มร. ชุน หลี่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ลาซาด้า กรุ๊ป เปิดเผยว่า ลาซาด้า ผู้นำแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกาศปรับโฉมแบรนด์ระบบโลจิสติกส์ภายใต้ชื่อ ลาซาด้า โลจิสติกส์ โดยก่อนหน้านี้ฝ่ายโลจิสติกส์ของลาซาด้าใช้ชื่อว่า Lazada eLogistics (LEL) และ Lazada Express (LEX) ซึ่ง LEL ทำหน้าที่จัดการคลังสินค้าและระบบโลจิสติกส์ ร่วมกับผู้ให้บริการโลจิสติกส์รายอื่น ในขณะที่ LEX ทำหน้าที่จัดส่งพัสดุถึงลูกค้า โดยการปรับโฉมแบรนด์ภายใต้ชื่อ “ลาซาด้าโลจิสติกส์” มาพร้อมเฉดสีฟ้าในแบบใหม่เพื่อสะท้อนความมีประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือ และภายใต้การปรับโฉมแบรนด์ครั้งนี้ ลาซาด้า โลจิสติกส์ ได้เปิดตัวบริการด้านโลจิสติกส์แบบหลากหลายช่องทาง (multi-channel logistics: MCL) ด้วยโซลูชั่นการจัดเก็บสินค้าแบบครบวงจร เพื่อช่วยให้ผู้ให้บริการบนอีคอมเมิร์ซและแบรนด์ต่าง ๆ สามารถตอบโจทย์การขายสินค้าผ่านอีคอมเมิร์ซได้อย่างราบรื่น ไม่ว่าผู้บริโภคจะสั่งซื้อสินค้าบนลาซาด้าหรือบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเจ้าอื่น ลาซาด้า โลจิสติกส์ จะช่วยเติมเต็มการให้บริการด้านขนส่งทุกคำสั่งซื้อ รวมทั้งลาซาด้าจะเป็นผู้จัดเก็บสินค้าของผู้ขายและพันธมิตรบนอีคอมเมิร์ซ เพื่อให้การจัดการด้านการขนส่งและการกระจายคำสั่งซื้อเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการขนส่งโดยลาซาด้า บริษัทขนส่งที่เป็นพันธมิตร หรือการขนส่งผ่านตัวแทน

ด้าน มร. แอนดี้ ฮวง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายโลจิสติกส์ ลาซาด้า กรุ๊ป กล่าวว่า แบรนด์ต่าง ๆ ยังมั่นใจได้ว่าบริการด้านโลจิสติกส์แบบหลากหลายช่องทาง (MCL) นั้น สามารถให้บริการด้วยมาตรฐานเดียวกัน ช่วยแก้ปัญหาด้านโลจิสติกส์ให้กับแบรนด์และผู้ขายได้เป็นอย่างดี จึงทำให้แบรนด์และผู้ขายสามารถทุ่มเทเวลาให้กับการพัฒนาด้านการขาย การตลาด ช่วยให้แบรนด์และผู้ขายสามารถควบคุมสินค้าในคลังได้อย่างยืดหยุ่นและคล่องตัวมากขึ้น ลดความกังวลด้านโลจิสติกส์ที่ต้องใช้ต้นทุนสูงและมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานด้านการจัดการคลังสินค้า ซึ่งต้องเสียค่าบำรุงระบบคลังสินค้าและการขนส่ง ช่วยให้แบรนด์และผู้ขายประหยัดต้นทุนในการขยายเครือข่ายการทำงานได้เป็นอย่างดี ทำให้แบรนด์และผู้ขายสามารถใช้ประโยชน์จากเครือข่ายของลาซาด้า โลจิสติกส์ ซึ่งมีศูนย์ปฏิบัติการกว่า 400 แห่ง ทั้งคลังสินค้า ศูนย์คัดแยก และฮับ นอกจากนี้แบรนด์และผู้ขายยังได้รับประโยชน์จากการอยู่ในระบบขนส่งที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งถือเป็นศูนย์รวมด้านอีคอมเมิร์ซ รวมทั้งความได้เปรียบทางการแข่งขันของลาซาด้าในฐานะผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์แบบครบวงจร โดยกว่า 85% ของขั้นตอนขนส่งพัสดุในขั้นแรก หรือจากผู้ขายไปสู่คลังสินค้า จะได้รับการจัดการอย่างสมบูรณ์จากระบบภายในของลาซาด้า

นอกจากนี้ Cainiao (ไช่เหนี่ยว) ซึ่งเป็นระบบโลจิสติกส์ของอาลีบาบา จะเข้ามาช่วยลาซาด้าดูแลด้านการขนส่งข้ามพรมแดนและศูนย์บริการการกระจายสินค้าในประเทศจีนทั้งนี้ลาซาด้า โลจิสติกส์ ได้เตรียมเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่อาจมีการให้รางวัลจูงใจผู้ขายที่สามารถตอบสนองคำสั่งซื้อได้อย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งปรับปรุงระบบให้สามารถรับสินค้าจากผู้ขายได้ภายในวันที่ได้รับคำสั่งซื้อ

มร. เจมส์ มาร์แชนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายโลจิสติกส์ บริษัท ลาซาด้า จำกัด (ประเทศไทย) กล่าวว่า นับตั้งแต่ประเทศไทยประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ ได้เห็นการเติบโตของการช้อปออนไลน์ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งการปรับโฉมของลาซาด้า โลจิสติกส์ ในครั้งนี้จะช่วยสนับสนุนให้แบรนด์ ผู้ขาย และผู้บริโภค ได้รับประโยชน์สูงสุดจากแคมเปญและกิจกรรมส่งเสริมการขายต่าง ๆ ในอนาคต ทั้งนี้ ในด้านศูนย์ปฏิบัติการด้านโลจิสติกส์ในประเทศไทย มีศูนย์บริการจัดการคลังสินค้าแห่งใหม่ ซึ่งประกอบด้วยคลังสินค้า 2 แห่ง โดยแห่งหนึ่งเป็นคลังสินค้าภายในประเทศ และอีกแห่งหนึ่งสำหรับการจัดการคลังสินค้าระหว่างประเทศ นอกจากนี้ยังมีศูนย์คัดแยกอีก 2 แห่ง และฮับ 78 แห่งทั่วประเทศ