นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง กล่าวปาฐกถา เรื่องสร้างความพร้อมประเทศไทย สู่โอกาสทางเศรษฐกิจหลังวิกฤตอโควิด-19 ในงานไทยแลนด์ โฟกัส 2021 ว่า ในปี 65 รัฐบาลจะทุ่มสรรพกำลังและทรัพยากรเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมทั้งการเปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยใช้โมเดลภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์และสมุยพลัส ที่ตอนนี้ขยายไปครอบคลุมนักท่องเที่ยวจากจังหวัดอื่น โดยการระบาดที่ลดลงจะทำให้รัฐบาลสามารถหนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ 4-5% ได้ในปีหน้า
“ช่วงต่อไปนโยบายของรัฐบาลจะมุ่งส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งหากต่อไปมีความจำเป็นที่จะต้องเพิ่มเพดานหนี้สาธารณะ คณะกรรมการนโยบายการเงินการคลัง ซึ่งตั้งขึ้นมาภายใต้พระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ ก็สามารถที่จะทบทวนเพื่อที่จะยกระดับเพดานดังกล่าวได้ โดยขอย้ำว่าสถานภาพทางด้านการเงินของไทยยังคงแข็งแกร่ง แม้รัฐบาลจะมีโครงการกู้ยืมเงินที่สูง แต่หนี้ต่อจีดีพี ยังคงต่ำเมื่อเทียบกับประเทศอื่น โดยอยู่ที่ 56.1% และจะอยู่ต่ำกว่า 60% ภายในปีงบนี้”
ส่วนตลาดทุนของไทยในอนาคตควรมีลักษณะเป็นแหล่งทุนสำหรับเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพ ที่นำเสนอนวัตกรรมใหม่ ๆ รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานทั้งกายภาพและดิจิทัล เป็นตลาดซื้อขายทางการเงินโดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย