ในยุคก่อนเกิดความวุ่นวายระหว่างประเทศเพราะ ‘บอลลูนตรวจสภาพอากาศ’ นั้น วัตถุลึกลับที่บินอยู่เหนือท้องฟ้าหรือที่เรียกกันสั้น ๆ ว่า ‘ยูเอฟโอ’ (UFO : Unidentified flying object) เป็นหัวข้อที่อยู่ในความสนใจของชาวอเมริกันอย่างมาก ในยุคทศวรรษ 1940 ซึ่งมาพร้อมกับการก่อกำเนิดของเครื่องบินเจ็ต 

ผลผลิตจาก “วัฒนธรรมป๊อป” ในยุคนั้น ไม่ว่าจะเป็น หนังสือภาพยนตร์หรือสื่อบันเทิงอื่น ๆ จำนวนมาก จึงมีหัวข้อเกี่ยวข้องกับยูเอฟโอและเอเลี่ยน หรือมนุษย์ต่างดาวจากนอกโลก รวมไปถึงการก่อกำเนิดลัทธิย่อย กลุ่มผู้สนใจการมีอยู่ของยูเอฟโอ และทำให้พื้นที่เวิ้งว้าง เต็มไปด้วยทะเลทรายอย่าง รอสเวลล์ในรัฐเม็กซิโก กลายเป็นจุดหมายปลายทางของกลุ่มผู้สนใจในสิ่งมีชีวิตจากนอกโลกและปรากฏการณ์สิ่งบินลึกลับที่หาคำอธิบายไม่ได้บนท้องฟ้า 

ที่จริงแล้ว สิ่งบินลึกลับเหล่านี้อยู่ในความสนใจของคนอเมริกันมานานกว่านั้น และผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นคนบันทึกการพบเห็นยูเอฟโออย่างเป็นลายลักษณ์อักษรคนแรกก็คือ จอห์น วินโทรป ผู้นำกลุ่มพิวริตัน นักกฎหมายและนักบันทึกเหตุการณ์ เขาเคยเขียนถึงการพบเห็นแสงประหลาดและสิ่งลึกลับที่ไร้คำอธิบายเป็นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1639 

ตามบันทึกของ วินโทรป เขาบรรยายว่ามีกลุ่มคนที่ “เชื่อถือได้” มองเห็น “แสงสว่างจ้ายามราตรี” อยู่เหนือแม่น้ำมัดดีในเมืองบอสตัน ในวันที่ 1 มีนาคม ค.ศ. 1693 โดยบรรยายว่า แสงสว่างที่คนเหล่านี้เห็นมีขนาดราว 3 ตารางฟุต เวลาที่อยู่นิ่ง ๆ จะดูเหมือนเปลวไฟลุกโชน แต่เมื่อมันเคลื่อนไหวจะเปลี่ยนรูปร่าง

ลูกไฟดังกล่าวเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว โดยบินไปทางเมืองชาร์ลสตันในลักษณะขึ้น ๆ ลง ๆ ซึ่งกินเวลาราว 2-3 ชั่วโมง กลุ่มคนในบันทึกได้ลงเรือเล็กไล่ตามไปได้ประมาณกิโลเมตรเศษ แสงไฟก็หายไป นอกจากนี้ยังมีคนอื่น ๆ อีกหลายคนที่มองเห็นลูกไฟดังกล่าวในบริเวณใกล้เคียงกัน

ต่อมาได้มีคนในยุคหลังพยายามอธิบายว่า ลูกไฟนั้นเกิดจากก๊าซบางอย่างในแหล่งน้ำที่เกิดติดไฟขึ้น กระนั้น ก็ไม่สามารถอธิบายได้ว่า ลูกไฟของวินโทรป บินไปตามแม่น้ำได้อย่างไร 

ภาพวาดจอห์น วินโทรป ผู้จดบันทึกเหตุการณ์พบเห็นยูเอฟโอเป็นคนแรกในหน้าประวัติศาสตร์อเมริกัน

