เป็นที่ทราบกันดีทั่วทั้งบางว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังอยากได้ หัวหอกคนใหม่ เข้ามาเสริมแนวรุกในช่วงซัมเมอร์นี้ หลังดาวยิงที่มีอยู่ในสต๊อกโดยเฉพาะ อองโตนี มาร์กซิยาล และ กองหน้าสัญญาเช่าอย่าง เวาต์ เว็กฮอร์ตส์ ยังไม่ดีพอที่จะช่วยยกระดับให้พวกเขาก้าวขึ้นไปทีมที่มีลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก ได้อย่างเต็มตัว

สำหรับกองหน้าที่ตกเป็นข่าวกับ แมนฯ ยูไนเต็ด มานานพักใหญ่ และถูกมองว่า มีโอกาสจะย้ายเข้าสู่ชายคา โอลด์ แทรฟฟอร์ด มากที่สุดมีอยู่ 2 รายคือ แฮร์รี เคน ของ ทอตแนม ฮอตสเปอร์ และ วิคเตอร์ โอซิมเฮน ของ นาโปลี ทว่าคำถามก็คือ ใครคือคนที่ใช่สำหรับ “ผีแดง”?

แน่นอนว่า การเซ็นสัญญากับทั้ง เคน และ โอซิมเฮน ต่างมีข้อดี และข้อเสียในตัวของมันเอง โดยมีปัจจัย 3 อย่างที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องนำมาใช้ประกอบการพิจารณา ก่อนการลงทุนครั้งใหญ่ในช่วงหน้าร้อนนี้

ปัจจัยแรกก็คือ “อายุ” แม้จะเป็นตัวเลือกที่ดูดี และครบเครื่องกว่า แถมยังไม่ต้องเสียเวลาปรับตัวกับฟุตบอลอังกฤษ แต่ แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องพึงระลึกเอาไว้ในใจว่า เคน กำลังจะอายุครบ 30 ปี ในช่วงเริ่มต้นฤดูกาลหน้า

พวกเขาเคยมีบทเรียนมาแล้วในกรณีของ โรบิน ฟาน เพอร์ซี ที่ไปคว้าตัวมาจาก อาร์เซนอล ในวัยย่าง 30 เช่นกัน

แม้ “อาร์วีพี” พิสูจน์ให้เห็นว่า เป็นการเซ็นสัญญาที่ยอดเยี่ยม หลังยิงกระจายจนพา เรด เดวิลส์ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก มาครองได้สำเร็จในฤดูกาลสั่งลาของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน

แต่หลังจากนั้น ผลงานของ ฟาน เพอร์ซี ก็เริ่มดร็อปลงเรื่อย ๆ เนื่องจากสภาพร่างกายที่กรอบเป็นข้าวเกรียบ จนกระทั่งต้องระเห็จไปอยู่กับ เฟเนร์บาห์เช ในปี 2015 หรือ หลังจากค้าแข้งอยู่ใน โรงละครแห่งความฝัน ได้เพียง 3 ปี

ส่วนกรณีของ เคน ยิ่งแล้วใหญ่ เพราะฟุตบอลสมัยใหม่ นักเตะจำเป็นต้องมีความฟิตมากขึ้น และแข็งแรงขึ้น เนื่องจากมีโปรแกรมให้ลงสนามถี่ยิบ โดยเฉพาะทีมใหญ่ที่มีโอกาสจะต้องลงเล่นถึงราว 74 เกม ต่อฤดูกาลทั้งในฟุตบอลลีก, ฟุตบอลถ้วยภายในประเทศ และฟุตบอลสโมสรยุโรป

ดังนั้นหากพิจารณาถึงปัจจัยข้อนี้ โอซิมเฮน ที่อายุเพียง 24 ปี จึงดูจะเป็นตัวเลือกที่ดูดีกว่า เคน สำหรับ แมนฯ ยูไนเต็ด

ปัจจัยสำคัญลำดับต่อมาที่ ปิศาจแดง ต้องพิจารณาให้จงหนักเช่นกันก็คือเรื่อง “ค่าตัว”

ปัจจุบัน เคน เหลือสัญญากับ สเปอร์ จนถึงปี 2024 เท่านั้น และหลายคนอาจจะคิดว่า ไก่เดือยทอง น่าจะต้องตัดใจปล่อย กัปตันทีมชาติอังกฤษ ออกจากทีมด้วยราคาลดกระหน่ำในช่วงซัมเมอร์นี้ เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียตัวไปฟรี ๆ หลังหมดสัญญา

