ขยับเข้าถึงเทศกาลสงกรานต์ปีใหม่ไทย 2566 ถือว่า เมษายนปีนี้ค่อนข้างร้อนแรงมากจริง ๆ อุณหภูมิบางวัน ปรอทพุ่งสูงทะลุไปถึง 54 องศาฯ นอกจากนี้พื้นที่ภาคเหนือ เจอทั้งร้อนและวิกฤติมลพิษไฟป่าปกคลุม ในตัวเมืองเชียงใหม่ บางวันฝุ่นควันตลบอบอวลตลอดทั้งวัน ถึงขั้นต้องประกาศขอความร่วมมือให้เวิร์กฟรอมโฮมกันเลย
ส่วนบรรยากาศหาเสียงเตรียมตัว เลือกตั้ง 14 พ.ค. 66 เริ่มทวีความร้อนแรงขึ้นทุกวัน ทั้งเวทีปราศรัยหาเสียงของแต่ละพรรค หรือสารพัดเวทีดีเบต ที่บรรดานักการเมืองต่างเดินสายไปขึ้นเวทีแสดงวิสัยทัศน์ บางเวทีออกแอ๊คชั่นไม่เฉพาะน้ำเสียงเท่านั้น ถึงขั้นลุกขึ้นยืนชี้หน้ากันก็มีแล้ว!!
ระยะเวลาประมาณ 1 เดือนเศษ ๆ ก่อนวันเลือกตั้งจริง คงมีสีสันดุเดือดเข้มข้นออกมาให้เห็นอีกมากมายแน่นอน ขนาดช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็ยังมีเอ็มวีบทเพลงของ “ทักษิณ ชินวัตร” ครวญเสียงร้องเองปล่อยผ่านมาทางโซเชียล ส่งความคิดถึงกลับมายังบ้านเกิดเมืองนอน ถึงคนที่รักและห่วงใย อยากเห็นยิ้มคนไทยได้ความสุขคืนมา
ทีเด็ดน่าจะอยู่ช่วงเพลงท่อนฮุก “ส่งความคิดถึงข้ามฟ้า มาจากใจ ความรักจากคนแดนไกลมาให้เธอ ต้องมีสักวันเราคงได้พบเจอ ได้ยินเสียงเรียกของเธอ ฉันยิ่งมีความห่วงใย กอดด้วยเสียงเรียกของเธอ ที่จะพาฉันกลับไป”
จากน้ำเสียงร้องเพลงและอิริยาบถความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ที่ได้เห็นจากเอ็มวีนั้น แม้ปัจจุบันทักษิณอายุปาเข้าไป 73 ปี แม้สุขภาพจะไม่กระฉับกระเฉงเหมือนเดิม แต่เชื่อว่าความคิดอ่านทางการเมืองยังแหลมคม เพราะตั้งแต่ยุบสภามีความเคลื่อนไหวให้เห็นแทบทุกสัปดาห์ ไล่ตั้งแต่ไปให้สัมภาษณ์สื่อของญี่ปุ่นว่า พร้อมกลับมารับโทษจำคุกในประเทศไทยในปีนี้ ไม่ว่าผลการเลือกตั้ง พ.ค. 66 จะออกมาเป็นอย่างไร ผมเหมือนติดอยู่คุกขนาดใหญ่มา 16 ปีแล้ว ถ้าต้องทนทุกข์ทรมานอีกครั้งในคุกที่เล็กกว่านั้นก็ไม่เป็นไรจริง ๆ
ในยุคที่โลกไร้พรมแดน จะอยู่แห่งหนไหนในโลกก็สามารถเชื่อมโยงถึงกันได้แบบใกล้ชิด ไม่แปลกที่มีการนำความก้าวล้ำนำสมัยของเทคโนโลยีมาปรับใช้กับการหาเสียงยุคนี้ได้อย่างลงตัว เหมือนเวทีหาเสียงของพรรคเพื่อไทย ยกขบวนทยอยไปปราศรัยใหญ่ทั่วประเทศ แม้บางจังหวัดห่างไกล อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย จะเดินทางไปร่วมเวทีไม่ได้เพราะตั้งครรภ์ แต่ก็ใช้ระบบปราศรัยผ่านระบบออนไลน์ไปหาชาวบ้านที่รอฟังได้
อุ๊งอิ๊ง ไม่ได้ลงพื้นที่ก็ยังมี เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ อีกคน พร้อมบรรดาขุนพลพรรคเพื่อไทยทีมใหญ่ ตะลุยพื้นที่ไปพบปะชาวบ้าน เดินหน้าตาม ยุทธศาสตร์แลนด์สไลด์ ถึงจะโดนสบประมาทว่าไม่มีทางได้เสียงถึง 310 คน ตามที่ตั้งเป้าแน่นอน ในขณะที่มุมกลับกันถ้าเพื่อไทยทำได้จริง 310 เสียง เพียงแค่ดึงเสียงจากพรรคพันธมิตรอีก 66 เสียง ก็เกินครึ่ง 376 เสียง ที่จะโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ปัจจุบันในรัฐสภามีจำนวน 750 เสียง (ส.ส. 500 เสียง และ ส.ว. 250 เสียง)
ช่วงนี้ทำให้ภาพบรรยากาศเก่า ๆ การเลือกตั้ง 6 ก.พ. 48 ที่ทักษิณเคยนำ พรรคไทยรักไทย ทุบประวัติศาสตร์ชนะการเลือกตั้งแบบถล่มทลายได้ ส.ส.มากถึง 377 คน ถูกนำมาปัดฝุ่นเพื่อดึงพลังศรัทธาจากประชาชนทั่วประเทศ หากย้อนไปปี 2548 ตอนทักษิณชนะเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ อุ๊งอิ๊ง เพิ่งอายุ 19 ปี ตอนนี้อายุย่าง 37 ปี กำลังจะเป็นคุณแม่ลูกสอง
ใครจะไปเชื่อว่า “ลูกสาวทักษิณ” จะขยับมาเป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ออกตะลุยทั่วประเทศหาเสียงจากพ่อแม่พี่น้องประชาชน ช่างละม้ายใกล้เคียงสมัยทักษิณ เมื่อ 18 ปีก่อน แต่อุ๊งอิ๊งจะสามารถฟันฝ่าสร้างประวัติศาสตร์ได้เหมือนผู้เป็นพ่อ ที่ตอนนี้กำลังคิดถึงบ้าน-ประชาชน ได้หรือไม่? ยังต้องรอลุ้นคะแนนฉันทามติจากประชาชนชี้ขาด!!
——————–
เชิงผา
