จัดเป็นอีกหนึ่งหนุ่มหล่อมากความสามารถของวงการบันเทิงสำหรับ กอล์ฟ พิชญะ ที่ล่าสุดได้มาพูดคุยในรายการ Club Friday Show พร้อมเปิดเรื่องราวในชีวิตพร้อมและเผยความรักแบบทุกซอกทุกมุมในใจ รวมถึงเรื่องกำแพงแต่งงาน กอล์ฟ ถึงขนาดเอ่ยปากกับแฟนสาวห้ามพูดถึงเรื่องนี้ด้วย

กอล์ฟ เผยว่า “ผมกับแอนนี่เจอกันจากการที่เพื่อนแนะนำให้แล้วก็ไปเจอกันที่เทศกาลดนตรีครับ เหมือนตอนนั้นก็ไม่ได้มีใครด้วยครับ ไปเทศกาลดนตรีกับเพื่อน ๆ ก็เลยชวนเขามา แต่ไม่ได้บอกว่าไม่ได้คิดว่าจะแบบจีบหรืออะไร แบบว่าเป็นเพื่อนมาแฮงก์เอาต์ แต่พอเขามาแล้วแบบไม่เหมือนในรูปเลยคือดีกว่าในรูปครับ เขาน่ารักกว่าในรูป เพราะเหมือนว่ารูปที่เขาลงเป็นโพสต์ ๆ ใช่ไหม แต่ตัวจริงเขาจะเป็นแบบน่ารัก สดใส ยิ้มแย้ม เฮฮา สายฝอ 1 ผ่านแล้วสายฝอ ก็นั่งคุยกันแล้วก็กินข้าว เหมือนคุยกันเรื่องอนิเมะ แล้วเขาก็ดูอนิเมะด้วย ก็ผ่านอีก 1 เป็นสายเกมอนิเมะ ดูการ์ตูนญี่ปุ่น เพราะเวลาคนที่คุยกันเรื่องอนิเมะ หลังจากนั้นก็คุยเรื่องอื่นนู่นนี่ เราก็เลยรู้สึกว่าคุยกันถูกคอ ถามว่าขี้หึงเหมือนเดิมไหม ไม่ครับ วันนี้คือแทบไม่โทรฯ เลย หนึ่งวันก็คือแบบส่งหากินข้าวหรือยัง ฝันดีนะ ไม่ได้หึงไม่ได้หวง ให้รู้ว่าเป็นห่วงทานอะไรหรือยัง แต่ผมกับเขาต่างกันเห็นได้ชัดเลยคือ อายุห่างกัน 10 ปี ซึ่ง 10 ปีนี้มีปัญหาไหม มันอาจจะมีบ้างแต่ว่าก็ต้องปรับเข้าหากันครับ อย่างเช่นแบบสมมุติว่าประสบการณ์ของคนอายุ 23 ปี กับ 35 มันอาจจะต่างกันเนอะ เรื่องของการทำงาน เมื่อแอนนี่ตอนนี้เขาก็เริ่มเป็นดีเจ บางทีก็ถ่าย YouTube กับกอล์ฟด้วย เหมือนเราต้องสอนเขา บางทีเขาชอบบ่นว่าเธอเหมือนพ่อของฉันเลย อย่าเข้าโหมดคุณพ่อของเธอนะ ความที่เราให้ประสบการณ์เขาก็จะกลายเป็นโหมดคุณพ่อไปแล้ว ตอนหลัง ๆ เราก็มาปรับแบบว่าโอเค แล้วทำอย่างไรให้ความเป็นแฟนมันยังคงอยู่ เราอาจจะต้องประนีประนอมให้การพูดคุยเป็นแบบให้มันไม่จริงจังเกินไป”

