เมื่อวันที่ 12 ก.พ. นายวันชัย สอนศิริ ส.ว. กล่าวถึงกรณีการโพสต์เฟซบุ๊กระบุ ส.ว.พร้อม “แลนด์สไลด์” ไม่โหวตเลือก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เป็นนายกรัฐมนตรี ให้ไปรวบรวมเสียงให้เกิน 376 เสียงเองว่า ส่วนตัวแล้วถ้าพรรคใดได้เสียงข้างมากก็พร้อมโหวตให้คนนั้นเป็นนายกรัฐมนตรี แม้จะเป็น “อุ๊งอิ๊ง” ก็โหวตให้ แต่เท่าที่ฟังเสียงเพื่อน ส.ว.หลายคน ทุกคนบอกว่า ถ้าเป็น “อุ๊งอิ๊ง” ไม่เอา เพราะมองเรื่องวุฒิภาวะความเป็นผู้นำ และประสบกาณ์ยังไม่มี ดูแล้วเป็นยากมาก โดยเฉพาะการเป็นสายตรงของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นลูกนายทักษิณ ที่เป็นคู่ขัดแย้งทางการเมือง

นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา

“หากเอาอุ๊งอิ๊งเป็นนายกฯ อาจทำให้บ้านเมืองไม่สงบ ถึงจะรวมเสียงข้างมากได้ ส.ว.อาจไม่เอา ถ้ายังดึงดันเอา อุ๊งอิ๊ง เป็นให้ได้ พรรคเพื่อไทยอาจไม่ได้เป็นรัฐบาลเลย อาจมีบุคคลที่สามมาเป็นนายกรัฐมนตรี ชื่อ ส.ตัวใหญ่ อาจไม่ได้มาตอนนี้ อาจมาตอนก๊อกสอง หากโหวตเลือกนายกฯ กันไม่ได้จริงๆ สิ่งที่ได้ยินมาจึงไม่ใช่เรื่องโคมลอย เพราะไม่ใช่เรื่องพรรคเพื่อไทยฝ่ายเดียว ถ้าจะให้อุ๊งอิ๊งเป็นนายกฯ ต้องไปรวมเสียงให้ได้ 376 เสียง ถ้าทำไม่ได้ และคนอื่นไม่เอาอุ๊งอิ๊งจะดันต่อไปอย่างไร จึงต้องประนีประนอมถอยไปเอาคนอื่นมาเป็นแทน เอามาเป็นตัวขายได้ แต่ไม่ใช่ตัวจริง” นายวันชัย กล่าว

นายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว.กล่าวว่า การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีของ ส.ว. คงไม่ได้เน้นเฉพาะ น.ส.แพทองธาร คนเดียว แต่จะดูผลคะแนนหลังเลือกตั้งซีกใดจะตั้งรัฐบาล ถ้าเป็นซีกที่ทำให้บ้านเมืองมีปัญหาในอนาคต พวกที่ตั้งป้อมด่า ส.ว. เอาแต่วิจารณ์ ส.ว. รุนแรง กลัว ส.ว.ใช้สิทธิเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งต่อไป เราจะไปเลือกได้อย่างไร แต่มั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยจะไม่ได้แลนด์สไลด์เกินครึ่งแน่ ขณะนี้สังคมแบ่งเป็น 2 ฝ่ายคือ ฝ่ายที่เอาและไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เท่าๆ กัน คะแนนเสียงที่ออกมาจะใกล้เคียงกัน หรือเหลื่อมกว่ากันเล็กน้อย ส.ว. จึงเป็นตัวแปรสำคัญ เพราะมี 250 เสียง แลนด์สไลด์ล่วงหน้าไปแล้ว

นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา

“หากพรรคเพื่อไทยได้ไม่เกิน 250 เสียง น.ส.แพทองธาร ก็ไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีแน่ ส.ว.ไม่เคยมองพรรคเพื่อไทยจะได้เกิน 250 เสียง การตั้งรัฐบาลพรรคการเมืองต่างๆ ทั้งพรรคขนาดกลาง พรรคเล็ก จะดูแนวโน้มใครจะเป็นรัฐบาลก็ไหลไปรวมกับฝ่ายนั้นดังนั้นจึงต้องไหลไปรวมอยู่กับขั้วที่ ส.ว.จะโหวตให้ เพราะทุกพรรคอยากเป็นรัฐบาลพรรคเพื่อไทยก็รู้สถานการณ์ดีถึงกลัว ต้องแก้รัฐธรรมนูญตัดอำนาจ ส.ว.ให้ได้ ขณะนี้เสียง ส.ว.เกิน 90% จะโหวตไปทางเดียวกันหมด โอกาสครั้งหน้าบอกได้เลย ไม่ พล.อ.ประยุทธ์ หรือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เท่านั้นที่จะได้เป็นนายกรัฐมนตรี” นายเสรี กล่าว

นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ ส.ว. กล่าวว่า สิ่งที่ นายวันชัย สอนศิริ ส.ว. ระบุว่า ส.ว.จะไม่โหวตเลือก น.ส.แพทองธาร เป็นนายกรัฐมนตรี แม้จะได้เสียงเกินครึ่งนั้น เป็นความเห็นนายวันชัยคนเดียว อย่าเหมารวมเป็นความเห็น ส.ว.ทั้งหมด หลายคนไม่สบายใจกลัวถูกเหมารวมไปด้วย กรณี ส.ว.จะโหวตใครเป็นนายกรัฐมนตรีต้องไปดูหน้างาน ถ้าพรรคเพื่อไทยได้เกิน 250 เสียง ต้องดูว่าจะเสนอชื่อใครเป็นนายกรัฐมนตรี ถ้าเป็น น.ส.แพทองธาร เชื่อว่า ส.ว.แต่ละคนคงมีวิธีตัดสินใจของตัวเอง ถ้าเป็นตนจะงดออกเสียง แต่ไม่รู้ว่า คนอื่นจะคิดเหมือนกันหรือไม่ ส.ว.จะไม่ใช้วิธีบล็อกโหวต ให้แต่ละคนตัดสินใจเอง

นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สมาชิกวุฒิสภา

“ยอมรับว่าการโหวตของ ส.ว.มีทั้งที่ยอมรับเสียงของประชาชนและไม่ยอมรับ น.ส.แพทองธาร ถ้าโหวตชื่อ น.ส.แพทองธารแล้วเกิดปัญหาก็ต้องเอาแคนดิเดตระดับรองๆ ลงไปมาเป็นแทน” นายกิตติศักดิ์ กล่าว

พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช ส.ว. กล่าวว่า ส.ว.แต่ละคนมีสิทธิในการที่จะโหวตเลือกใครเป็นนายกรัฐมนตรี และต้องรอดูว่าพรรคไหนจะเสนอใครขึ้นมาเป็นแคนดิเดตนายกฯ พิจารณาอย่างเป็นอิสระตามสิทธิของแต่ละคน ไม่เคยมีการจับเข่าพูดคุย หรือตั้งกลุ่มคุยกันว่ากลุ่มนั้นกลุ่มนี้จะต้องเลือกใคร ต้องดูกันตามหน้างาน และโหวตไปตามความรู้สึกของตัวเอง.

พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช สมาชิกวุฒิสภา

ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ก “สำนักประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร”