หากมาเยือนกรุงเทพมหานคร หนึ่งสถานที่สำคัญต้อง “เช็กอิน” ไม่ว่าไทย-เทศ คือ “พระบรมมาหาราชวัง” หรือ วัดพระแก้ว แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้าชมความงดงามของสถาปัตยกรรมไม่ขาดสายเช้าจดเย็น ขณะที่มีแหล่งท่องเที่ยวน่าเยี่ยมเยือนกระจายตัวโดยรอบบริเวณจำนวนมาก

เมื่อมีคนรวมตัวกันมาก ยิ่งในย่านแหล่งท่องเที่ยวซึ่งพร้อมจับจ่าย สิ่งที่ตามมาคือปัญหาฉกฉวยโอกาส เอารัดเอาตั้งแต่ราคาสินค้า-บริการ พฤติกรรมสร้างความเดือดร้อนรำคาญ หรือการตื้อนักท่องเที่ยวเพื่อขายสินค้าหรือบริการ

ในอดีตเหล่านี้เป็นหนึ่ง “ภาพลบ” ที่ล่าสุดกำลังถูกปรับ “ภาพลักษณ์” และพื้นที่รอบบริเวณวัดพระแก้วเป็นหนึ่งพื้นที่นำร่อง ที่เริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงโดย พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผกก.สน.ชนะสงคราม ซึ่งรับผิดชอบดูแลพื้นที่บริเวณดังกล่าวเล็งเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นและควรต้องแก้ไข โดยเฉพาะกลุ่มผู้แฝงตัวมากระทำผิด ไม่เพียงส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการที่ปฏิบัติตัวถูกต้องพลอยเดือดร้อนไปด้วย แต่ปัจจุบันเริ่มมีนักท่องเที่ยวเดินทางกลับมาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น

พื้นที่รอบสนามหลวงถือว่าเป็น “แลนด์มาร์ค” สำคัญ เป็นหน้าเป็นตาของทั้งกรุงเทพมหานครและประเทศไทย จึงจำเป็นต้องทำพื้นที่ให้เป็น “แบบอย่าง” การท่องเที่ยวที่ทั้งปลอดภัย และสบายใจ ยกตัวอย่าง มาตรการกวดขันบริการขนส่งที่เหมือน “ซิกเนเจอร์” นั่นคือ “รถตุ๊กๆ” ที่ สน.ชนะสงคราม ประสานไปยังหน่วยงานเกี่ยวข้อง อาทิ ตำรวจท่องเที่ยว กรมการขนส่งทางบก ลงพื้นที่จัดระเบียบ  และตรวจรถรับจ้างสาธารณะ (รถสามล้อหรือรถตุ๊กๆ) พื้นที่รอบสนามหลวง

ถือเป็นการจัดระเบียบ ทำระบบที่สร้างความมั่นใจในการให้บริการของผู้ขับขี่ และสร้างความเชื่อมั่นกับผู้ใช้บริการอย่างนักท่องเที่ยวว่าจะได้รับการบริการที่ถูกต้องเหมาะสม

สำหรับการดำเนินการครั้งนี้มีตั้งแต่ การตรวจสอบใบอนุญาตขับขี่ ป้ายทะเบียนรถ เครื่องแต่งกาย สภาพรถ (เบื้องต้น) จุดที่จอดรถ และตรวจหาสารเสพติดในร่างกายของผู้ขับขี่ หากพบกระทำความผิดเรื่องใดเจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการตามกฎหมาย โดยการลงพื้นที่จะมีลักษณะสุ่มตรวจอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง 

รวมทั้งมีการจัดทำทะเบียนผู้ขับขี่รถตุ๊กๆ เพื่อทราบชื่อคนขับสร้างความอุ่นใจในการใช้บริการ ในอนาคตนอกจากรถตุ๊กๆจะมีเพิ่มการจัดระเบียบตรวจสอบมัคคุเทศก์ที่ไม่ใบอนุญาตนำเที่ยว (ไกด์ผี) ด้วย

ผกก.สน.ชนะสงคราม ระบุว่า การดำเนินการจัดระเบียบและตรวจรถรับจ้างสาธารณะจะใช้เป็นโมเดลนำร่องสำหรับการตรวจพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวสำคัญในย่านอื่น ๆ หากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ พบการกระทำความผิด อาทิ ปฏิเสธผู้โดยสาร ไม่กดมิเตอร์ โก่งราคาค่าโดยสาร หรือถูกเอารัดเอาเปรียบ โดยเฉพาะไกค์เถื่อนที่ไม่มีใบอนุญาตสามารถ แจ้งได้ที่สายด่วน 191 สายด่วน 1155 ตลอด 24 ชม.

สำหรับกรุงเทพมหานคร ประเด็นการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับเรื่องรถสาธารณะ รถตุ๊กๆและรถแท็กซี่ จอดกีดขวางการจราจร เพื่อรอผู้โดยสาร โดยเฉพาะบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าเป็นหนึ่งปัญหาสุดคลาสสิคที่แก้ไม่ตก แต่ก็ยังเห็นความพยายามนำร่องในบางพื้นที่ 

ในช่วงเปิดประเทศกลับสู่ภาวะปกติ หากไม่อยากให้บางปัญหาอาจกลับเข้าสู่โหมดเดิม สิ่งที่ต้องทำควบคู่กันนอกจากจริงจังคือความสม่ำเสมอและต่อเนื่อง เพื่อสร้างภาพลักษณ์ ความทรงจำใหม่ให้เกิดขึ้นได้จริงๆ.

ทีมข่าวอาชญากรรม รายงาน

[email protected]