เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 26 ม.ค. ที่ทำการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคพลังประชารัฐจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปีครั้งที่ 1/2566 มีวาระสำคัญแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อบังคับพรรคพลังประชารัฐ พ.ศ. 2561, เลือกคณะกรรมการบริหารพรรค, เลือกคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง โดยมีกรรมการบริหารพรรค นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค, นายสกลธี ภัทธิยกุล หัวหน้าทีม กทม. และสมาชิกพรรค เข้าร่วมตามที่กฎหมายกำหนด
นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ กล่าวก่อนประชุมว่า การประชุมวันนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. ไม่ได้เข้าร่วมประชุมด้วย โดยให้เหตุผลว่ายังอยู่ในเวลาราชการ จึงมอบหมายให้ตนทำหน้าที่ประธานการประชุม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ มีกระแสข่าว พล.อ.ประวิตร จะเดินทางไปหารือกับแกนนำพรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) นำโดย นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค ที่สโมสรราชพฤกษ์ ที่ก่อนหน้านั้นมีข่าวเปิดดีลเจรจากับแกนนำพรรค สอท. ให้กลับมาร่วมงานกับพรรค เพื่อช่วยขับเคลื่อนเรื่องเศรษฐกิจ
ด้านแกนนำพรรค สอท. เปิดเผยว่า การพูดคุยกับ พล.อ.ประวิตร ในวันนี้ จะสามารถปิดดีลเจรจาได้เลยหรือไม่ ต้องดูจากการพูดคุยก่อน และที่ผ่านมามีความคืบหน้าไปมากแล้ว แต่ท้ายสุดต้องดูการตัดสินใจของ พล.อ.ประวิตร จะออกมาอย่างไร
นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง และเลขาธิการพรรค พปชร. ยืนยันไม่ขัดข้องภายหลังมีกระแสข่าว นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ พร้อมแกนนำพรรค สอท. เตรียมกลับเข้าร่วมงานพรรค พปชร.อีกครั้ง เนื่องจากนายสมคิดมีความตั้งใจดูแลบ้านเมือง มีความรู้ความสามารถค่อนข้างมากส่วนกลับมาจะในตำแหน่งไหนแล้วแต่กรรมการบริหารพรรค และมั่นใจสามารถทำงานร่วมกับ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค และนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ได้ทำให้เกิดความแข็งแกร่ง ผลประโยชน์ตกอยู่กับประชาชน แนวคิดของ พปชร.เป็นแนวคิดที่เป็นประชาธิปไตยสูงมาก เราไม่ได้เป็นพรรคทหารอย่างที่คนอื่นคิด ขณะนี้เราเป็นพรรคประชาธิปไตย และก้าวข้ามความขัดแย้งในทุกกรณี เมื่อถามว่า นายสมคิดจะเข้ามาก่อนเลือกตั้ง หรือหลังเลือกตั้ง นายสันติ กล่าวว่า “อยู่ที่กรรมการบริหารพรรค เราไม่เกี่ยง”.