เรียน คุณหมอ ดร.โอ สุขุมวิท 51 ที่นับถือ

ผมอายุ 70 ปี มีปัญหาเรื่องการแข็งตัวของอวัยวะเพศคือไม่ค่อยแข็งเต็มที่ และมักจะอ่อนตัวไวมาก ก่อนหน้านี้ป่วยเป็นโรคหัวใจมานานหลายปีแล้ว ทุกวันนี้ต้องเข้าพบแพทย์ที่ดูแลเป็นประจำตามนัดทุกครั้ง ทุกครั้งที่พบแพทย์ก็จะให้ยามากิน 1 ตัว เป็นยาในกลุ่มไนเตรท มีลักษณะเป็นแคปซูล ให้กินทุกวัน วันละ 1 เม็ดหลังอาหาร จึงทำให้ไม่สามารถใช้ยาช่วยให้เกิดการแข็งตัวได้เพราะผลข้างเคียงของยา จึงทำให้ไม่สามารถมีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงได้ ทั้งๆที่มีความต้องการทางเพศอยู่ อยากมีความสุขทางเพศเหมือนกับผู้ชายปกติทั่วไปบ้าง จึงอยากปรึกษากับแพทย์

ด้วยความนับถือ
แสวง 70

ตอบ แสวง 70

ชายวัย 70 ปี ป่วยเป็นโรคหัวใจและได้รับการรักษาด้วยการใช้ยากินกลุ่มไนเตรทอยู่ ขณะเดียวกันก็มีปัญหา
ของโรคอีดีทำให้ไม่สามารถร่วมเพศได้ จริงอยู่การใช้ยากลุ่มไนเตรทในผู้ป่วยโรคหัวใจถือเป็นข้อห้ามการใช้ยาเฉพาะกิจเพราะจะทำให้เกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ ปัจจุบันในกลุ่มคนไข้โรคหัวใจที่มีอาการอีดีร่วมด้วยจะรักษาด้วยการใช้ยากระตุ้น ซึ่งจะออกฤทธิ์ได้ง่ายและเร็ว การใช้ยากระตุ้นนี้คนไข้จะต้องได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการใช้จากแพทย์ก่อนเสมอ การใช้คลื่นกระแทกจากภายนอกยิงไปยังเส้นเลือดที่องคชาตเพิ่มการไหลเวียนเลือดเข้าเส้นเลือดที่องคชาตได้ดีและมากขึ้นเพื่อให้เกิดการแข็งตัวได้ง่าย และยังเป็นการฟื้นฟูอาการอีดีระยะยาวอีกด้วย ไม่มีผลข้างเคียงต่อตัวคนไข้ทั้งในขณะรักษาและหลังการรักษา

การรักษาด้วยการผสมผสานหลายวิธีเข้าด้วยกันแบบองค์รวมตามโปรแกรมของแพทย์ก็จะยิ่งช่วยให้การฟื้นฟูอาการอีดีของคนไข้เป็นไปได้อย่างรวดเร็ว การที่คนไข้โรคหัวใจจะงดกินยารักษาอาการป่วยเพื่อมาใช้ยาเฉพาะกิจนั้นเป็นการตัดสินใจที่ผิด ไม่แนะนำให้กระทำยิ่งจะเกิดอันตรายต่อชีวิตมากขึ้น การหยุดยารักษาโรคหัวใจควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์ที่ดูแล ว่าเห็นสมควรแก่การหยุดยาหรือยัง หรือจะเปลี่ยนยาหัวใจไปเป็นกลุ่มอื่นก็มี ซึ่งแพทย์จะต้องพิจารณาจากอาการป่วยที่เป็นอยู่เป็นสำคัญ

การรักษาอาการอีดีในผู้ป่วยโรคหัวใจนั้นไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป และไม่จำเป็นต้องใช้ยาเฉพาะกิจ แพทย์จะเป็นผู้เลือกวิธีการรักษาให้เหมาะสมกับอาการที่เป็นอยู่และโรคประจำตัวของคนไข้ร่วมด้วย โดยที่จะช่วยให้แข็งตัวได้นาน 30 นาทีทุกครั้งที่ร่วมเพศและแข็งตัวได้ทุกวัน โดยไม่ต้องใช้ยาเฉพาะกิจ ผลพบว่าปลอดภัยกับคนไข้ที่กินไนเตรทมากที่สุด

—————————-
ดร.โอ สุขุมวิท 51