พรรคเพื่อไทย วางตัวผู้สมัครลงรับเลือกตั้งครบแล้วทุกเขตก่อนใครเพื่อน เขต 1 จักรพล ตั้งสุทธิธรรม ย้ายจากเขต 3 มาลงเขต 1 เพื่อสู้กับผู้สมัครของพรรคก้าวไกล และพรรคอื่นๆ เพราะแกนนำเห็นว่ามีความพร้อมมากกว่า และเขตนี้เป็นเขตที่มีฐานเสียงของคนรุ่นใหม่จำนวนมาก เขต 2 โกวิทย์ พิริยะอานันต์ สจ.เก่ง นักการเมืองหนุ่มได้เจ้าแม่วังบัวบาน เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ หนุนน่าจะผ่านได้สบายเขต 3 ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ ส.ส.กุ้ง ที่จำยอมลุกจากเก้าอี้ ส.ส.เขต 1 เชียงใหม่ มาลงเขต 3 สันกำแพง บ้าน “พี่โทนี่ วู้ดซัม” เขตนี้ไม่มีอะไรน่าห่วงเพราะเป็นพื้นที่ฐานเสียงของตระกูลชินวัตรอยู่แล้ว เขต 4 วิทยา ทรงคำ ส.ส.ลูกหม้อเพื่อไทยหลายสมัย เขต 5 จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ เขตนี้ไม่มีปัญหา “เสี่ยหนิม” ผูกขาด มาหลายสมัยตั้งแต่ลงสมัครครั้งแรกก็ได้เลย ดูนามสกุลก็รู้ว่าเป็นลูกชาย สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ อดีตหัวหน้าและแกนนำพรรคเพื่อไทย เขต 6 นพ.ไกร ดาบธรรม เขตนี้จำเป็นต้องให้คุณหมอไกล ลงเพราะแกนนำพรรคกว่าจะชวนให้มาอยู่เพื่อไทยได้คุณหมอตัดสินใจอยู่นานเหมือนกัน หมอไกรเป็นดาวฤกษ์ มีแสงในตัวเองหากไปอยู่พรรคอื่นแล้วเพื่อไทยต้องเหนื่อยขึ้น เขต 7 นิติกร วุฒินันชัย นิติกร เป็นลูกชายประสิทธิ์ ส.ส.เขตนี้ ครั้งนี้ขอบายให้ลูกชายลงแทน เขต 8 ณัฏฐ์พัฒน์ รัฐผไท เช่นเดียวกัน ณัฎฐ์พัฒน์ เป็นทายาทของนพคุณ ส.ส.เขตนี้หลายสมัย เที่ยวนี้ขอพักผ่อนส่งเก้าอี้ให้ลูกชายสานต่อ เขต 9 สุรพล เกียรติไชยากร “เฮียเส่ง” จอมเก๋า ส.ส.ผูกขาดเขตนี้หลายสมัยติดต่อกัน ครั้งที่แล้วเลือกตั้ง 62 โดนใบส้ม จาก กกต.ฟ้องร้องจนชนะคดีเที่ยวนี้ ขอทวงคืนเก้าอี้ตัวนี้อีกครั้ง เขต 10 ศรีโสภา โกฎิคำลือ ศรีโสภา เป็นลูกสาว ศรีเรศ ส.ส.ของเพื่อไทยเขตนี้ ฐานเสียงแน่นปึ๊ก พ่อหรือลูกลงไม่ต่างกัน พรรคเพื่อไทยได้ตัด บัณจงศักดิ์ วงศ์รัตนวรรณ คนสนิทของ สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ออกหลังจาก กกต.ประกาศลดเขตเลือกตั้งจาก 11 เขต เหลือ 10 เขต ซึ่งต้องหาตำแหน่งในพรรคเพื่อไทยให้ทำงานเพื่อเป็นการปลอบใจกันต่อไป

