ผลจากการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ สำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และภาคีเครือข่าย จัดงานแถลงข่าว “สงกรานต์ดื่มไม่ขับ กรึ่มๆ ก็ถึงตาย” เพื่อรณรงค์สร้างความตระหนักขับขี่ปลอดภัย ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ณ วัดพุทธปัญญา

 พระมหาทวี โพธิเมธี เจ้าอาวาสวัดพุทธปัญญา ได้ฝากคติธรรมเพื่อให้ชาวพุทธได้นำไปเป็นแนวทางปฏิบัติในทางพระพุทธศาสนา “พระพุทธเจ้าทรงได้ให้ชาวพุทธเว้นจากการดื่มน้ำเมา” อันเป็นเหตุทำให้สติ (ความระลึกได้) สัมปชัญญะ (ความรู้ตัว)ของตนเองหายไป อันเปรียบเสมือนเรือที่ไร้หางเสือคอยบังคับทิศทาง การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นการทำผิดศีลข้อที่ 5 ส่งผลให้เกิดการขาดความยับยั้งชั่งใจ เพราะคนที่ขาดสติจากการดื่มแอลกอฮอล์สามารถกระทำความชั่วได้ง่าย รวมถึงประพฤติผิดในศีลข้ออื่นๆ ก็สามารถทำได้ง่ายด้วยเช่นกัน  

นายวิษณุ ศรีทะวงศ์ ผู้จัดการแผนงานพัฒนานโยบายสาธารณะ สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) กล่าวว่า สคล. สำรวจความคิดเห็นจากประชาชนเรื่องกิจกรรมสงกรานต์ปลอดเหล้า ปี 2565 พบว่า  84% ชอบเที่ยวสงกรานต์ปลอดเหล้า เกือบ 100% เชื่อว่าช่วยลดอุบัติเหตุจากการดื่มแล้วขับ 89% ช่วยลดการทะเลาะวิวาท 88%  รู้สึกปลอดภัยในการออกมาท่องเที่ยว

ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวว่าในเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ได้รณณรงค์ “ดื่มไม่ขับ กรึ่มๆ ก็ถึงตาย” ต่อยอดจากเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา เน้นย้ำผลกระทบจากการดื่มแอลกอฮอล์แม้เพียงแก้วเดียวแล้วขับ ที่อาจส่งผลถึงชีวิต เพื่อลดพฤติกรรมเสี่ยง “ดื่มแล้วขับ” นอกจากนี้ยังมีคลิปวิดีโอออนไลน์ “พ่อที่รัก” ที่สะท้อนการเกิดอุบัติเหตุอาจไม่ได้ส่งผลกระทบกับตัวเองแต่ยังกระทบถึงคนรอบข้าง และมีคลิปวิดีโอเรื่องเล่าจากผู้ที่ประสบอุบัติเหตุจากบิ๊กไบค์ และเหยื่อจากคนที่ขับย้อนศรนอกจากนี้ทางภาคีเครือข่ายได้จัดพื้นที่นำร่องนอกจากนี้ทางภาคีเครือข่ายได้จัดพื้นที่นำร่อง และขยายพื้นที่เล่นน้ำปลอดภัยลดปัจจัยเสี่ยงในถนนตระกูลข้าวกว่า 60 แห่ง และพื้นที่เล่นน้ำปลอดเหล้ากว่า 100 แห่งทั่วประเทศ

ดร.นพ.ไพโรจน์ ระบุว่า สถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนน จากศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ) ช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2565 พบว่าสาเหตุหลักเกิดจากการขับรถเร็ว และดื่มแล้วขับ โดยรถจักรยานยนต์เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ขณะเดียวกันการหลับใน เป็นอีกหนึ่งสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุช่วงสงกรานต์ไม่แพ้กัน และข้อมูล จากบริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัดพบว่า ผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน ส่วนใหญ่เป็นหัวหน้าครอบครัวถึง 51%  และ 53% ขับขี่ออกไปเสียชีวิตใกล้บ้านในรัศมีเพียง 5 กิโลเมตรเท่านั้น 

“สสส. และภาคีเครือข่าย ชวนคนไทยทุกคนใส่ใจการขับขี่อย่างปลอดภัย ดื่มไม่ขับ สวมหมวกกันน็อก คาดเข็มขัดนิรภัย พักผ่อนให้เพียงพอก่อนเดินทาง

นายพรหมมินทร์ กัณธิยะ  ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ  ชี้ให้เห็นผลร้ายจากการดื่ม การดื่มที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ แล้วขับขี่ โอกาสเกิดอุบัติเหตุเพิ่มเป็น 2 เท่า ส่งผลทางระบบประสาท และมีการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ หากมีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด 100 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จะเพิ่มความเสี่ยงถึง 6 เท่า สูญเสียการทรงตัว มึนงง เดินไม่ตรงทาง และหากมีปริมาณแอลกอฮอล์สูง 150 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ขึ้นไป โอกาสเกิดอุบัติเหตุเสี่ยงสูงถึง 40 เท่า จะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน  รู้สึกตัวช้า ระบบในร่างกายทำงานแย่ลง ไม่สามารถควบคุมรถได้ ในขณะนี้ได้มีการเพิ่มโทษผู้เมาแล้วขับ คือ การทำผิดครั้งแรกมีอัตราโทษ จำคุก ไม่เกิน 1 ปี หรือปรับ 5,000 ถึง 20,000 บาท  หากทำผิดซ้ำข้อหา “เมาแล้วขับ” ภายใน 2 ปี นับแต่วันกระทำผิดครั้งแรก เพิ่มโทษเป็นจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับ 50,000 ถึง 100,000 บาท  และศาลจะลงโทษจำคุกและปรับด้วยเสมอ  ถูกพักใบอนุญาตขับขี่ไม่น้อยกว่า 1 ปี หรือ ถูกเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่

สงกรานต์ดื่มไม่ขับ กรึ่มๆ ก็ถึงตาย