ตามประวัติของวินโทรป ตัวเขาเองนับว่าเป็นผู้ที่ประชาชนให้ความเชื่อถือ เพราะความรู้ในหลายด้านซึ่งรวมถึงความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และการศึกษา เขายังเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มอาณานิคมอ่าวแมสซาชูเซตส์ ซึ่งเป็นหนึ่งในกระบวนการที่มีส่วนทำให้สหรัฐอเมริกาเป็นรูปเป็นร่างอย่างในปัจจุบัน

วินโทรป มีนิสัยชอบจดบันทึก และบันทึกของเขาก็กลายเป็นเอกสารทางประวัติศาสตร์ เพราะเขาจดเหตุการณ์สำคัญ ๆ ทั้งส่วนตัวและส่วนรวม ซึ่งต่อมากลายเป็นข้อมูลสำคัญของประวัติศาสตร์อเมริกัน

วินโทรป ยังบันทึกการพบเห็นยูเอฟโอไว้อีก 2 ครั้ง ที่เหนือท้องฟ้าอ่าวแมสซาชูเซตส์ในปี ค.ศ. 1644 โดยครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 ม.ค. เขาเขียนถึงชาย 3 คน ที่ลงเรือมาในช่วงเที่ยงคืนเพื่อเดินทางไปยังบอสตัน มองเห็นลูกไฟ 2 ดวงพุ่งขึ้นมาจากน้ำ และมีรูปร่างที่ดูคล้ายคนทางด้านเหนือของคุ้งน้ำ จากนั้นก็เคลื่อนไหวไปในทิศทางที่มุ่งหน้าสู่ตัวเมือง ซึ่งเป็นทิศใต้ของคุ้งน้ำ แล้วก็หายไป

อีก 1 สัปดาห์หลังจากนั้น วินโทรป ก็บันทึกถึงเหตุการณ์เหนือธรรมชาติที่มี “หลายคนพบเห็น” โดยเล่าถึงลูกไฟที่ดูคล้ายดวงจันทร์โผล่ขึ้นมาในท้องฟ้าทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองบอสตัน บินไปหาลูกไฟอีกลูกหนึ่งที่อยู่เหนือเกาะนอทเทิลส์ แล้วรวมตัวกัน จากนั้นก็แยกตัวออก และรวมตัวกันอีกครั้ง ทำซ้ำ เช่นนี้หลายครั้ง หลังจากนั้นลูกไฟก็บินไปเหนือเนินเขาของเกาะและหายไป โดยมีการเปล่งประกายไฟและประกายแสงระยิบระยับเป็นครั้งคราว

เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเหตุการณ์ครั้งสุดท้ายที่ วินโทรป เขียนถึงลูกไฟประหลาดในบันทึกของเขา

วินโทรป เสียชีวิตในปี ค.ศ. 1649 บันทึกของเขาได้รับการรวบรวมและตีพิมพ์ในปี ค.ศ. 1825 บันทึกเหตุการณ์ประหลาด 2-3 ครั้งนี้ มักจะโดนมองข้ามไป โดยคนอ่านส่วนใหญ่ให้ความสนใจเรื่องข้อมูลของยุคสมัยการก่อตั้งประเทศสหรัฐอเมริกามากกว่า 

ปริศนาการปรากฏของลูกไฟในบันทึกของ วินโทรป ไม่เคยได้รับการอธิบายหรือชี้ชัดลงไปอย่างเป็นทางการว่าคืออะไร แต่กลุ่มนักนิยมเรื่องลึกลับจากต่างดาวเชื่อมั่นว่า “ไม่มีไฟ ย่อมไม่มีควัน” บันทึกการเห็นยูเอฟโอของ วินโทรป ก็อาจเป็นเหมือนบันทึกเหตุการณ์ประหลาดจากยุคกลาง ในคัมภีร์ไบเบิลฉบับพันธสัญญาเก่า หรือแม้กระทั่งภาพวาดโบราณ นั่นคือหลักฐานแห่งการมีอยู่ของสิ่งมีชีวิตจากนอกโลก เพียงแต่คนในยุคนั้น อาจคิดไม่ถึงหรือหาคำอธิบายไม่ได้เท่านั้น.

แหล่งข้อมูล : foxnews.com

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES, Pixabay / Thomas Budach