การเลือกตั้งที่จะถึงนี้ เป็นที่จับตากันมากว่า “จะมีการเปลี่ยนขั้วรัฐบาลหรือไม่ ?” แต่เบื้องต้นคือ “ผลการเลือกตั้งจะต้องโปร่งใส ประชาชนได้เห็นการทำงานของเจ้าหน้าที่ กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง ( กปน.) อย่างชัดเจน และที่เขาเป็นห่วงคือจะไม่มีการรายงานคะแนนแบบเรียลไทม์  ซึ่งเรื่องการรายงานผลคะแนน นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง ( กกต.) กล่าวว่า การรายงานผลมีระบบ ECT Report

นายแสวงระบุว่า   1. สำนักงาน กกต.มีการรายงานผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการอย่างแน่นอน โดยผ่านระบบ ECT Report เป็นการรวมคะแนนและการรายงานผลคะแนนจากแบบ ส.ส. 5/18 เหมือนการเลือกตั้งทั่วไปทุกครั้งที่ผ่านมา ซึ่งประกอบด้วยข้อมูลเกี่ยวกับการเลือกตั้งของแต่ละหน่วยเลือกตั้ง คือ จำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่มาแสดงตน จำนวนบัตรเลือกตั้งที่ได้รับจัดสรร จำนวนบัตรที่ใช้ไป  จำนวนคะแนนที่ผู้สมัครแต่ละคนหรือพรรคการเมืองได้รับ โดยเรียงตามหมายเลขผู้สมัคร  แบบ ส.ส. 5/18 นี้ จะมีลายมือชื่อ คณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง( กปน.) จำนวนทั้ง 9 คน ลงลายมือชื่อกำกับไว้ และปิดไว้ที่ทุกหน่วยเลือกตั้ง   1 ชุด

 2.  จะทราบผลการรายงานอย่างไม่เป็นทางการ ไม่เกินเวลา 23.00 น.ของของวันเลือกตั้งโดยคะแนนแรกที่จะเข้าสู่ระบบ ECT Report ประมาณไม่เกินเวลา 19.00 น.หลัง กปน. กรอกแบบ 5/18 เสร็จและปิดไว้หน้าหน่วยเลือกตั้ง และคะแนนจะทยอยเข้าสู่ระบบอย่างต่อเนื่อง  ทั้งนี้ ประชาชนสามารถติดตามการรายงานผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการจากสื่อต่างๆ ที่มาเชื่อมต่อกับระบบ ECT Report ได้อย่างต่อเนื่อง การนับ การขานคะแนน ทำต่อหน้าสายตาประชาชน ตัวแทนพรรคการเมือง ภาคประชาชน สื่อมวลชนร่วมสังเกตการณ์ตลอดเวลา

 อย่างไรก็ตาม ภาคประชาชนก็ได้มีส่วนร่วมในการรายงานผล โดยได้เปิดตัวแพลตฟอร์ม  “vote62”  แพลตฟอร์มรายงานผลเลือกตั้งแบบเรียลไทม์ ซึ่งพัฒนามาจากการทบทวนปัญหาเลือกตั้ง 62 ผลคะแนนพลิกไปมา ตรวจสอบไม่ได้  โดยชวนให้ประชาชนรายงานผลคะแนนเลือกตั้ง  และยังมีการเสริมฐานข้อมูลผู้สมัคร ส.ส. เพื่อช่วยประชาชนตัดสินใจ แพลทฟอร์มนี้เปิดตัวไปเมื่อวันที่ 18 มี.ค. เป็นความร่วมมือกันระหว่าง opendream และองค์กรภาคี ได้แก่ โครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw) องค์กรที่จับตาด้านกฎหมายและนโยบายของไทย และ Rocket Media Lab องค์กรที่ทำงานด้านฐานข้อมูลเพื่อสื่อสารมวลชน  ในการเปิดตัวแพลทฟอร์ม ได้หาอาสาสมัครจับตาและรายงานผลการเลือกตั้ง 100,000+ คนทั่วประเทศ พร้อมเปิดตัวเว็บไซต์ vote62.com แพลตฟอร์มรายงานผลคะแนนแบบเรียลไทม์

สำหรับการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงซึ่งเต็มไปด้วยกติกาและกฎหมายใหม่ๆ มากมาย iLaw จึงได้จัดทำคู่มือเลือกตั้ง’66 ใช้ชื่อว่า “เรียนรู้จากอดีต กาเพื่ออนาคต” โดยบรรจุเนื้อหาสำคัญ ทั้ง ระบบเลือกตั้งใหม่ ที่จะใช้ในปี 2566 กติกาการใช้สิทธิของประชาชนที่ปรับปรุงใหม่ นอกจากนี้ในคู่มือการเลือกตั้งฉบับนี้ยังมีข้อมูลอื่นๆ ที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลการเสนอกฎหมายและลงมติของ ส.ส. ในสภาชุดปี 62-66  ข้อมูลและจุดยืนพรรคการเมืองที่ลงสนามเลือกตั้งรอบนี้ รวมไปถึงปัญหาและอุปสรรคที่รออยู่ข้างหน้า หลังการเลือกตั้ง และสิ่งที่ประชาชนสามารถลงมือทำได้ และวิธีการที่จะเกิดขึ้นได้จริง ผู้ที่สนใจสามารถดาวน์โหลดคู่มือฯ ได้ที่ https://ilaw.or.th/sites/default/files/Election_Guidebook_Online.pdf 

นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการ iLaw กล่าวว่า  การเลือกตั้งปี 2562  การรายงานผลคะแนนที่รายงานผ่านสื่อสารมวลชน ที่ไม่ใช่การรายงานคะแนนสดตรงจากคูหาเลือกตั้ง แต่เป็นคะแนนที่ผ่านตัวกลางมาแล้วหลายมือ มีการแก้ไขจัดการคะแนนมาก่อนจนเป็นที่พอใจ แล้วจึงส่งคะแนนให้กับสื่อมวลชนและประชาชน จึงทำให้การรายงานคะแนนเป็นไปอย่างล่าช้า มีผลพลิกกลับไปกลับมา จนคนลุ้นผลงงไปตามๆ กัน คะแนนที่รายงานเกือบทั้งประเทศเป็นแค่ของผู้สมัครที่ได้สามอันดับแรกของแต่ละเขตเท่านั้น อันดับอื่นไม่มีคะแนนเข้าระบบ, คะแนนของหกจังหวัดภาคใต้ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สตูล ตรัง พัทลุง ไม่ถูกรายงานสดเลยจนเช้าของวันรุ่งขึ้น และตลอดทั้งคืนมีผู้สมัครที่คะแนนถูกปรับ ลดลงมากกว่า 3,900 คน หรือ 1 ใน 3 ของจำนวนผู้สมัครทั้งหมด ฯลฯ

“พอมาถึงปี 2566 กกต. ก็ไม่สามารถพัฒนาเทคโนโลยีใหม่เพื่อลดหรือป้องกันความผิดพลาดได้ และยังไม่มีความชัดเจนว่า จะใช้ระบบการรายงานคะแนนด้วยวิธีใด จึงเป็นสาเหตุให้ประชาชนไม่มีความเชื่อมั่นในระบบการรายงานผลคะแนน  หลายฝ่ายก็เห็นพ้องว่า เราจะต้องลุกขึ้นมาทำกันเอง ต้องระดมอาสาสมัครให้ได้กว่า 100,000 คน เพื่อไปยังหน่วยเลือกตั้งทั้งประเทศ ไปเฝ้าดูการทำงานของ กกต. ถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐาน และรายงานผลคะแนนกันเอง ” นายยิ่งชีพ กล่าว 

นายยิ่งชีพระบุว่า ส่วนสำคัญในแคมเปญครั้งนี้ก็คือ แพลตฟอร์ม vote62 ซึ่งจะเป็นแพลตฟอร์มที่ให้อาสาสมัครทั่วประเทศรายงานผลคะแนนการนับคะแนนจากหน่วยต่างๆ ทั่วประเทศเข้ามาและจะแสดงผลการเลือกตั้งในแบบเรียลไทม์ให้ประชาชนทั้งประเทศได้เห็นไปพร้อมๆ กัน 

