ก่อนเกมเจอกับแมนฯ ซิตี ผมเชื่อว่าแฟนบอลอาร์เซนอลส่วนใหญ่น่าจะทำใจไว้แล้วประมาณนึงว่าคงไม่ได้คะแนนกลับบ้าน
คือรู้น่ะแหล่ะว่าสู้ไม่ได้ แต่ไม่คิดว่าจะทุเรศทุรังได้ขนาดนี้

ที่จริง มิเกล อาร์เตตา พยายามวางหมากมาแบบรัดกุม ด้วยการจัดแนวรับลงพร้อมกัน 5 คน เซดริก ซัวเรส, คัลลัม แชมเบอร์ส, ร็อบ โฮลดิง. เซอัด โคลาซินัช, คีแรน เทียร์นีย์

แต่ตรงกลางมี กรานิต ชากา เป็นมิดฟิลด์ตัวรับคนเดียว อยู่หลัง มาร์ติน โอเดการ์ด, เอมิล สมิธ-โรว์ ขณะที่ บูกาโย ซากา เหมือนเป็นกองหน้าต่ำอยู่หลัง ปิแอร์ เอเมริค โอบาเมยอง

ผมว่าอาร์เซนอลออกสตาร์ตได้ดี พยายามดักการเซ็ตบอลจากแนวรับคู่แข่ง ถือมาแบบรู้ตัวดี แต่สิ่งที่อาร์เตตาอาจไม่รู้คือ กองหลังที่พวกเขามีมันยุ่ยยิ่งกว่ากระดาษทิชชู่เปียกน้ำ และพลาดเข้าไปอีกที่ใส่มิดฟิลด์ตัวรับมาแค่คนเดียว

พอดูดีได้อยู่ไม่ถึง 7 นาที จากนั้นก็เหมือนนัดที่ผ่านๆ มา แมนฯ ซิตี ขึ้นนำเร็ว 2-0 ภายใน 12 นาที แบบที่ สตีฟ แม็คมานามาน ที่ทำหน้าที่วิเคราะห์เกมบอกว่า “แมนฯ ซิตี ได้ประตูง่ายแบบไม่ต้องพยายามเลย”

กองหลังพลาดง่ายๆ แถมตอกย้ำความรันทดเข้าไปอีกเมื่อชากาโดนใบแดงไล่ออกจากสนามในนาที 35 หลังจากนั้นแม้แต่เด็กประถมก็ยังเดาได้ว่าใครจะชนะ

ผู้เล่นเกมรับชุดนี้มันแย่จริงๆ แย่จนไม่รู้จะหาคำไหนมาบรรยาย เซดริกพลาด, โฮลดิ้งพลาด, แชมเบอร์สพลาด หรือพูดให้ถูกก็พลาดมันทุกคนนั่นแหละ

จะใช้คำว่ากระจอกคงไม่มากเกินไป

พลาดมากสุดก็อาร์เตตาเพราะจัดทีมแบบไหนถึงแพ้ 3 นัดรวดชนิดยิงไม่ได้สักประตู

ไม่ทันจบครึ่งแรกแฟนอาร์เซนอลเดินออกจากสนามกันแล้ว

ตอนโดนยิง 4-0 แฟนอาร์เซนอลก็ฉลองกันเหมือนทีมตัวเองยิงประตูได้ เรียกว่าดีใจประชดกันนั่นเอง

ไม่น่ามีแง่บวกอะไรทั้งนั้นสำหรับอาร์เซนอลในเกมนี้

ถ้าจะมีสักข้อคือแพ้ก็ดี แล้วแพ้ไปรัวๆ สัก 10 นัดรวดเลยก็ได้

…จะได้รีบไล่ผู้จัดการทีมคนนี้ออกไปเสียที.