เข้าสู่ Loop ของการ Remake ของ Resident Evil เเล้วในปีนี้สำหรับ Capcom ซึ่งในปีนี้ก็ถึงคิวของหนึ่งในภาคที่ดีที่สุดของซีรีส์ผีชีวะ อย่าง Resident Evil 4 ซึ่งเป็นภาคที่ใครหลายๆคนต่างยกให้ว่าเป็นภาคที่สามารถบาลานซ์ความเป็น Action เเละ Survival Horror ได้เป็นอย่างดี เเล้ว Resident Evil 4 Remake จะยังสามารถคงมาตรฐานความยอดเยี่ยมที่เคยทำในภาคต้นฉบับได้หรือไม่? ไปดูได้ในรีวิวนี้ได้เลย
STORY
สำหรับใครที่พึ่งเข้ามาเล่นภาคนี้เลย ไม่ได้เล่นภาค Original มาก่อน ในภาคนี้เราจะได้รับบทเป็น Leon S. Kenedy อดีตตำรวจหน้าใหม่ในเหตุการณ์ Raccon City เมื่อ 6 ปีที่เเล้ว ที่ ณ ตอนนี้กลายเป็น Secert Service Agent ที่ได้รับมอบหมายภารกิจในการไปช่วยลูกสาวของประธานาธิบดีสหรัฐสุดน่ารักอย่าง Ashley Graham ที่ถูกจับไปโดย ถูกทางลัทธิ Los Iluminados จับไปเป็นตัวประกัน ในหมู่บ้านที่ห่างไกลในประเทศสเปน ทำให้เขาต้องพบกับฝันร้ายในอดีตเหมือนกับ 6 ปีที่เเล้วอีกครั้ง
สำหรับเนื้อเรื่องในภาคนี้เรียกได้ว่ายังคงมีเค้าโครงเหมือนเดิมประมาณ 80-90% เเต่ส่วนที่เปลี่ยนเเปลงก็ถือว่าเปลี่ยนไปในทางที่ดี เช่นการปรากฏตัวของบางตัวละครที่ในเกมเวอร์ชันเก่าเราอาจจะเห็นเขาเจอกันตั้งแต่ในช่วงต้นเกมแล้ว แต่สำหรับภาคนี้เราอาจจะได้เห็นเขาปรากฏในช่วงกลางเกม หรือบางตัวก็อาจจะปรากฏในช่วงท้าย ๆ เกมแล้ว การกำกับ Cinematic ต้องบอกเลยว่าสุดยอด อีกส่วนที่ชอบคือการปูภูมิหลังตัวละครหรือองค์ประกอบในเกมให้ดูมิติมากขึ้น เช่นตัวละครอย่าง Luis ที่ต้นฉบับดูเป็นตัวดาษๆเเต่ภาคนี้กลับเอามาฮาให้ผู้เล่นไม่เครียดมากนัก เเต่ถึงอย่างนั้นก็มีช่วงเนื้อเรื่องบางอย่างบางตอนดูเป็น Signature ภาคต้นฉบับกลับถูกตัดออกซะอย่างนั้น เเม้จะทำให้เนื้อเรื่องดูกระชับกว่าเดิม(นิดนึง) เเต่ก็น่าเสียดายเหมือนกัน
GAME DESIGN
สำหรับในภาคนี้ดูเหมือนทางทีมผู้พัฒนาจะเพิ่มความเป็น Survival Horror ให้มากขึ้นเเต่ก็ไม่ได้ลดความเป็น Action ลง (สังเกตได้จากช่วงท้ายที่มันก็ยังเป็น Call of Duty เหมือนเดิม) เเต่มันกลับทำให้ตัวเกมนั้นกลมกล่อมมากขึ้น นอกจากนี้ตัวเกมยังอัปเกรดความดิบเถื่อน เเละโหดให้มากยิ่งขึ้นในทุกๆด้าน