Vote62 เลือกตั้ง 66 จับตาความโปร่งใสโดยประชาชน

“vote62″ คือ ระบบการรายงานผลการเลือกตั้งแบบคราวด์ซอร์ส (Crowdsourcing) โดยให้ประชาชนช่วยกันถ่ายภาพกระดานคะแนนที่นับเสร็จแล้วในคูหาเลือกตั้ง แล้วส่งเข้ามาในระบบของ vote62 เพื่อเป็นข้อมูลตรวจสอบและเปรียบเทียบผลการรวมคะแนนจาก กกต. โดยชื่อของ vote62 มาจากการเริ่มทำระบบอาสาสมัครรายงานผลการเลือกตั้งในการเลือกตั้งทั่วไป 24  มี.ค. 2562 จากนั้น vote62 ก็ทำงานจับตาการเลือกตั้งและรายงานผลการเลือกตั้งเรื่อยมา ทั้งการเลือกตั้งซ่อม เลือกตั้งผู้ว่าฯ และ สก.กทม.                 

นายฉัตรชัย ทุติยานนท์ UI designer ของ Opendream เล่าถึงฟีเจอร์ของ vote62 ในการเลือกตั้ง 66 ครั้งนี้ว่า แบ่งเป็นสองส่วนคือ ส่วนของการรายงานผลคะแนน ซึ่งประชาชนในแต่ละหน่วยเลือกตั้งสามารถส่งภาพกระดานคะแนนที่นับเสร็จแล้วมาที่  vote62.com เพื่อให้อาสาร่วมกรอกคะแนนจากภาพ เพื่อนำข้อมูลทั้งหมดนี้ไปใช้ในการรายงานผลแบบเรียลไทม์ และเป็นข้อมูลในการตรวจสอบการทำงานของ กกต. หากมีความผิดปกติเกิดขึ้นเปรียบเทียบกับผลการนับคะแนนของ กกต.  ส่วนที่สอง คือ แบบฟอร์มรายงานสถานการณ์ ซึ่งแบ่งออกเป็นสถานการณ์ในวันเลือกตั้งล่วงหน้า และวันเลือกตั้งหลังปิดหีบ ฟีเจอร์ส่วนนี้เกิดขึ้นมาเพื่อบันทึกข้อสังเกตที่น่าสนใจในวันเลือกตั้ง โดยมีตัวอย่างจากการเลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อปี 2562 ซึ่งเกิดปัญหา เช่น มีการแจกบัตรเลือกตั้งผิดเขต  หวังว่าเมื่อมีการเก็บข้อมูลและรายงานต่อสาธารณะ จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นได้ 

นายฉัตรชัยกล่าวว่า  ผู้ที่สนใจอยากร่วมเป็นอาสาสมัคร ไม่ว่าจะเป็นประชาชนที่มีสิทธิเลือกตั้งหรือยังไม่มีสิทธิเลือกตั้งก็สามารถเป็นอาสามัครในแคมเปญนี้ได้ สามารถติดตามความคืบหน้าได้ที่ vote62.com โซเชียลมีเดียในชื่อ vote62th ทุกช่องทาง หรือแอดไลน์ @ vote62 เพื่อรอรับข่าวสารและการประสานงานจากทีมงาน  

ด้านนายสันติชัย อาภรณ์ศรี บรรณาธิการบริหาร Rocket Media Lab เล่าว่า อีกหนึ่งข้อมูลที่น่าสนใจในการเลือกตั้งครั้งนี้ก็คือ ข้อมูลทางการเมือง โดย Rocket Media Lab ได้จัดทำฐานข้อมูลทางการเมืองของผู้สมัคร ส.ส. ในการเลือกตั้ง 2566 แบ่งกลุ่มผู้สมัคร ส.ส. ออกเป็น 3 กลุ่ม คือ 1. ผู้สมัครที่มาจากพรรคเดิม ทั้งอดีต ส.ส. และอดีตผู้สมัคร ส.ส. 2. ผู้สมัครที่มาจากการย้ายพรรค ทั้งอดีต ส.ส. และอดีตผู้สมัคร ส.ส. ซึ่งทั้งสองหมวดนี้จะสืบค้นลงไปจนถึงอย่างน้อยปี 2544 ซึ่งเป็นปีแรกที่ใช้รัฐธรรมนูญ 2540 ที่มีการแยก ส.ส. เป็น 2 ระบบ คือแบบบัญชีรายชื่อและแบบแบ่งเขต  

“และกลุ่มที่ 3 คือ ผู้สมัครหน้าใหม่ ที่ไม่เคยลงสมัคร ส.ส. มาก่อน โดยในกลุ่มนี้ เรามีข้อมูลประวัติและข้อมูลส่วนตัวของผู้สมัครหน้าใหม่ เพื่อชี้ให้เห็นว่า แม้จะเป็นผู้สมัคร ส.ส. หน้าใหม่ แต่มีประวัติทางการเมืองเป็นมาอย่างไร เช่น เป็นนักการเมืองท้องถิ่นหรือนักการเมืองระดับประเทศ เครือญาตินักการเมืองท้องถิ่นหรือนักการเมืองระดับประเทศ เป็นนักธุรกิจ หรือเคยทำงานการเมืองอื่นๆ มาก่อน โดยข้อมูลทั้งหมดนี้จะนำเสนอในรูปแบบแผนที่อินเตอร์แอคทีฟ สามารถเลือกดูข้อมูลผู้สมัคร ส.ส. แบบรายจังหวัดซึ่งจะปรากฏชื่อ เขต เบอร์ พร้อมข้อมูลทั้งหมดที่กล่าวไปแล้ว” 

นอกจากนี้ Rocket Media Lab ยังจะจัดทำบทวิเคราะห์ในประเด็นต่างๆ ประกอบฐานข้อมูลทางการเมืองของผู้สมัคร ส.ส. ในครั้งนี้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการแยกประเภทของผู้สมัคร ส.ส. แบบรายพรรค ว่าแต่ละพรรคมีผู้สมัคร ส.ส. มาจากไหน พรรคเดิม ย้ายพรรค หรือหน้าใหม่ เป็นสัดส่วนเท่าไหร่ และจะแยกให้เห็นข้อมูลที่ละเอียดลงไปอีกว่า ในส่วนของการย้ายพรรค ย้ายมาจากพรรคไหนบ้าง เป็นอดีต ส.ส. ย้ายพรรคจำนวนเท่าไร หรือเป็นอดีตผู้สมัคร ส.ส. ย้ายพรรคจำนวนเท่าไร  ในตอนนี้ Rocket Media Lab ได้เปิดรายชื่อผู้สมัคร ส.ส. อย่างไม่เป็นทางการ 1,000 คนแรกทั่วประเทศจากหลายพรรคการเมืองให้ได้ทดลองใช้กันดูแล้วทาง https://demothailand.rocketmedialab.co”  

นายสันติชัยระบุว่า “Rocket Media Lab หวังว่าฐานข้อมูลชุดนี้ ซึ่งจะช่วยทำให้เราได้เห็นภูมิทัศน์ทางการเมืองของผู้สมัคร ส.ส. ทั้งประเทศ จะเป็นประโยชน์ในการขับเคลื่อนแคมเปญการเลือกตั้งครั้งนี้ และเป็นประโยชน์ต่อสื่อมวลชนในการรายงานข่าวและต่อประชาชนในแต่ละพื้นที่ในการตัดสินใจเลือก ส.ส. ในเขตของตนเอง” สันติชัย กล่าว

เลือกตั้งเป็นสิทธิและหน้าที่ของพลเมือง เราต่างก็ต้องลุกใช้สิทธิ์ และมีหน้าที่ที่จะต้องเฝ้าระวังให้มันโปร่งใส ซึ่งนี่คือก้าวแรกของการจัดตั้งรัฐบาลใหม่

………………………………………………………
คอลัมน์ : ที่เห็นและเป็นอยู่
โดย “บุหงาตันหยง”