ยังไม่พ้นเดือนมีนาคม แต่บรรยากาศทั่วประเทศค่อนข้าง ร้อนระอุขึ้นทุกวัน ไม่แตกต่างจากอุณหภูมิการเมืองก็ร้อนแรงเช่นกัน หลังราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ พ.ร.ฎ.ยุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2566ไปสัปดาห์ก่อน ตามด้วย สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร วันอาทิตย์ที่ 14 พ.ค. 66
ถือเป็นการลั่นระฆังอย่างเป็นทางการ นับถอยหลังอีกประมาณเดือนเศษ ๆ ถึงเวลาเข้าสู่คูหาเลือกตั้ง!!
ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จากอดีต ผบ.ทบ. ตัดสินใจสวมหมวก หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นำกองทัพยึดอำนาจทำ รัฐประหาร 22 พ.ค. 57 ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี ได้บริหารนำพาประเทศไทย จนเข้าสู่ปีที่ 9 กระทั่งยุบสภาไปแล้ว
ปัจจุบันพล.อ.ประยุทธ์ อายุครบ 69 ปีเต็ม ยังไม่คิดลงจากหลังเสือง่าย ๆ เดินหน้าลุยต่อสนามเลือกตั้ง สวมสีเสื้อ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) พร้อมสโลแกน “ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ“ บรรดานักวิเคราะห์การเมืองส่วนใหญ่มองตรงกันว่า คงยังมั่นใจเสียงสนับสนุนที่มี ตุนอยู่ในมือ 250 เสียงจาก ส.ว. เนื่องจาก สมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว. 250 คน มาจากการสรรหา โดย คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปรียบเสมือนเป็น มรดกที่ คสช.ได้วางเอาไว้
สื่อมวลชนสายรัฐสภา ตัดสินใจมอบฉายาให้ ส.ว.ที่มาจากการสรรหาของ คสช.ว่า เป็น สภาปรสิต เพราะ ส.ว. 250 คน มีสิทธิลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี ร่วมกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) 500 คน เมื่อถึงเวลาโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี จะอยู่ฝั่งไหนก็คงไม่ต้องบอก เสียง 250 ส.ว.เพิ่มอีก 126 เสียงของส.ส.ก็รวมกันเกินครึ่ง 376 เสียง แบบสบาย ๆ
ไม่ใช่เรื่องแปลก ยุทธศาสตร์แลนด์สไลด์ของพรรคเพื่อไทย จากหวังชนะเลือกตั้งทั่วประเทศ ตอนแรกตั้งเป้าหมายจะให้ได้ส.ส. 250 คนขึ้นไป ล่าสุดเปลี่ยนเป้าขยับเพิ่มเป็น 310 คนขึ้นไป ขณะที่การเลือกตั้ง 14 พ.ค. 66 นี้ มีการปรับสัดส่วน ส.ส.ระบบแบ่งเขต เป็น 400 คน, ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ 100 คน หากพรรคเพื่อไทย ชนะเลือกตั้งได้ ส.ส.มากถึง 310 คนจริง จะดึงเสียงจากพรรคอื่นอีกเพียง 66 เสียงก็ได้เกินครึ่ง 376 เสียงเพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี จากจำนวนเสียงภายในรัฐสภา 750 เสียง (ส.ส. 500 เสียง และ ส.ว. 250 เสียง)
เชิงผา ลองย้อนกลับไปดู ข้อมูลแลนด์สไลด์ เคยเกิดขึ้นมาแล้ว เมื่อ 22 ปีก่อน ผลการเลือกตั้งวันที่ 6 ม.ค. 44 สมัยนั้น พรรคไทยรักไทย สร้างประวัติศาสตร์ชนะเลือกตั้ง ได้ ส.ส. 248 คน ทำให้ ทักษิณ ชินวัตร ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 23 เป็นรัฐบาลแรกที่บริหารงานครบวาระ นายกฯ ไม่ต้องลาออกหรือยุบสภาก่อนครบกำหนด ถัดมา การเลือกตั้ง 6 ก.พ. 48 รอบนี้ พรรคไทยรักไทย ทุบประวัติศาสตร์เก่าสิ้นเชิง ได้รับฉันทามติจากประชาชนถล่มทลาย ได้ ส.ส.มากถึง 377 คน (จากทั้งหมด 500 ที่นั่ง) ทำให้ ทักษิณ ได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีต่ออีกสมัย
ตอนนี้ยุทธศาสตร์แลนด์สไลด์ถูกงัดมาใช้อีก แต่เปลี่ยนจากไทยรักไทยมาเป็นเพื่อไทย ตั้งเป้าเอาไว้ 310 คน!!
แค่ประเดิมนับถอยหลังเลือกตั้ง โหมโรงไม่กี่วันก็เริ่มมีทีเด็ดของแต่ละพรรคปล่อยมาให้เห็นตลอด ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา มีข่าวฮือฮา ทักษิณ ชินวัตร ขณะนี้อายุ 73 ปี ไปให้สัมภาษณ์สื่อเกียวโดนิวส์ของญี่ปุ่น พร้อมกลับมารับโทษจำคุกในประเทศ ไทยในปีนี้ ขอใช้ชีวิตที่เหลืออยู่กับครอบครัว ไม่ว่าผลการเลือกตั้ง พ.ค. 66 จะออกมาเป็นอย่างไร “ผมเหมือนติดอยู่ในคุกขนาดใหญ่มา 16 ปีแล้ว ถ้าผมต้องทนทุกข์ทรมานอีกครั้งในคุกที่เล็กกว่านั้นก็ไม่เป็นไรจริง ๆ”
เรียกว่าการเลือกตั้ง 14 พ.ค. 66 จะกลายเป็นอีกประวัติศาสตร์บทใหม่ของเมืองไทยทันที ถ้า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และนายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ช่วยกันนำทัพลุยฝ่าด่านหินสู่เป้าหมายแลนด์สไลด์ได้สำเร็จ เหนือสิ่งอื่นใดหากทักษิณกลับมาติดคุกจริง ๆ โฉมหน้าการเมืองไทยปีนี้ จะร้อนแรงแค่ไหน?
————————
เชิงผา
