เมื่อวันที่ 24 ม.ค. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จไปยังพิพิธภัณฑ์บ้านป้าทุ้ม-ป้าไท้ บ้านหนองแข้ หมู่ที่ 5 ต.ตองโขบ อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร โดยมีนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นางจุรีรัตน์ เทพอาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร พ.อ.ระลึก คนใหญ่ รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 29 พล.ต.ต.สรรธาน อินทรจักร์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสกลนคร นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย นางจิณณารัชช์ สัมพันธรัตน์ ประธานชมรมแม่บ้านพัฒนาชุมชน ข้าราชการ และประชาชนในพื้นที่ เฝ้ารับเสด็จ
โอกาสนี้ เสด็จเข้าพิพิธภัณฑ์บ้านป้าทุ้ม-ป้าไท้ ทอดพระเนตรการเป่าแคน แล้วเสด็จขึ้นบนพิพิธภัณฑ์ ทอดพระเนตรการทอผ้า ประวัติความเป็นมาของพิพิธภัณฑ์บ้านป้าทุ้ม-ป้าไท้ และทอดพระเนตรการจัดแสดงฉลองพระองค์ไหมมัดหมี่ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และผ้าทอโบราณลายต่างๆ ได้แก่ ผ้าลายโบราณเครือสองข้อ ผ้าลายดางแห ผ้าลายใยแมงมุมเล็ก ผ้าลายหมากจับตุ้ม ผ้าลายไอ่คำ ผ้าลายโคมห้าผสมกระจับ ผ้าลายต้มหวี ผ้าลายใยแมงมุมใหญ่ ผ้าลายนกนางแอ่น ผ้าลายตุ้มป่องตุ้มตัน จากนั้น เสด็จออกจากพิพิธภัณฑ์บ้านป้าทุ้ม-ป้าไท้ เพื่อทอดพระเนตรผลิตภัณฑ์ผ้าไทยและงานหัตถกรรมชุมชน ของกลุ่มผู้ผลิตผู้ประกอบการ OTOP จำนวน 22 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มทอผ้าบ้านกุดจิก ไทสกลผ้าคราม กรรณิการ์ตุ้มโฮม ฝ้าครามงามเมืองสกล กลุ่มทอผ้าย้อมสีธรรมชาติ (มูลควาย) บ้านนาเชือก กลุ่มแปรรูปผ้าฝ้ายมัดย้อมบ้านสงเปลือย วิสาหกิจชุมชนทอผ้าย้อมครามผ้าไหมบ้านกุดแฮด หมู่ 8 กลุ่มวิสาหกิจชุมชนทอผ้าฝ้ายย้อมคราม บ้านเชิงดอย วิสาหกิจชุมชนกอฝ้ายย่าเติ่ง ผ้าไหมย้อมครามภูพาน กิ๊กผ้าฝ้าย กลุ่มทอผ้าฝ้ายมัดหมี่ย้อมคราม บ้านสามัคคีเฮือนนางคราม กลุ่มทอผ้าลายมุก บ้านวังปลาเซือม กลุ่มทอผ้าลายมุก บ้านนาจานใหม่ กลุ่มทอผ้าวงค์พระจันทร์ กลุ่มทอผ้าย้อมสีธรรมชาติจากคราม (กาบกี้) กลุ่มทอผ้าที่กระตุกบ้านนางัว จูมทองไหมไทย กิ๊ฟช็อปนาขาม วิสาหกิจชุมชนกลุ่มทอผ้าย้อมครามบ้านตอเรือ และกลุ่มครามภูไท และเสด็จเข้าศูนย์แสดง จำหน่าย ออกแบบ ผลิตภัณฑ์ผ้าคราม ไหมย้อมคราม เพื่อทรงงานด้านผ้าไทยร่วมกับกลุ่มศิลปาชีพ จำนวน 13 กลุ่ม และทอดพระเนตรการแสดงมนต์เสน่ห์ภูไท
นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เคยเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรบ้านหนองแข้ ตำบลตองโขบ อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนครโดย “บ้านป้าทุ้ม-ป้าไท้ ราษฎรบ้านหนองแข้” เป็นหนึ่งในบรรดาบ้านเรือนราษฎรหลายร้อยหลังที่สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงเสด็จเยือนโดยไม่มีกำหนดการล่วงหน้าและทรงเยี่ยมถึง 3 ครั้ง ในปี 2521 ปี 2523 และปี 2525 โดยทรงถามไถ่ทุกข์สุขของราษฎรอย่างใกล้ชิด