ทว่าในความเป็นจริงทุกอย่างมันไม่ได้ง่ายอย่างนั้น หลัง แดเนียล เลวี ประธานสโมสรจอมเขี้ยวของสเปอร์ ยืนกรานแบบกระต่ายขาเดียวว่า ไม่มีความคิดที่จะปล่อย เคน ออกจากทีม แม้เจ้าตัวจะยังไม่ยอมจดปากกาต่อสัญญาฉบับใหม่ก็ตาม

ดังนั้นทางเดียวที่ แมนฯ ยูไนเต็ด จะไปฉก เคน ออกมาจากถิ่น ทอตแนม ฮอตสเปอร์ สเตเดี้ยม ในช่วงซัมเมอร์นี้ได้ ก็คือการยื่นข้อเสนอที่มิอาจปฏิเสธได้ให้กับ สเปอร์ เท่านั้น และนั่นก็หมายถึงเงินก้อนโตระดับ 100-150 ล้านปอนด์เลยทีเดียว

แน่นอนว่า การคว้า โอซิมเฮน มาร่วมทัพ ก็น่าจะต้องใช้เงินมากพอ ๆ กัน หลังมีรายงานว่า ออเรลิโอ เด ลอเรนติส ประธานสโมสรนาโปลี ต้องการค่าเสียหายไม่ต่ำกว่า 150 ล้านยูโร เพื่อแลกกับการแยกทางกับ หัวหอกทีมชาติไนจีเรีย

อย่างไรก็ตาม เมื่อนำปัจจัยเรื่องอายุเข้ามาประกอบการพิจารณา หากต้องเลือกระหว่าง เคน และ โอซิมเฮน ในค่าตัวเท่า ๆ กัน รายหลังน่าจะเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ากว่า เมื่อมองถึงอายุการใช้งานที่เหลือมากกว่ากันชนิดบานเบอะ

มาถึงปัจจัยสุดท้ายที่ เคน ดูจะเอาชนะ โอซิมเฮน ได้อย่างขาดลอย นั่นก็คือ “ประสบการณ์”

สำหรับ เคน แล้ว พรีเมียร์ลีก ก็เหมือนกันสวนหลังบ้านที่เขาวิ่งเล่นมาตั้งแต่เด็ก โดย “เฮอร์ริเคน” ยืนระยะเป็นดาวยิงเบอร์ 1 ในลีกสูงสุดเมืองผู้ดีมานานหลายปี และยิงเกิน 20 ประตู มาตลอด 9 ฤดูกาลหลังสุด แถมยังยิงแตะหลัก 30 ประตู ถึง 3 ครั้ง และยิงทะลุไปถึง 40 ประตู มาแล้วหนึ่งครั้ง

ผลงานดังกล่าวของ เคน แสดงให้เห็นว่า เขาคือหนึ่งในดาวยิงที่มีฟอร์มคงเส้นคงวามากที่สุดในโลก และสามารถจะการันตีประตูให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ไม่ต่ำกว่าฤดูกาลละ 20 ลูกแน่นอน

ส่วน โอซิมเฮน แม้จะมีศักภาพดีพอที่จะก้าวขึ้นไปเป็นดาวยิงระดับโลกได้ในอนาคต แต่ก็ต้องยอมรับว่า เพิ่งจะมาโชว์ฟอร์มได้อย่างเปรี้ยงปร้างจริง ๆ ในฤดูกาลนี้เท่านั้น หลังกระหน่ำไปแล้ว 25 ประตูจาก 29 นัด รวมทุกรายการ

กระนั้นไม่มีใครสามารถการันตีได้ว่า หัวหอกอินทรีมรกต จะยังคงทำผลงานได้ดีเหมือนเดิมหรือไม่ เมื่อต้องย้ายมาเล่นในอังกฤษ ซึ่งแตกต่างกับอิตาลีอย่างสิ้นเชิง ทั้งเรื่องสภาพแวดล้อม และสไตล์การเล่น

สรุปว่า หากพิจารณาเรื่องประสบการณ์ หรือ ลูกเก๋าแล้ว เคน น่าจะเป็นการเดิมพันที่มีโอกาสได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า โอซิมเฮน ค่อนข้างแน่ และน่าจะช่วยการันตีความสำเร็จให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้หากมองในระยะสั้น

อย่างไรก็ตามเชื่อว่า แฟนบอล เรด อาร์มี คงจะยินดีปรีดากันยกใหญ่ ไม่ว่าจะได้ เคน หรือ โอซิมเฮน มาร่วมทัพ เพราะนี่คือการเซ็นสัญญาที่จะช่วยยกระดับให้ แมนฯ ยูไนเต็ด กลายเป็นทีมที่น่าครั่นคร้ามกว่าเดิมได้แน่นอน.