สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงคาบูล ประเทศอัฟกานิสถาน เมื่อวันที่ 28 ส.ค.ศูนย์บัญชาการภูมิภาคกลางของสหรัฐ ( เซนต์คอม ) ออกแถลงการณ์เรื่องการส่งอากาศยานไร้คนขับแบบติดอาวุธ โจมตี "เป้าหมายที่เป็นบุคคล" และมีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มไอเอส-โคราซาน อยู่ในจังหวัดนันกาฮาร์ ทางตะวันออกของอัฟกานิสถาน เบื้องต้นยังไม่มีการยืนยันว่า เป้าหมายคนดังกล่าวเป็นใคร แต่รายงานของเซนต์คอมทิ้งท้ายว่า ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเชื่อมั่นปฏิบัติการครั้งนี้ "ประสบความสำเร็จ" และไม่ส่งผลกระทบต่อพลเรือนในพื้นที่
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของกองทัพสหรัฐเกิดขึ้นเพียง 48 ชั่วโมง หลังมือระเบิดฆ่าตัวตายของกลุ่มไอเอส-โคราซาน จุดชนวนบริเวณประตูทางเข้าด้านหนึ่ง ของท่าอากาศยานนานาชาติฮามิด คาร์ไซ ในกรุงคาบูล สังหารประชาชนมากกว่า 170 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 200 คน นอกจากนั้น ยังมีทหารอเมริกันเสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้อีกอย่างน้อย 13 นาย ซึ่งนับเป็นการสูญเสียกำลังพลของสหรัฐในอัฟกานิสถานเป็นจำนวนมากที่สุดในคราวเดียว นับตั้งแต่เกิดเหตุเฮลิคอปเตอร์ทหารถูกยิงตก เมื่อปี 2554 คร่าชีวิตทหารอเมริกัน 30 นาย
ด้าน พล.ต.วิลเลียม เทย์เลอร์ รองผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการส่วนภูมิภาคของคณะเสนาธิการทหารร่วมสหรัฐ กล่าวว่า ผลการตรวจสอบด้านข่าวกรองอย่างละเอียดอีกครั้ง ยืนยันว่า เหตุการณ์ระเบิดโจมตีสนามบินคาบูล เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว และมีคนร้ายเพียงคนเดียว แก้ไขข้อมูลที่รายงานหลายกระแสระบุว่า มีการระเบิดที่โรงแรมบารอนซึ่งอยู่ใกล้กันด้วย ส่วนความคืบหน้าเกี่ยวกับการอพยพชาวอเมริกันออกจากอัฟกานิสถานนั้น พล.ต.เทย์เลอร์เปิดเผยว่า นับตั้งแต่วันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา มีการอพยพพลเมืองสหรัฐมากกว่า 5,000 คน.

เครดิตภาพ : AP