และทรงฟื้นฟูการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมพันธุ์พื้นเมืองของไทยและการทอผ้า โดยทรงรับราษฎรบ้านหนองแข้เป็นสมาชิกศิลปาชีพ เพื่อให้มีรายได้เสริมจากการทอผ้า รวมทั้งพระราชทานฉลองพระองค์ผ้าไหมมัดหมี่ให้นางไท้ แสงวงค์ ไว้เป็นต้นแบบอนุรักษ์ลวดลายโบราณ ซึ่งด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และราษฎรบ้านหนองแข้จึงร่วมกันจัดตั้ง “พิพิธภัณฑ์บ้านป้าทุ้ม-ป่าไท้” ขึ้น เพื่อสืบทอดความภาคภูมิใจ ความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และความทรงจำอันงดงามให้คงอยู่เป็นสมบัติของลูกหลานชาวบ้านหนองแข้สืบไป
“นับตั้งแต่ปี 2515 เป็นต้นมา สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงได้มีพระราชเสาวนีย์ให้ราชเลขานุการในพระองค์ลงพื้นที่เยี่ยมชาวบ้านและชวนให้ทอผ้า เพื่อทรงรับซื้อ ช่วยให้ชาวบ้านมีรายได้เสริมจากการทำนาทำไร่ โดยเมื่อวันอังคารที่ 14 ต.ค. 2518 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จฯ ไปทรงประกอบพิธีเปิดโรงเรียนร่มเกล้า ต.ตองโขบ อ.เมืองสกลนคร จ.สกลนคร โดยทรงเยี่ยมเยียนราษฎรที่มารอเฝ้าฯ รับเสด็จอยู่ และมีพระราชปฏิสันถารกับราษฎรเหล่านั้นอย่างใกล้ชิด สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทอดพระเนตรเห็นความสวยงามของผ้าซิ่นที่นางทุ้มและนางไท้ สองพี่น้องชาวบ้านหนองแข้สวมใส่ จึงเป็นที่มาของการเสด็จพระราชดำเนินถึง 3 ครั้ง ได้แก่ ครั้งที่ 1 วันที่ 11 พ.ย. 2521 สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จฯ ไปทรงเยี่ยมชาวบ้านหนองแข้และทอดพระเนตรการทำงานของกลุ่มสมาชิกทอผ้า โดยไม่มีใครทราบมาก่อน แต่เมื่อทราบข่าว ชาวบ้านต่างพร้อมใจกันละจากงานที่ตนกำลังทำอยู่ มาเฝ้าฯ รับเสด็จกันอย่างเนืองแน่น โดยในครั้งนี้ ได้ประทับที่บ้านนางไท้ แสงวงค์ พร้อมทั้งมีพระราชปฏิสันถารกับครอบครัวนางไท้เป็นการส่วนพระองค์ จากนั้น จึงทอดพระเนตรการแสดงเป่าแคนที่ชาวบ้านจัดถวายแล้วจึงเสด็จพระราชดำเนินกลับ ครั้งที่ 2 วันที่ 18 พ.ย. 2523 สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง และสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยเสด็จพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ไปทอดพระเนตรพื้นที่โดยรอบของบ้านหนองแข้ เพื่อหาวิธีพัฒนาแหล่งน้ำสำหรับทำการเพาะปลูก ในขณะเดียวกัน สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเยี่ยมเยียนราษฎรภายในหมู่บ้าน เสด็จฯ ไปประทับ ณ บ้านของนางไท้ แสงวงค์ และทรงพระราชปฏิสันถารเกี่ยวกับการอนุรักษ์การทอผ้า การปลูกหม่อนเลี้ยงไหมกับนางทุ้มและนางไท้ และครั้งที่ 3 วันที่ 30 พ.ย. 2525 สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระราชทานฉลองพระองค์คลุมไหมมัดหมี่สีม่วงให้แก่นางไท้ เพื่อเป็นแบบในการทอผ้าผืนใหม่ ซึ่งภายหลังนางไท้ได้เชิญฉลองพระองค์นั้นไว้บนหิ้งและบูชาด้วยดอกไม้สีขาว เช่น ดอกสะเลเต (มหาหงส์) ตามประเพณีชาวอีสาน ด้วยความผูกพันและจงรักภักดี” นายสุทธิพงษ์ กล่าว