เรียกได้ว่าเเม้โหมดธรรมดาก็ไม่ปราณีผู้เล่นเลย ในด้านฉากเเละบรรยากาศนั้นก็ทำให้ดูสมจริง เเละ น่ากลัวกว่าเดิม ต่างจากภาคต้นฉบับที่ดูสว่างไสว เเต่อาจจะไม่ถูกใจคนที่ไม่ชอบความมืดเท่าไร ในส่วนของโมเดลตัวละครนอกจากจะทำให้ดูสมจริงขึ้นเเล้ว ยังมีการเปลี่ยนเเปลงในเรื่องของรูปลักษณ์ที่ทำให้เกมเพลย์เเเตกต่างไปจากต้นฉบับ เป็นการดักทางผู้เล่นเก่าที่ชำนาญเเล้วซึ่งนอกจากดจะทำให้สนุกมากขึ้นเเล้ว ยังเป็นการท้าทายผู้เล่นมากขึ้นด้วย ส่วนจะเป็นตัวไหนตัวอะไรบ้างต้องลองไปเล่นกันเอง
เเต่ส่วนที่ผมถูกใจมากที่สุดนั่นคือโมเดลตัวละครของ 2 สาวประจำเรื่องอย่างสาวน้อย Ashley Graham เเละคู่จิ้นที่ไม่ได้กันสักที (เพราะไอ้ลีออนมันเป็นหุ่นยนต์) ของพระเอกอย่าง Ada Wong ที่อัปเกรดโมเดลมาได้ถูกใจผมมากๆโดยเฉพาะ Ada ที่เเม้จะไม่ได้เคารพต้นฉบับด้วยการใส่ชุดกี่เพ้ามาลุย เเต่ Sweater รัดรูปสีเเดงก็ดีไม่เเพ้กัน เเม้จะมีดราม่าคนไม่ชอบเรื่องเสียงบ้างเเต่ส่วนตัวผมไม่ติดอะไร ส่วน Ashley ที่ได้นางเเบบสุดสวยอย่าง Ella Freya มารับหน้าที่เป็น Motion Capture ก็น่ารักถูกใจเหล่าหนุ่มหลายคน เเถมเสียงก็ไม่ได้น่ารำคาญเหมือนภาคต้นฉบับเเล้ว เรียกได้ว่าเเม้จะเป็นภาระเเต่เชื่อว่าหนุ่มๆก็เต็มใจปกป้องพร้อมพลีกายถวายชีวิตเเน่นอน
GAMEPLAY
ในภาคนี้ทางทีมงานนั้นเลือกใช้มุมมองเเบบบุคคลที่ 3 เหมือนในเวอร์ชันต้นฉบับ ซึ่งมันก็มีข้อดีเเละข้อเสียเพราะมุมกล้องเเบบนี้เวลาเคลื่อนไหวเเม้มันจะอิสระ เเต่เวลาหลังชิดกำเเพงก็ทำเอาลำบากในการเล็งหรือการวิ่งหลบเหมือนกัน ยิ่งในภาคนี้เรามีน้อง Ashley ติดตัวอยู่ด้วยทำให้บางทีเราวิ่งติดน้องจนโดนดาเมจได้เหมือนกัน
ระบบการสั่ง Ashley ที่ในภาค Remake นี้เป็นการอัปเกรดมาใหม่ให้ AI นั้นดีมากขึ้น โดยตัวเกมจะมีปุ่มให้ Ashley สามารถเดินตามเรา อยู่ให้รออยู่กับที่ก็ได้ ซึ่งก็ดีมากขึ้นจริงๆ เเม้จะมีบางครั้งที่วิ่งงงๆบ้างเเต่ก็เป็นเเค่บางครั้งบางคราวเท่านั้น เรียกได้ว่าไม่เป็นภาระเท่าเดิม (เเต่ยังเป็นภาระอยู่ดี) เเถมในภาคนี้ก็ไม่ต้องคอยเป็นห่วงนักเพราะไม่มีหลอดเลือดให้เสีย (เเต่ถ้าปล่อยให้โดนตีเเรงๆ 2 ครั้งก็เกมโอเวอร์ได้เหมือกัน)
