สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองไมอามี รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 3 ก.ค. เกี่ยวกับความคืบหน้าหลังพื้นที่ส่วนหนึ่งในฝั่งใต้ ของอพาร์ตเมนต์แชมเพลน ซึ่งเป็นอาคารคู่ความสูง 12 ชั้น ตั้งอยู่ที่เมืองเซิร์ฟไซด์ ในเมืองไมอามี พังถล่มลงมา เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 24 ราย และยังสูญหายอีก 121 คนนั้น

สำนักงานดับเพลิงเขตไมอามี-เดด ประกาศระงับภารกิจค้นหาเป็นการชั่วคราว ตั้งแต่เมื่อวันเสาร์ ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย เพราะการขุดเจาะซึ่งเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา อาจส่งผลให้โครงสร้างอาคารที่ทรุดตัวอยู่แล้ว พังถล่มลงมาได้ และหากเกิดขึ้นจริง “นั่นคือความสูญเสียครั้งใหญ่หลวง”

ขณะที่ครอบครัวของผู้สูญหาย ยังคงเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการต่อ “ภายในขอบเขตที่จะเป็นไปได้” อย่างไรก็ตาม นายรอน เดอซานทิส ผู้ว่าการรัฐฟลอริดา ประกาศในเวลาต่อมา เป็นแผนการที่ยิ่งเพิ่มความผิดหวังให้กับครอบครัวของผู้สูญหาย นั่นคือการเตรียมระเบิดทำลายอาคารแห่งนี้ เนื่องจากอาคารมีแนวโน้มพังถล่มลงมา ภายในระยะเวลาที่ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้

นอกจากนี้ เมืองไมอามีมีแนวโน้มเป็นเส้นทางผ่านของเฮอริเคน “เอลซา” ที่กำลังก่อตัวอยู่ในทะเลแคริบเบียน และมีทิศทางพาดผ่านรัฐฟลอริดาช่วงต้นสัปดาห์นี้ ซึ่งปัจจัยเสี่ยงที่ควบคุมไม่ได้เหล่านั้น มีผลต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ ด้าน นางดาเนียลลา คาวา เลอวีน นายกเทศมนตรีเขตไมอามี-เดด ลงนามในคำสั่งเตรียมทำลายอาคารหลังนี้แล้ว


อนึ่ง จนถึงปัจจุบันยังไม่มีการระบุสาเหตุที่ชัดเจนได้ ว่าเพราะเหตุใดอาคารแชมเพลน ซึ่งก่อสร้างเมื่อปี 2524 พังถล่มลงมา แต่รายงานการจรวจสอบสภาพอาคาร เมื่อปี 2561 ระบุเกี่ยวกับ “ความบกพร่องใหญ่หลวง” ในด้านโครงสร้างอาคาร.

เครดิตภาพ : AP, REUTERS