ดร.วันดี กล่าวว่า นับเป็นความโชคดีของพวกเราคนไทยทุกคนที่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงตั้งพระปณิธานที่แน่วแน่ในการแบ่งเบาพระราชภาระของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีพระราชปณิธานในการสืบสาน รักษา และต่อยอดโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานด้านศิลปาชีพที่พระองค์ท่านได้โดยเสด็จตามสมเด็จย่าของพระองค์เยี่ยมเยียนราษฎรและทรงเรียนรู้ซึมซับพระราชกรณียกิจมาตั้งแต่เมื่อครั้งทรงพระเยาว์ในทั่วทุกภูมิภาคต่างๆ ของประเทศไทย ทำให้ทรงรับรู้ความสำคัญของการอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นที่บรรพบุรุษไทยได้สร้างสรรค์และสืบทอดมาอย่างต่อเนื่องจากอดีตสู่ปัจจุบัน และทรงรับงานศิลปาชีพในสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงมาเป็นพระราชภาระเพื่อทรงสืบสานพระราชกรณียกิจที่สำคัญยิ่งนี้
“สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงนำประสบการณ์ส่วนพระองค์ทั้งจากการทรงงานและทรงศึกษาผ้าทอพื้นเมืองมาพัฒนาต่อยอดภูมิปัญญาผ้าไทยให้ทันสมัยเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ แต่ยังคงไว้ซึ่งลวดลายของผืนผ้าที่สื่อถึงความเป็นอัตลักษณ์ของท้องถิ่นในแต่ละภูมิภาค ด้วยพระปรีชาสามารถด้านการออกแบบที่นำสมัยจึงทรงนำมาประยุกต์ปรับเปลี่ยนเพื่อความเหมาะสมกับยุคสมัยได้อย่างสวยงาม สามารถสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับช่างทอผ้าทุกท้องถิ่น ท้องที่ ผ่านโครงการพระดำริ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” และพระราชทานลายผ้า เช่น ลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ลายขิดนารีรัตน์ราชกัญญาลายท้องทะเลไทย ลายป่าแดนใต้ เป็นต้น” ดร.วันดี กล่าว
ดร.วันดี กล่าวว่า การเสด็จทรงงานในพื้นที่จังหวัดสกลนครของ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ในครั้งนี้ เป็นการเสด็จตามรอยพระบาทยาตรา พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการทรงเยี่ยมเยียนพร้อมทั้งพระราชทานพระดำริในการสืบสาน รักษา และต่อยอด ภูมิปัญญาการถักทอผ้า อันเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ที่ได้สืบทอดมาแต่ครั้งบรรพบุรุษ เพื่อทำให้ภูมิปัญญาผ้าไทยเหล่านี้ได้รับการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ ทำให้พี่น้องประชาชนมีอาชีพ มีรายได้ที่มั่นคง เพิ่มพูน อันจะนำมาซึ่งความอยู่ดีกินดีและมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน
“บ้านป้าทุ้ม-ป้าไท้ เป็นสถานที่แห่งความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่เป็นหนึ่งในบ้านราษฎรหลายร้อยหลังในประเทศไทยที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถพระบรมราชชนนีพันปีหลวง เคยเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมเยียน ด้วยสำนึกในพระมหากรณาธิคุณ มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ร่วมกับราษฎรบ้านหนองแข้ จึงจัดตั้ง “พิพิธภัณฑ์บ้านป้าทุ้ม-ป้าไท้” นี้ขึ้นในปี 2558 เพื่อเป็นที่จดจำและเป็นสมบัติแก่ลูกหลานบ้านหนองแข้ และประชาชนชาวไทยสืบไป” นายสุทธิพงษ์ กล่าวช่วงท้าย.