สำนักข่าวเอพีได้นำเสนอข้อแนะนำ ในการวางแผนสำคัญสำหรับการเดินทาง และการจัดเตรียมสัมภาระด้วยเช่นกัน เพื่อชีวิตวิถีใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้น ก่อนการเดินทางที่อาจจะเป็นครั้งต่อไปห รือครั้งหน้าของคุณในยุคหลังโควิด-19 ( หากคลายล็อก เปิดพรมแดน เดินทางข้ามประเทศกันได้อีกครั้ง )

อันดับแรก คือต้องแสดงสถานะการฉีดวัคซีน เพราะผู้ที่จะเดินทางระหว่างประเทศจำต้องการการพิสูจน์ และเชื่อมั่นได้ว่าฉีดวัคซีนแล้ว นอกจากนั้นแล้ว ยังมีอีกหลายประเทศยังต้องการผลการตรวจหาเชื้อเป็นลบ ก่อนที่จะเข้าประเทศ หรือเลี่ยงไม่ต้องถูกกักตัวตามมาตรการควบคุมโรค

แต่ถ้าเดินทางในประเทศของสหรัฐอเมริกา ต้องการหลักฐานการฉีดวัคซีน หรือผลตรวจเป็นลบหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับจุดหมายปลาย ทั้งนี้ รัฐแคลิฟอร์เนียกำหนดให้ผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมในอาคาร ซึ่งมีคนมากกว่า 5,000 คนขึ้นไป ต้องแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีน หรือมีผลตรวจเป็นลบ นครนิวยอร์กต้องแสดงหลักฐานฉีดวัคซีนแล้ว ถ้าเข้าร้านอาหารในร่มหรือในอาคาร ไปดูคอนเสิร์ตหรือการแสดงต่าง ๆ เริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 13 ก.ย. นี้

ร้านอาหาร บาร์และสถานที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ ก็ต้องแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีน ก่อนเข้าใช้บริการ และเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาติดขัดก็ควรที่จะพกบัตรแสดงการฉีดวัคซีนไปด้วย แต่ถ้ากลัวว่าจะทำหายเพราะเป็นเอกสารกระดาษ ก็มีข้อเสนอให้ใช้แอปพลิเคชัน Clear’s Health Pass เข้าระบบดิจิทัลไปเลย อาจใช้ได้ในบางสถานที่ หรือไม่ก็ถ่ายรูปบัตรแสดงการฉีดวัคซีน เซฟเก็บไว้ในโทรศัพท์

ต่อมา คือพิจารณาซื้อประกันการเดินทาง แม้จะไม่เคยซื้อประกันการเดินทางมาก่อน แต่ปี 2021 อาจจะต้องซื้อ บัตรเครดิตบางยี่ห้อได้รวมประกันการเดินทางเข้าไว้ให้แล้ว เพื่อประโยชน์ของผู้ถือบัตร ซึ่งนี่แหละที่จะมาช่วยเอาไว้ได้ ในกรณีเกิดอาการป่วยอย่างไม่คาดคิด เที่ยวบินล่าช้าหรือยกเลิก อันเนื่องจากสภาพอากาศหรือสาเหตุใด ๆ ก็ตาม ตรงนี้แหละที่จะเป็นประโยชน์ หากผลตรวจออกมาเป็นบวก และไม่สามารถเดินทางได้อีก แต่ก็ต้องดูด้วยอีกว่า ผลประโยชน์นั้นครอบคลุมถึงกรณีโควิด-19 หรือไม่

อันดับที่สาม ตรวจสอบซ้ำเรื่องวันหมดอายุของหนังสือเดินทาง เพราะบางประเทศกำหนดว่า หนังสือเดินทางจะต้องมีอายุอย่างน้อย 6 เดือนก่อนวันหมดอายุ ถึงจะใช้เดินทางได้ และกระบวนการตรวจสอบหนังสือเดินทางตอนนี้ ต้องบอกว่าอาจใช้เวลามากกว่าปกติ เพราะฉะนั้นไปต่ออายุหนังสือเดินทางเอาไว้เป็นดีที่สุด

ตัวอย่างเช่น เมื่อเดือนส.ค.2021 กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐระบุว่าจะได้รับหนังสือเดินทางเล่มใหม่ ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 18 สัปดาห์หลังรับคำร้อง(เดิมที 6 สัปดาห์ก่อนการแพร่ระบาดใหญ่) แต่ถ้ายอมจ่ายค่าบริการเพิ่มขึ้น 60 ดอลลาร์สหรัฐ ก็ต้องใช้เวลา 12 สัปดาห์

อันดับที่สี่ คือการตรวจรักษาความปลอดภัยที่สนามบินนั้นถ้าเป็นช่วงฤดูร้อน คนจะแน่นมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ของสำนักงานความปลอดภัยการขนส่งของสหรัฐอเมริกาแนะนำว่า สำหรับผู้โดยสารที่จะเดินทางครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2019 เป็นต้นมา ขอให้ทราบไว้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงบางกระบวนการที่จุดตรวจความปลอดภัย เช่น ถอดรองเท้าและยืนอยู่กับที่เพื่อตรวจสแกน จึงขอให้มาถึงสนามบินแต่เนิ่น เพื่อให้การตรวจเสร็จสิ้นเรียบร้อย

อันดับที่ห้าคือ นำหน้ากากอนามัยไปด้วยหลายชิ้น เริ่มตั้งแต่ขึ้นเครื่องบินแล้วก็ต้องสวมแน่นอน แต่ตลอดการเดินทางอาจจะต้องใช้อีก เพราะบางพื้นที่บางเขตยังบังคับให้สวมหน้ากาก จึงอยากแนะนำให้พกไปเยอะ ๆ อย่างบนเครื่องบินก็แนะนำให้ใช้ หน้ากาก N95 แต่ถ้ามีแผนที่ต้องทำงาน หรือไม่ก็เข้าไปในบางพื้นที่ซึ่งอากาศชื้น สวมหน้ากากอนามัยแบบใช้แล้วทิ้งจะดีกว่า เพราะหน้ากากอาจเปียกเหงื่อได้

ส่วนสุดท้าย คือการจัดสัมภาระ ขอให้เตรียมสิ่งของจำเป็นไว้ในกระเป๋าถือ หรือกระเป๋าเป้สะพายหลังอะไรแบบนั้นเอาไว้ด้วย เช่น หน้ากากอนามัย เจลล้างมือและน้ำดื่ม และสิ่งของอื่น ๆ ที่ไม่ควรหาซื้อเอาตามร้านสะดวกซื้อก่อนวันเดินทาง แนะนำขอให้เตรียมไว้ก่อน สำคัญคือ หนังสือเดินทางสำหรับการเดินทางระหว่างประเทศ การตรวจรักษาความปลอดภัยของในประเทศ และระหว่างประเทศนั้นต่างกัน อย่าลืมซื้อประกันการเดินทาง และหลักฐานการฉีควัคซีน เพื่อให้เดินทางรอดปลอดภัย.

เลนซ์ซูม

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES