โลกออนไลน์กำลังลุกเป็นไฟ หลังเว็บไซต์ชื่อดังอย่าง TasteAtlas เว็บไซต์แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวและอาหารทั่วโลก ได้ประกาศให้อาหารไทยอย่าง “แกงส้ม” ติดอันดับอาหารยอดแย่ของโลกเป็นลำดับที่ 12 จาก 50 อันดับ

การจัดอันดับครั้งนี้ทำให้โลกออนไลน์พากันติด แฮทแท็กซ์ Save แกงส้ม กันเป็นจำนวนมาก ด้วยเพราะ “แกงส้ม” ถือเป็นเมนูเด็ด เมนูโปรด แถมยังเป็นเมนูที่อยู่คู่กับประเทศไทยมานานแสนนาน

โอ๊ะ ไปชิมที่ไหนมาต่างเป็นคำถามที่เกิดขึ้นในหลายคนหลายฝ่าย!!

แต่อย่าลืมว่า รสชาดของอาหาร เป็นเรื่องของ “รสสัมผัสลิ้น” รสชาติอาหารที่เข้มข้น ย่อมไม่คุ้นชินกับรสสัมผัสสิ้นของฝั่งตะวันตกอยู่แล้ว เฉกเช่นเดียว กับรสสัมผัสลิ้นที่จืดชืด เค็มปี๋ เนยนมทะลัก ก็ไม่ใช่รสสัมผัสลิ้นของชาวตะวันออก

ว่าง่าย ๆ ก็รสชาดใคร! ก็…รสชาดมัน! เพียงอย่าลืมว่า ทุกวันนี้ประเทศไทยก็ยังเป็น”ครัวของโลก” อยู่ดี

ที่สำคัญอาหารไทยหลายชนิดเป็นที่ฮิตติดปากคนทั่วโลกก็มีไม่น้อย ก่อนหน้านี้ “ข้าวซอย” อาหารไทยท้องถิ่นภาคเหนือ ก็คว้าอันดับ 1 ในการจัดอันดับ 50 Best Soups ซุปที่ดีที่สุดของเว็บไซต์ TasteAtlas มาแล้วเช่นกัน

ทุกวันนี้อาหารการกินเกี่ยวเนื่องกับวัฒนธรรมของหลายชนชาติ ได้สะท้อนถึงรากเหง้าและสามารถพัฒนาเป็นสินค้าสำคัญของชาติ และทุกรัฐบาลได้มีนโยบายสนับสนุนและพร้อมผลักดันให้อาหารไทยเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกผ่านช่องทางและเวทีต่าง ๆ

ด้วยเพราะ “อาหาร” เป็นหนึ่งใน ซอฟต์พาวเวอร์ ที่เป็นเป้าหมายใหญ่ในการส่งออกทางวัฒนธรรมของไทย และล่าสุด ในปี 65 มีการคาดการณ์กันว่าแนวโน้มการส่งออกสินค้าอาหารจะมีมูลค่า 1,200,000 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้น 8.4% ซึ่งหากเป็นไปตามคาด จะเป็นสถิติส่งออกสูงสุดครั้งใหม่

ขณะเดียวกันจากผลสำรวจของ “ดุสิตโพล” เมื่อปลายปีก่อน ระบุว่า ประชาชนคนไทยถึง 88.85% ภาครัฐต้องให้การส่งเสริมเอกลักษณ์ของอาหารไทยและผลักดันให้เป็น ซอฟต์พาวเวอร์ อย่างจริงจัง

ณ เวลานี้ หลายประเทศได้นำ ซอฟต์พาวเวอร์ มาใช้เพื่อสร้างรายได้เข้าประเทศ อย่างที่เห็นได้ชัด ทั้ง เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น จีน ไต้หวัน โดยเฉพาะเกาหลี ที่มีทั้ง เค-ป๊อป ซีรีส์เกาหลี หรือแม้กระทั่งอาหาร ที่สร้างรายได้และดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าประเทศในแต่ละปีเป็นจำนวนมหาศาล

ชงปั้นโอทอปต่อยอดอุตฯ อาหาร | เดลินิวส์

“วิศิษฐ์ ลิ้มลือชา” รองประธานกรรมการหอการค้าไทย และนายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูป ย้ำว่า อาหาร ภาพยนตร์ ผ้าไทย แฟชั่น มวยไทย ตลอดจนเทศกาล ประเพณีต่าง ๆ สามารถเป็นซอฟต์พาวเวอร์ และสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจได้

อย่าง…อาหารไทย ที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลกในฐานะที่ไทยเป็นหนึ่งในครัวของโลก มีเมนูที่ติด 50 อันดับอาหารโลก ทั้งแกงมัสมั่น ต้มยำกุ้ง หรือส้มตำ

นอกจากนี้มีอาหารไทยที่มีชื่อเสียงอีกมากมาย ที่สามารถผลักดันให้เป็น ซอฟต์พาวเวอร์ เช่น ผัดไทย แกงเขียวหวาน ต้มข่าไก่ ข้าวซอย หรือจะเป็นของหวานอย่าง ข้าวเหนียวมะม่วง และทับทิมกรอบ

ก่อนหน้านี้มีข้อมูลระบุให้เห็นว่า ซอฟต์พาวเวอร์ของไทย สามารถทำให้เศรษฐกิจสร้างสรรค์มูลค่าสูงถึง 1.4 ล้านล้านบาท และที่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้มากที่สุดมากสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม, อาหารไทย, โฆษณา, แฟชั่น และออกแบบ โดย “อาหาร” สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้กว่า 2.67 แสนล้านบาททีเดียว

แม้เวลานี้รัฐบาลของ “ลุงตู่” ได้แต่งตั้ง บอร์ดซอฟต์พาวเวอร์ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ อย่างเป็นรูปธรรมชัดเจน เพื่อให้เป็นปัจจัยใหม่ในการสร้างประโยชน์ต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศ

ขณะเดียวกันยังได้คลอดแผน Quick Win ใน 3 เรื่อง ทั้งการผลักดันคอนเทนต์ 5 F (Food-Film-Fashion-Fighting-Festival) ที่เป็นที่นิยมและสอดคล้องกับความต้องการเข้าสู่ตลาดอาเซียนและเอเชีย

นอกจากนี้ยังมีการเผยแพร่ภาพลักษณ์วัฒนธรรมสร้างสรรค์ของประเทศ รวมไปถึงการขยายการสนับสนุนธุรกิจคอนเทนต์และดิจิทัลคอนเทนต์ในไทย โดยจัดกิจกรรมทั้งในประเทศและต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น แถมยังมีอีก 16 โครงการ ที่จะเดินหน้าในปี 67

แต่!!จนถึงทุกวันนี้ยังแทบไม่เห็นแผนซอฟต์พาวเวอร์ ที่เป็นรูปธรรมที่ชัดเจน มีเพียงแค่ใครเกี่ยวข้อง ก็เดินหน้ากันไปแบบตัวใครตัวมัน

อย่างน้อย… ประเด็นของ “แกงส้ม” ก็น่าจะมีการพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส!!

……………………………………….
คอลัมน์ : เศรษฐกิจจานร้อน
โดย “ช่อชมพู”