พูดถึงน้อง Ashley เราจะได้เล่นเป็นเธอด้วยซึ่ง Gameplay ในส่วนนี้จะเป็นเเนว Survival Horror เเบบเต็มๆเพราะเธอไม่สามารถต่อสู้ได้จึงจะเเทนที่ด้วยระบบ Puzzle เเทน ซึ่งส่วนตัวผมเเล้วมันก็ไม่ได้น่ากลัวสักเท่าไรนัก (อาจจะเพราะชินกับเกมเเนวๆนี้เเล้วละมั้ง)
เเต่ถ้าจะถามว่าส่วนไหนที่ได้รับการอัปเกรดเเละดูดีเป็นอย่างมากนั่นก็คือ “ระบบต่อสู้” ในภาคนี้ เพราะ Leon จะไม่ได้เป็นมือใหม่เหมือนเมื่อ 6ปีก่อนแล้ว Leon สามารถจัดการศัตรูได้หลากหลายมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นการยิงศัตรูให้เซ และทำการเตะศัตรูให้ล้ม นอกจากนี้การใช้มีดสำหรับภาค Remake ก็ยังมีการปรับปรุงรายละเอียดให้ดีขึ้นมากกว่าภาคต้นฉบับ Leon สามารถแทงศัตรูได้หลายท่าทางมากขึ้น ตัวเกมยังเพิ่มกลไกลอย่างการลอบเร้นและเข้าไปใช้มีดสังหารศัตรู รวมถึงเรายังสามารถใช้มีดในการ Parry การโจมตีของศัตรูได้ หรือสามารถใช้มีดในการโจมตีสวนศัตรูที่จะเข้ามาโจมตีเราได้เหมือนในภาคก่อน ๆ เช่นกัน ซึ่งมีดของเกมภาคนี้ค่อนข้างสารพัดประโยชน์มาก แต่มันก็แลกมาด้วยการที่มีดนั้นพังได้ ซึ่งเราก็จะต้องหาเก็บมีดเพิ่มตามฉาก หรือซ่อมที่ร้านค้า (ซึ่งค่าซ่อมไม่รู้จะเเพงไปไหน) เเต่ในเมื่อเราเก่งขึ้น ทางผู้พัฒนาก็จัดเต็มจัดศัตรูโหดๆ เเถมหลากหลายมาก ๆ มาโยนใส่เราเหมือนกัน ศัตรูที่ท่านนึกถึงทั้ง Regenerador , Verdugo หรือศัตรูอื่นๆ ที่ท่านจะนึกได้จะมาให้รูปแบบใหม่ๆที่คุณจะจับทางได้ยากเเน่นอน เเถมเยอะอีกด้วย ส่วนระบบน่ารำคาญอย่าง Quick Time Event ก็ไม่เยอะเหมือนต้นฉบับ ส่วนใหญ่จะมีเฉพาะตอนโดนจับหรือ สู้บอสเท่านั้นซึ่งนั่นก็ดีเเล้วเพราะมันจะได้ไม่น่าเบื่อ ไม่ใช่อะไรเอะอะก็ กด X กดXเหมือนต้นฉบับ
อีกระบบที่เพิ่มเข้ามาเเละอัปเกรดให้เกรดการเล่นไม่ตึงจนเกินไปนั่นก็คือ ระบบ Side Quest ที่จะได้มาจากพ่อค้า (ที่ไม่ได้พูด What are Buying… อีกเเล้ว ขอหักคะเเนน 555+) โดยเราจะรับหรือไม่รับก็ได้เเต่ถ้าเราทำก็จะได้ของรางวัลตอบเเทนที่สามารถนำไปซื้ออาวุธของของอัปเกรดช่วยให้เราเล่นได้สบายมากขึ้น ซึ่งมันก็ไปเกี่ยวข้องกับระบบ Charm เเละ Inventory ซึ่งถ้าใครเป็นพวก OCD คุณจะได้จัดของกันเเบบจัดเต็มเเถมยังจะได้เเต่งกระเป๋าด้วย โดยการเเต่งกระเป๋านั้นไม่ใช่เเค่เท่ เเต่ยังสามารถเพิ่มค่าสถานะต่างๆอีกได้อีกด้วยเรียกได้ว่ามีประโยชน์สุดๆ
