป็นการใช้สิทธิตามกฎหมาย นายจ้างจะต้องอำนวยความสะดวกให้ลูกจ้างสามารถเดินทางมาใช้สิทธิ์ได้ หากหน่วงเหนี่ยว กีดขวาง จะมีความผิดจำคุก 2 ปี ปรับ 100,000 บาท

นายอิทธิพร กล่าวอีกว่า ขณะนี้มีการร้องเรียนเข้ามา 32 เรื่อง อาทิ การร้องเรียนหาเสียงหลอกลวง ใส่ร้าย 15 เรื่อง ซื้อเสียง 8 เรื่อง ทั้งนี้ตามกระบวนการต้องมีการพิจารณาว่าเรื่องมีมูลหรือไม่ หากมีก็รับคำร้อง สืบสวน ไต่สวนต่อไป ซึ่งไม่น่าจะทันก่อนการเลือกตั้ง เพราะต้องใช้เวลาสืบสวนสอบส่วนอย่างละเอียด ในส่วนของผู้สมัครที่ถูกเพิกถอนสิทธินั้น มีการประกาศชื่อเมื่อวันที่ 14 เม.ย. แล้วไม่มีชื่อเขา คนที่สมัครไปแล้วแต่ไม่มีชื่อ สามารถยื่นเรื่องที่ศาลฎีกาเพื่อขอเพิ่มชื่อได้ภายในวันที่ 21 เม.ย. แล้วศาลจะมีคำพิพากษาโดยเร็ว เป็นอย่างไร เราก็ปฏิบัติตามนั้น

ส่วนคนที่มีชื่อแล้ว แต่เห็นว่าไม่มีคุณสมบัติ ต้องห้ามก็ยื่นเรื่องมาที่ กกต. ภายในวันที่ 21 เม.ย. ได้เช่นกัน สำหรับการให้พรรคการเมืองต่างๆ ส่งรายละเอียดการใช้งบฯ ในนโยบายต่างๆ มาให้ กกต. ภายในวันที่ 18 เม.ย. นั้น กกต. ได้ขอไปทั้งหมด 70 พรรคการเมือง มี 5 พรรคส่งมาครบแล้ว อีก 6 พรรคการเมืองส่งมายังไม่ครบ และอีก 61 พรรค ยังไม่ได้ส่งซึ่งยังมีเวลาวันนี้ (18 เม.ย.) เป็นวันสุดท้าย หากส่งไม่ครบ จะมีกระบวนการติดตามว่า จะต้องให้ส่งภายในกี่วัน แล้วสำนักงาน กกต. จะมีการพิจารณาเอกสาร ประมวลผลเข้าที่ประชุม กกต. ซึ่งใช้เวลาไม่นาน

เมื่อถามถึงกรณี กกต.นราธิวาส สั่งให้ผู้สมัคร ส.ส. เขต 3 นราธิวาส ถอดป้ายหาเสียงที่มีข้อความ “ปัตตานีจัดการตัวเอง” ออก เนื่องจากฝ่ายความมั่นคงท้วงติงมา กรณีนี้ถือเป็นการใช้สิทธิ หรือผิดระเบียบอะไรหรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า ตนยังไม่ได้รับแจ้งเรื่องนี้มา ต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้ง แต่โดยหลักผู้สมัครจะหาเสียงเกินขอบเขตของการกำหนดนโยบายพรรคการเมืองไม่ได้ มีประเด็นที่เราจะต้องดูด้วย เป็นประเด็นที่มีความเปราะบางในพื้นที่หรือไม่ ต้องมีข้อเท็จจริงอีกหน่อย เรื่องนี้ยังต้องตรวจสอบ ทั้งนี้นโยบายของพรรคการเมืองต้องเป็นไปตามมาตรา 57 พ.ร.ป.พรรคการเมือง และมาตรา 74 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ที่บอกว่าผู้สมัครพรรคการเมืองใด ต้องหาเสียงอยู่ในกรอบนโยบายนั้น หากเกินนั้นก็ผิด โดยสามารถชี้แจงต่อ กกต. ได้.