“เรามีทะเลาะกันบ้างในช่วงการทำงานกอล์ฟ เป็นคนที่แบบเหมือน กอล์ฟ โตมากับการทำงาน เรื่องการทำงานของ กอล์ฟ จะเป๊ะมากคือกอล์ฟคิดอะไรได้ก็ทำเลย บางทีแบบอาจจะรู้สึกว่าตัว กอล์ฟ เร็วเกินไป สำหรับที่จะให้คนอื่น เหมือนเข้าที่ยังเด็กอยู่แล้วไล่ตามให้ทันเรา มันก็จะมีวันที่เราต้องกลับมาคิดกับตัวเองว่า อย่าลืมนะคนที่เราคบอยู่ยังเด็กอยู่ อย่าใช่มาตราฐานเขาไปให้เขาเร็วเท่าเรา เพราะเขาก็ต้องมีเวลาที่เติบโตของเขา ส่วนมากการทะเลาะจะเป็นเรื่องของการทำงานมากกว่า แต่หลัง ๆ ก็ปรับจูนเข้าหากันให้มันดีขึ้น กอล์ฟ ก็พูดแล้วก็ประนีประนอมให้มันซอฟต์ลง ให้มีความเป็นแฟน ให้มีความเป็นแฟนหนุ่มน้อยลง เรื่องความโรแมนติก แต่ก่อนมันอาจจะใช้โควตามาเยอะไปแล้วครับ แต่มันก็ไม่ได้ถึงกับหมดนะครับ แต่ว่ามันอาจจะช่วงวัยรุ่นครับ ความรักก็จะคลั่งรัก จริงจัง คนนี้เขาต้องแบบ ผมจะแต่งงานอะไรแบบนี้ แต่พอมาถึง ณ วันนี้ รู้สึกว่าเราไม่ได้หวือหวาเหมือนเมื่อก่อน เรามองเป็นเรื่องของอะไรที่เราให้แล้วมันดีกับเขา ในเชิงเป็นประโยชน์ต่อตัวเขา เราก็เลยอาจจะลืมเรื่องของความโรแมนติก เพราะว่าอายุที่แตกต่างกัน กอล์ฟ เป็นคนที่เทศกาล เน้นเทศกาล แต่ว่า แอนนี่ เป็นเหมือนประมาณว่า ทำไมแบบวันธรรมดาก็ให้ดอกมาก็ได้นะ ดอกหนึ่งเขาก็ชื่นใจแล้ว ตรงนั้นเราไม่มีเลยจนกระทั่งเขาบอกเรา ซึ่งกอล์ฟรู้สึกว่าดีนะสิ่งตรงนี้ที่เขาบอกเราเพราะว่า บางครั้งถ้าเขา เก็บไว้ตลอด ๆ แล้วมันมาระเบิดอีกทีก็จะไม่โอเค แต่ตรงนี้เขาดีที่เขาบอกเรา เพราะทุกครั้งเวลาที่เราไปซูเปอร์มาร์เกตแล้วเราเดินเจอดอกไม้ก็ซื้อซักหนึ่งดอกกลับไปให้เขา แล้วพอเราเห็นหน้าเขาที่เขาได้รับแล้วเขาตกใจ ก็เป็นความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่แบบซื้อดอกไม้ให้สักดอกสองดอกให้เขา อันนี้เป็นเรื่องที่ปรับเข้าหากันไป”

กอล์ฟ เผยว่า “เรื่องกำแพงแต่งงาน ก็คือเราก็บอกเขาว่า ณ ตอนนี้กอล์ฟไม่คิดเรื่องแต่งงานนะ บอกเขาตรง ๆ เลย เราก็ได้บอกเขาตรง ๆ เลยตั้งแต่ปีแรกที่คบกันเลยครับ ตอนนี้ยังไม่แต่งครับ บอกให้แอนนี่โตขึ้นอีกหน่อยนะตอนนี้ กอล์ฟมองทีละก้าวแล้วค่อย ๆ ไป แต่ว่าเราแค่มีจุดมั่งหมาย คือการ สร้างบ้านสำหรับอนาคต ข้างหน้าปากซอยก็จะมีโรงเรียน ซึ่งก็มองเผื่ออนาคตไว้ แต่ว่าการที่ย้ายจากคอนโดฯ เป็นบ้านเลย ไหน ๆ ลงทุนไปแล้ว คงไม่ได้เปลี่ยนกันบ่อย ๆ เพราะฉะนั้นก็เลยอยากให้มันอยู่ในระยะยาวและระยะยาวก็คงต้องครอบคลุมถึงในอนาคตถ้าจะมีลูก แต่ก็คิดว่าแค่ทำวันนี้ให้มันดีถ้ามันดีแล้วไปให้สุดก็โอเค แต่ถ้ามันไม่โอเคก็เข้าถือว่าเราทำดีที่สุดแล้วแต่ถ้าแต่ก่อนจะคิดอีกแบบ มันต้องได้สิ มันต้องไปให้สุดให้ได้ แอนนี่เขาจะเป็นคนที่แตกต่างจากคนรัสเซียที่นู่นครับ แต่ก่อนนะครับ แต่ก่อนเขาจะแบบว่าเหมือนเป็นเด็กที่โตมากับดู Sailor Moon ดูอนิเมะ แล้วซึมซับวัฒนธรรมเอเชีย ญี่ปุ่น อะไรอย่างนี้ นั่นคือเหตุผลที่ทำไมเขาชอบประเทศเอเชีย แล้วพออยู่ที่โน่นการดูอะไรแบบนี้ในยุคนั้น มันค่อนข้างแปลกแยก เธอเป็นเด็กอะไรดูอะไรงี่เง่า ก็เลยโดนแบบแกล้งโดนเพื่อนบูลลี่ที่โรงเรียน ขังล็อกไว้ในห้องบ้างไม่ให้ออกมา จริง ๆ กอล์ฟก็มีอะไรคล้าย ๆ กันในสมัยเด็ก ๆ แต่ก่อนเราเป็นเด็กที่กอล์ฟบอกว่าเนิร์ดอ่ะครับ กอล์ฟก็จะชอบแบบ Pokémon เสร็จแล้วพอไปอยู่กับเพื่อน ๆ ไปบ้านเพื่อน เพื่อนก็ลงไปบ้านเพื่อนมีโบว์ลิ่งใต้ดิน เขาก็ลงไป ส่วน กอล์ฟ เล่นกันก็เล่นเกมเล่นจับ Pokémon อ่ะครับ แล้วเพื่อนก็แบบว่าวันหลังไม่ต้องเอากอล์ฟมาเลยนะ มาแล้วนั่งเล่นแต่เกม ก็จะมีความแบบว่าเรื่องราวที่คล้าย ๆ กันอยู่”