สุดท้ายก็คือ Puzzle ที่ภาคนี้นั้นมีไม่เยอะ ซึ่งมันจะคล้าย ๆ กับเกมเวอร์ชันต้นฉบับเเต่มันจะเปลี่ยนวิธีการเล่นนิดหน่อย เพื่อดักทางผู้เล่นเก่า แต่ถึงอย่างนั้น Puzzle ของเกมก็ค่อนข้างทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว
Perfromance
ต้องบอกเลยว่าเกมนี้ทำการ Optimize มาดีมากๆ (ไม่เหมือนบางเกมที่บัคเเล้วบอกว่าเป็น Magic 555 หยอกนะครับ) ซึ่งผมเล่นใน Ryzen 7 4800HS และการ์ดจอ Nvidia GTX 1660ti ก็สามารถปรับ High ใน Framrate 60-70 ได้สบายๆ เเถมสวยเเถมยังปรับได้เยอะมาก ๆ ทั้งในแง่ของแสงเงา รายละเอียดภาพเเถมยังออกมาดีเเบบไร้ข้อสงสัย ในส่วนของ UI เเละเเผนที่ก็เป็นการเอาส่วนดีจากภาค Village ที่มาปรับให้เข้ากับภาคนี้ เเม้จะมีข้อดีเเต่ก็มีข้อเสียด้วยเหมือนกัน ส่วนตัวคิดว่าถ้าใครไม่ช่ำ Joystick ไม่ควรใช้ Joystick เล่นเป็นอย่างยิ่ง เนื่องด้วยจำนวนศัตรูที่เยอะมากๆ เเถม Aim Assist ก็ไม่ได้ดีขนาดนั้น เเนะนำว่าอย่าหาทำนะครับ
อีกอย่างที่ไม่ชมไม่ได้เลยคือทางผู้พัฒนานั้นดูจะเเคร์กับเสียงประชาชนชาวเกมเมอร์มากๆ เพราะดีเทลเล็กน้อยอย่างเม็ดฝนที่โดนคนเเซวว่าเป็นลูกเห็บ เขาก็ยังเเก้ให้ดูสมจริง เรียกได้เอาใจผู้เล่นไปเต็มๆครับ
Verdict
เหมือนกับว่าทางทีมงาน Capcom เร่งทำภาค 3 Remake เเบกลวกๆ เเล้วมาจัดเต็มกับ Resident Evil 4 Remake เเบบเบิ้มๆ (ทั้งที่มันควรจะทำให้มันดีๆทั้งคู่เพราะมันเป็น 2 ภาคที่คนชื่ชอบมากที่สุด) เเม้ตัวเกมจะต้องใช้เวลานานกว่าปกติกว่าที่ Resident Evil ทั่วไปควรจะเป็น เเต่มันกลับไม่น่าเบื่อเลยเเม้เเต่น้อยเเถมยังมีจุดพีคที่ทำให้เราได้รู้สึกถึงอะไรใหม่ๆเเละเร้าใจตลอดเวลา เเต่ สมกับเกมที่ Remake มาเเล้วจริงๆ เเต่เสียดายที่ตอนนี้ยังไม่มี Mercenaries mode หรือ Ada Seperate’s Way มาให้เราเล่นตอนนี้ เเต่ถ้านับในตอนนี้นี่คือ Resident Evil ที่ดีที่สุด ณ ตอนนี้เลยก็ว่าได้
หรือว่าปีนี้จะเป็นปีเเห่งเกม Remake กันนะ
——————————————–——————————————–
Resident Evil 4 Remake BY INSIDE THE GAME
คอลัมน์โดย Wacther
ติดตามรีวิวเกม และ อื่นๆที่น่าสนใจได้ที่ : INSIDE THE GAME