การใช้ฮอร์โมนเพศชายโดยตรงช่วยให้ความต้องการทางเพศได้ดีขึ้น มีการศึกษาใช้ยาตัวใหม่ที่ช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมนชายได้เร็วขึ้น โดยพบว่าในชายสูงอายุจะได้ผลน้อยกว่าคนหนุ่มที่มีฮอร์โมนชายต่ำ ซึ่งการตอบสนองของฮอร์โมนชายเพิ่มขึ้น 16 หน่วย ในชายอายุ 40 ปี แต่จะเพิ่มแค่ 9 หน่วย ในชายอายุ 70 ปี ยิ่งอายุมากจะมีค่าเพิ่มน้อยกว่าคนอายุน้อย ผลการกระตุ้นของฮอร์โมนผ่านทางสมอง จะเพิ่มการผลิตฮอร์โมนจากลูกอัณฑะ การรักษาให้รับยา 3 ครั้งต่อสัปดาห์ จะเพิ่มได้ 75-100%
สำหรับชายอายุมากกว่า 55 ปี หรือมีโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ จะเพิ่มการตอบสนองได้แค่ 39% แต่ในชายที่อายุน้อยกว่านี้และไม่มีโรคเรื้อรัง จะได้ผลถึง 75% ซึ่งฮอร์โมนชายที่เพิ่มจะช่วยให้การแข็งตัวช่วงกลางคืนดีขึ้น แต่ไม่ช่วยการแข็งตัวขณะมีเพศสัมพันธ์ การใช้ยาฉีดหรือยากินให้แข็งตัวจะได้ผลดีขึ้นอีก ถ้าฮอร์โมนชายมีระดับที่สูง ผู้ป่วยเรื้อรังจะทำให้ฮอร์โมนชายลดลง เป็นยาที่ควรใช้ 3 ครั้งต่ออาทิตย์ เป็นเวลา 4 เดือน ควรจะได้มีการเพิ่มค่าของฮอร์โมนได้ดีที่สุด ถ้าไม่ดีก็สมควรใช้ฮอร์โมนชายแบบฉีดหรือแปะ ชนิดฝังใต้ผิวหนังหรือชนิดเจลตามมาได้
ขณะที่ให้การรักษาเพิ่มฮอร์โมนชาย ควรตรวจเลือดหาค่าของพีเอสเอ ไปพร้อมกัน ถ้าค่าพีเอสเอเพิ่มค่าเกิน 4 ก่อนหรือหลังการใช้ฮอร์โมนเสริม ก็ควรปรึกษาแพทย์หาสาเหตุ การใช้ฮอร์โมนชายจึงมีปัญหาและความละเอียดอ่อน ต้องอาศัยค่าผลเลือดพีเอสเอ ติดตามอย่างใกล้ชิด ผู้ที่ใช้ฮอร์โมนชายโดยไม่ได้ปรึกษาแพทย์และไม่ค่อยตรวจเลือดอยู่บ่อย ๆ จะเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก ชายที่ฉลาดจะให้แพทย์พิจารณาเลือกวิธีเพิ่มฮอร์โมนให้ ซึ่งผลที่ได้ตามมาอาการอีดีฟื้นตัวดีขึ้นและยังปลอดภัยอย่างไร้กังวล สาเหตุของค่า PSA สูงมาก มักเกิดจากการมีต่อมลูกหมากโต ต่อมลูกหมากอักเสบ ทำให้การมีเพศสัมพันธ์ลดลง มีผลเสียเกิดเรื่องทางเดินปัสสาวะผิดปกติ ต้องระวังให้แพทย์พิจารณารักษาค่า PSA ถ้าสูงมากเกิน 4.
—————–
ดร. อุ๋มอิ๋ม