พรรคพลังประชารัฐ ของ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ ที่มี ผู้กองธรรมนัส เป็นหัวหน้าทีม ส่งลงครบ 10 คน 10 เขตเลือกตั้ง มี พจนารถ ศรียารัณย์ ศรีพรรณ เขียวทอง พรชัย อรรถปรียางกูร ดร.มนสิชา ภัคดิเมธ เดชนัฐวิทย์ เตริยาภิรมย์ รัตนประภา ดิศวัฒน์ บดินทร์ กินาวงษ์ กุสุมา บัวพันธ์ นเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ และ นรพล ตันติมนตรี พรรคก้าวไกล ส่ง เพชรรัตน์ ใหม่ชมภู การณิก จันทดา ณัฐพล โตวิจักษณ์ชัยกุล พุฒิตา ชัยอนันต์ สมชิด กันธะยา อรพรรณ จันตาเรือง สมดุลย์ อุตเจริญ ภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์ สมเกียรติ มีธรรม ณรงค์ชัย เตโม พรรคไทยสร้างไทย เปิดตัวผู้สมัคร มี ภวฤทธิ์ กาญจนเกตุ เอกพล พงษ์พิกุล ดร.บุญทา ชัยเลิศ วาสนา ทองสุข นพ.แทนคุณ นพรัตน์สังวาลย์ วรโชติ จี้เรือน ปรเมธากร สวนแก้ว ณัชชา โปธายี่ พ.ต.ท.อดุลย์ คำมูล ยกเว้นเขต 3 เพราะ พรชัย อรรถปรียางกูร ย้ายไปซบรังผู้กองธรรมนัส แห่งพลังประชารัฐซึ่งต้องเฟ้นหาตัวผู้สมัครมาลงเขตนี้ใหม่ ส่วนพรรการเมืองอื่นกำลังเร่งเฟ้นหาตัวผู้สมัครอย่างเข้มข้น พรรคไทยรักษาชาติของ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันโอชา ที่มี “เสธหิ” พ.ท.หิมาลัย ผิวพรรณ เป็นหัวทีม ได้ตัวผู้สมัครบางเขตแล้วเช่น ดร.แป้ง เดือนเต็มดวง ณ เชียงใหม่ กิ่งกาญจน์ ณ เชียงใหม่ สันติ ตันสุหัส เป็นต้น ส่วนพรรคการเมืองอื่นอย่างพรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ ฯลฯ ก็ได้ตัวผู้สมัครในบางเขตเลือกตั้งแล้ว รอเปิดตัวในวันที่ กกต.ประกาศวันรับสมัครที่กำลังจะถึงในเร็ว ๆ นี้

สนามเลือกตั้งเมือง “เวียงพิงค์” พรรคเพื่อไทย ต้องการจำนวน ส.ส.โดยตั้งเป้าจะกวาดทั้งหมด 10 เขตเลือกตั้ง เพื่อก้าวไปสู่การ “แลนด์สไลด์” 310 ที่นั่งทั่วประเทศ ผู้สมัครของพรรคจึงถูกกำชับจากแกนนำให้ลงพื้นที่เข้าหาประชาชนโดยนำนโยบายของพรรคไปอธิบายและทำความเข้าใจกับพี่น้องชาวบ้านโน้มน้าวให้เลือกผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค และกาเลือกพรรคในบัตรเลือกตั้งใบที่สอง นอกจากนั้น ยังขนเหล่าบรรดาแกนนำลงพื้นที่ปราศรัยที่เชียงใหม่ถึงสองครั้งสองคราก่อนหน้านี้ การต่อสู้ในสนามนี้จึงเปรียบเสมือนการ “รุมกินโต๊ะ”พรรคเพื่อไทย อยู่พรรคเดียว ส่วนพรรคเพื่อไทยก็สู้ยิบตาเหมือนกัน!!.. ดินแดนถิ่นนี้พรรคอื่นอย่าได้หวังที่จะมีสิทธิแย่งเก้าอี้ ส.ส.ไปได้ ไม่มีวันหรอก!!..ประมาณนั้น ดุเดือดแน่ยิ่งใกล้วันเลือกตั้งจะได้เห็นสารพัดวิธีของทุกพรรคการเมืองที่จะหยิบขึ้นมาใช้ทั้งบนดินและใต้ดิน เพียงเพื่อให้ตนเองและพรรคการเมืองที่สังกัดอยู่บรรลุเป้าหมาย คือการคว้าชัยชนะในการการเลือกตั้งครั้งนี้.

สนั่น เข็มราช