เมื่อวันที่ 26 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเพจเฟซบุ๊ก หนีห่าวไต้หวัน ฉันมาแล้ว ได้มีการโพสต์ภาพและข้อมูลอ้างว่า “ดาราชาวไต้หวัน” เที่ยวไทย อ้างว่า ถูกตำรวจไทยขอค้นตัว ค้นกระเป๋า รีดไถเงินกว่า 20,000 ถึงยอมปล่อยตัว พอดีมีลูกเพจส่งข่าวมาให้ ขอให้ช่วยแปลข่าวนี้ พอไปเชคหลายเว็บไซต์ข่าวในไต้หวัน คือหลายสื่อได้ลงจริงค่ะ ดารานักแสดงชาวไต้หวันคนนี้ชื่อว่า 安于晴 อันยู๋ชิง หรือชื่อภาษาอังกฤษว่า Charlene An ซึ่งเธอได้โพสลงอินสตราแกรมจนกลายเป็นข่าวดังในไต้หวันเมื่อช่วงต้นมกราคมที่ผ่านมา

เธอได้โพสต์ว่า เมื่อช่วงวันที่ 4 มกราคม ที่ผ่านมา ก่อนกลับไต้หวัน 1 วัน ขณะที่นั่งรถแท็กซี่กับเพื่อน ๆ กลับโรงแรม ระหว่างทางช่วงราว ตี 1 กว่า ๆ กลับถูกตำรวจที่ตั้งด่านเรียกให้รถหยุดและขอค้นตัว ค้นกระเป๋า โดยมีการมาจับค้นที่กระเป๋ากางเกง และกระเป๋าสตางค์ มีการถามถึงเรื่องวีซ่า เมื่อเธอยื่นหนังสือเดินทางให้ดูและบอกว่าได้ของวีซ่า VOA เข้ามา (VOA คือวีซ่าที่ขอที่สนามบินเมื่อมาถึงไทยเพื่อขออนุญาตเข้าประเทศอย่างถูกต้องตามกฎหมาย) แต่แล้วทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตรวจค้นเธอกลับบอกว่า ไม่ยอมรับวีซ่า VOA ต้องใช้เป็นวีซ่าจริง ๆ ที่มีตราและพิมพ์เท่านั้น

คือยังไงก็จะพยายามหาข้อหายัดใส่เธอให้ได้ คนในกลุ่มเธอได้มีการอัดคลิปเพื่อเป็นหลักฐาน และเพื่อป้องกันตัว แต่ถูกเจ้าหน้าบอกให้ลบคลิป ยื้อไปมาเจรจาตกลงกัน เธอเล่าต่อว่าเขาจะพาไปสถานีตำรวจเธอก็บอกไปก็ไป (แต่ก็ไม่ได้พาเธอไป) เธอยืนจนเมื่อยจนนั่งยองกับพื้นก็บอกให้เธอลุก ทำเสียงดุดันใส่เธอ บังคับให้เธอพูดขอโทษ (ทั้งที่เธอไม่ผิดอะไร) เธอก็ยอมทำทุกอย่าง เธอแทบอ้อนวอนให้ปล่อยเธอไปเพราะเธอไม่ได้ทำอะไรผิด เธอกลัวมาก เธอบอกว่าตอนนั้นราวกลับในหนังพวกเม็กซิกัน ที่จับค้นค้ายาอะไรแบบนั้นเลย แต่เธอไม่ใช่ เธอนักท่องเที่ยว!! ทำแทบทุกอย่างแต่ก็ไม่ยอมปล่อยเธอ จนเธองงว่าเธอทำผิดอะไร

เธออ้อนวอนเจรจาอยู่นาน แทบจะกราบ เธอบอกพยายามพูดภาษาไทยนิดๆ พูดว่าขอโทษ ขอร้อง แต่ไม่เป็นผล เธอทำทุกอย่าง เหลือเพียงแต่คุกเข่าไหว้แค่นั้น สุดท้ายยื้ออยู่ราว 2 ชั่วโมง และได้พาเธอไปที่ลับตาคน โดยมีการหลบกล้อง cctv หน้าสถานทูตจีน (จากที่เธอบอกต่อสื่อ) แล้วบอกว่า “…ทั้งหมดในรถต้องจ่ายมา 27,000 บาท ถึงจะยอมปล่อย!!…” ทางดาราสาวบอกว่า คือง่ายๆจะเอาเงินนั่นแหละ เธอเลยถึงบางอ้อ

สุดท้ายพอเธอยอมจ่าย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเรียกแท็กซี่ให้พวกเธอกลับโรงแรม เธอยังเล่าต่อว่า ข้าง ๆ เธอยังมีกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวเกาหลี เป็นผู้หญิง5 คน โดนอย่างเธอ ไม่แน่ใจว่า กลุ่มที่อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ (เธอเรียกพวกนี้ว่า 黑警 hēijǐng เฮยจิ่ง หมายถึง ตำรวจเลว ) คือจ้องจะจับแต่นักท่องเที่ยวผู้หญิงชาวเอเชียหรือไม่?!

