เมื่อวันที่ 25 ม.ค. นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. ในฐานะรองเลขาธิการพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ด้านกิจการภายในและการเลือกตั้ง ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมการจัดทัพเลือกตั้งและการคัดผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และผู้สมัคร ส.ส.เขต ว่าผู้สมัคร ส.ส.เขตคัดแล้วเสร็จ 95% ส่วนบัญชีรายชื่อ มีคนสนใจล้มหลาม ปิดรับสมัครเเล้ว กำลังคัดเลือกอยู่ในขั้นตอนสุดท้าย ของคณะกรรมการกลั่นกรองโดยวันที่ 28 ม.ค.66 ที่ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต จะมีการประชุมสามัญพรรค ก.ก. เราจะมีการเปิดนโยบาย ที่จะใช้เป็นแคมเปญการเลือกตั้ง พร้อมทยอยเปิดตัวผู้สมัคร แต่ละเขตและจังหวัด ส่วนฐานที่มั่นของเราอย่างกทม. มีผู้สมัครครบแล้วทั้ง 33 เขต ในวันนั้นจะเจอหน้าครบทั้ง 33 คน ทั้งนี้ ในภาคกลาง และเขต 1 ของทุกจังหวัด มีผู้แสดงความจำนงสมัครมากสุด กรุงเทพฯ และปริมณฑล 60 เขต มีผู้สมัครมามากกว่าเขตละ 3 คน ต้องผ่านกระบวนการคัดเลือก โดยคณะกรรมการคัดสรร ดูบันทึกวีดิโอที่ผู้สมัครส่งเข้ามาขั้นต้น หลังผ่านการคัดกรอง บุคคลนั้นๆ ต้องไปลงทำพื้นที่ร่วมกับคณะทำงานจังหวัด เมื่อผ่านเกณฑ์การทำงาน อุดมการณ์ วิสัยทัศน์ จะมีการส่งโปรไฟล์มาที่ส่วนกลางคัดสรรก่อนเข้าสู่กก.บห.พรรค กรองในขั้นสุดท้ายก่อนประกาศ กระบวนการทั้งหมด ทำทั้งผู้สมัครหน้าใหม่ หน้าเก่า ไม่มีการยึดว่าพื้นที่นี้เป็นของฉันแล้วจะอยู่ตลอดไป
ส่วนผู้ประสงค์สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ มีเข้ามาถล่มทลายทุกสารทิศเช่นกัน ผู้ทำหน้าที่นั่งดูคลิปวิดีโอแนะนำตัวผู้สมัคร ใช้เวลาดูเป็นเดือนๆ เราคัดเหลือ 400 คน เรียกมาสัมภาษณ์อีกจนเหลือ 150 คน นำไปรวมกับฐานบัญชีรายชื่อเดิม ที่มีอยู่ 30-40 คน รวมแล้วกลายเป็นเหลือ 180 กว่าคน ส่งผู้ผ่านเกณฑ์จะกระจายไปทำงานในภูมิภาคต่างๆ เสร็จแล้วหลังจากยุบสภาฯ จะประกาศลำดับบัญชีรายชื่อ 10-20 อันดับแรก และทยอยประกาศไปเรื่อย ๆ ในหลายๆเวทีมีการสอบถามกันเยอะมาก ว่าผู้สมัคร ก.ก.มีแนวโน้มเป็นงูเห่าอีกหรือไม่ ตนบอกได้เลยว่า ถ้าได้เห็นกระบวนรอบนี้นะ จะไม่กล้าเป็นแม้กระทั่งงูเขียว วันที่ 28 ม.ค.นี้ จะได้เห็นหน้า แกนนำพรรค ที่จะคอยเดินสายนำธงเรื่องของการเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต สื่อสารคมเปญการเปลี่ยนประเทศเปลี่ยนอนาคตได้ด้วยการไปใช้สิทธิเลือกตั้ง
เมื่อถามว่า นอกจากจุดยืนทางการเมือง ที่หัวหน้าพรรค ก.ก.ประกาศไม่เอาพรรคทหารจำเเลง รทสช. และพปชร.แล้ว ในส่วนภท.และปชป. ที่เคยร่วมรัฐบาลกับพรรคทหารจำแจง ก.ก.เอาอย่างไร จับมือด้วยได้หรือไม่ นายณัฐชา ตอบว่า วันที่ 28 ม.ค. เราจะพูดคุยเรื่องนี้ เพื่อเซ็ตค่ามาตรฐานให้ประชาชนได้นำไปเป็นตัวเลือกในการตัดสินใจครั้งหน้าว่าหนึ่ง คนที่เป็นพรรคสืบทอดอำนาจมา ตั้งแต่พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.ประวิตร ตั้งพรรค พปชร. กันมาสุดท้ายแตกคอเราไม่เอาทั้งสองฝ่ายแน่นอน การประกาศเจตนารมณ์รอบนี้จะไม่ใช่แค่ลมปาก จะให้การสัญญากับประชาชนวันที่ 28 ม.ค. อยากให้ประชาชนจับตามองการประชุมสามัญของพรรค โดยเราจะพูดกันลึกไปถึงว่า ถ้าจะเป็นรัฐบาล เราจะจับมือกับใคร หรือไม่จับมือกับใคร
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากพรรคเพื่อไทย (พท.) หนีบเอา พล.อ.ประวิตร พ่วงมาด้วย มาจับมือกับก้าวไกลตั้งรัฐบาล เอาหรือไม่ ตอบว่า แน่นอน สูตรรัฐบาลถ้ามีพ่วง พล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.ประวิตร เราไม่เอาด้วย สูตรตั้งรัฐบาลอย่างไรก็แล้วแต่มีลุงป้อม ลุงตู่ โผล่มาในสมการตรงจุดไหนก็แล้วแต่ เราไม่ร่วมด้วย ไม่อย่างนั้นประชาชนจะรู้สึกอย่างไร ว่าพรรคการเมืองที่เขาเลือกและมอบความหวังให้ การเมืองในอดีต ทำประชาชนเสียใจน้ำตาเป็นสายเลือด สุดท้ายพอถึงช่วงเลือกตั้งกระโดดไปอยู่พรรคใหม่ เปลี่ยนสีเสื้อพรรค สุดท้ายไปจับมือกับรัฐบาลที่ตนเห็นแล้วว่า มีหลายคนที่เป็นรัฐมนตรีทุกสมัย เป็นรัฐบาลทุกสมัยก็มี ดังนั้นประชาชนเห็นแล้วแต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เนื่องจากการเมืองมันเป็นแบบนี้ แต่แคมเปญเราจะบอกว่า ต้องเริ่มเปลี่ยนตั้งแต่ตรงนี้ไปด้วยกัน ถ้าประชาชนเบื่อเหตุการณ์เหล่านี้ ขอให้เลือกเรามาให้เยอะๆ เราจะไม่ต้องจับมือกับใครและตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้เลย