เธอยังกล่าวต่อว่า “..ไม่คิดเลยว่า ไปเที่ยวปีใหม่ที่ไทยหวังเจอประสบการณ์ดี ๆ แต่กลับกลายเป็นประสบการณ์ที่เลวร้ายและน่ากลัวที่สุดในชีวิต และฉันจะไม่ไปเหยียบเมืองไทยอีก ฉันอยากเตือนคนไต้หวันว่า จะไปไทยให้ระวัง อย่าพกเงินสดติดตัวในกระเป๋าเยอะ เพราะโดนสุ่มค้นตัวมา หาเรื่องยัดข้อหา พวกนั้นจับดูกระเป๋าเงินก่อน ให้ระวังดีๆ (ที่แอดฟังแล้วเจ็บจี๊ดคือ ดาราสาวให้สัมภาษณ์กับสื่อไต้หวันลงท้ายว่า “…เพราะพวกเขาขาดรายได้จากการท่องเที่ยวมานานช่วงโควิด พอเปิดประเทศ กลายเป็นมีแต่ปัญหาแบบนี้…รีดไถ…”

สื่อได้มีการสัมภาษณ์ไกด์ท้องถิ่นในไทย ได้รับคำตอบว่า “..นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเอง ดวงไม่ดีก็อาจเจออะไรแบบนี้ มาขอค้นตัว ค้นกระเป๋า อ้างนั่นนี่ จริง ๆ ถ้าไม่อยากมีปัญหา ให้รีบยัดเงินก่อนไปเลย อารมณ์ค่าผ่านทาง (過路費)…” ก็จบเร็ว…

เธอโพสต์ลง IG ว่า 再見 爛曼谷! แปลได้ว่า ลาก่อน กรุงเทพฯห่วยๆ!!
เรียนจีนจากข่าว
警察 jǐngchá จิ่งฉา = ตำรวจ
黑警 hēijǐng เฮยจิ่ง = ตำรวจเลว
超黑 chāohēi เชาเฮย = โคตรดำ (ในบริบทข่าวนี้จะหมายถึง โคตรสกปรก คอร์รัปชั่น)
泰國???????? tàiguó ไท่กั๋ว = ประเทศไทย
勒索 lèsuǒ เล่อสั่ว =แบล็กเมล์

ภายหลังจากมีข้อความดังกล่าวเผยแพร่ออกไปปรากฏว่า มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประเด็นที่เพิ่งเป็นข่าวไปหลังจากมีสาวจีนมาเที่ยวแล้วจ้างตำรวจไทยดูแลนำขบวน ซึ่งเรื่องนี้ยังอยู่ระหว่างการสอบสวน แต่ทางหน่วยงานเกี่ยวข้อง ออกมาบอกแล้วว่าเป็นเรื่องส่วนตัว อีกทั้งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยก็ยังบอกว่าไม่พบการว่าจ้างดังกล่าว ทำให้ชาวเน็ตและเพจดังอย่าง “ลุยจีน” ออกมาแจ้งเบาะแสก่อนตั้งข้อสงสัยว่า มีการขายบริการดังกล่าวในเว็บไซต์มากมาย ทำไมถึงไม่พบเห็น อีกทั้งเกิดเรื่องของดาราสาวใต้หวันนี้รายนี้มาตั้งแต่ต้นเดือนมกราคม ก็ยังไม่มีข่าวการตรวจสอบแต่อย่างด้วย เสมือนเป็นการสะท้อนการทำงานของทางการไทย

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบในไอจีพบว่าดาราสาวรายนี้ เดินทางมาท่องเที่ยวเมืองไทยจริง ๆ มีรูปไปเที่ยวศาลพระหรหม และเมื่อเกิดเหตุแล้วปรากฏว่า “อันยู๋ชิง” ได้เดินทางกลับประเทศทันที ทั้งยังไปให้สัมภาษณ์สื่อมากมาย จนมีการประโคมข่าวไปทั่ว เพื่อให้นักท่องเที่ยวระมัดระวังในเรื่องดังกล่าว อย่างไรก็ตาม เรื่องที่เกิดขึ้นคงต้องรอฟังข้อเท็จจริงจากฝ่ายงานเกี่ยวข้องต่อไป.

ติดตามฟังการสัมภาษณ์สื่อของดาราสาวได้ที่นี่…คลิก