เมื่อวันที่ 23 ม.ค. ที่รัฐสภา มีการประชุมวุฒิสภา โดยมีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม ทั้งนี้ได้มีการพิจารณารายงานการศึกษาแนวทางการส่งเสริมและการพัฒนาการเลือกตั้งให้สุจริตและเที่ยงธรรม ตามที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) พัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา ที่มีนายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว. เป็นประธาน กมธ. พิจารณาเสร็จแล้ว
นายวงศ์สยาม เพ็งพานิชภักดี ส.ว. ในฐานะเลขานุการ กมธ. ชี้แจงว่า การเลือกตั้งซ่อมที่ผ่านมาพบการซื้อเสียงทุกพื้นที่ แยบยลมากขึ้น ปัญหารับเงินซื้อเสียงมาจากความจำเป็นทางเศรษฐกิจ และขอเสนอให้ กกต. หรือภาครัฐ จ่ายค่าเดินทางผู้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งคนละ 500 บาท ใช้เงิน 2หมื่นล้านบาท จากจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 40 ล้านคน การให้ค่าเดินทางไปใช้สิทธิเลือกตั้ง 4 ปีมีครั้ง ทำให้ประชาชนตอบแทนคุณแผ่นดิน เลือกคนดี ไม่ซื้อสิทธิขายเสียง ทำให้ประชาชนรู้สึกประชาธิปไตยกินได้ ตั้งแต่วันออกมาใช้สิทธิและควรแก้ระบบเลือกตั้ง ส.ส.เขตใช้บัตรใบเดียว ไม่ต้องมี ส.ส.บัญชีรายชื่อ ใครได้คะแนนสูงสุดลำดับ 1 เป็น ส.ส.เขต ส่วน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ให้ผู้สมัคร ส.ส.เขต ที่แพ้เลือกตั้งแต่ได้คะแนนสูงสุดในบรรดาผู้ที่ไม่ได้รับเลือก ได้เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ เรียงลำดับไปจนครบจำนวนที่กำหนดจะได้ ส.ส.เขต และบัญชีรายชื่อจากผู้ได้รับคะแนนสูงสุดจากประชาชน
จากนั้นที่ประชุมเปิดให้สมาชิกอภิปรายแสดงความเห็น โดยมี ส.ว. อภิปรายกันอย่างกว้างขวาง อาทิ นายถาวร เทพวิมลเพชรกุล ส.ว. อภิปรายสนับสนุนให้ กกต. จ่ายค่าเดินทางตอบแทนผู้ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง 500 บาท การทุจริตเลือกตั้งที่ปราบปรามไม่ได้ เนื่องจาก กกต.ประจำหน่วย หรือ ผอ.เลือกตั้งในพื้นที่ไม่มีความรู้ ควบคุมการเลือกตั้งให้ยุติธรรมไม่ได้
ด้านนายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ ส.ว. อภิปรายว่า ขณะนี้ใกล้ถึงวันเลือกตั้ง มีข่าวนักการเมืองย้ายพรรค เหมา ส.ส. ด้วยกล้วยน้ำหนักมากมาย บางพรรคแจกกล้วย 80 กิโลกรัม อะไรๆ ก็แจกกล้วย จะให้ประชาชนคิดอย่างไร จากการลงพื้นที่ มีนักการเมืองท้องถิ่น เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายก อบจ. มาบอกตนว่า ขอฝากประเด็นแก้รัฐธรรมนูญว่าเมื่อจะแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 158 วาระนายกฯ 8 ปี ก็ช่วยปลดล็อกนายก อบจ., นายก อบต., นายกเทศมนตรี, กำนัน, ผู้ใหญ่บ้าน ให้ไม่ต้องจำกัดวาระดำรงตำแหน่งด้วย กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน บางคนอายุ 60 ปี แต่แข็งแรง ทำงานได้ หากมีการแก้รัฐธรรมนูญในรัฐบาลต่อไป จะเสนอปลดล็อกตามที่เสนอมา
ขณะที่ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา ส.ว. อดีตเลขาธิการ กกต. ในฐานะ กมธ. ชี้แจงว่า การเลือกตั้งที่ผ่านมา กระบวนการป้องกันการซื้อเสียงดำเนินการมาต่อเนื่อง ทั้งการคุ้มครองพยาน การให้รางวัลนำจับผู้ชี้เบาะแสซื้อเสียง แต่การรับรู้ของประชาชนมีน้อยไป ขอเสนอให้เปิดแนวรบที่หมู่บ้าน กกต. ต้องติดป้ายในหมู่บ้าน แจ้งประชาชนให้ทราบถึงการได้รางวัลตอบแทน 1 แสนบาท หากแจ้งเบาะแสซื้อเสียง เพราะที่ผ่านมาการสอบสวนทำได้แค่แจกใบเหลือง ใบแดงเท่านั้น เชื่อว่าหากเปิดแนวรบที่หมู่บ้านได้ จะได้เห็นในชาตินี้ว่า มีการเลือกตั้งไม่ซื้อเสียงเกิดขึ้นจริง
ภายหลังการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยไม่มี ส.ว. คนไหนคัดค้านรายงานฉบับดังกล่าว ถือว่าที่ประชุมเห็นชอบ ให้นำเสนอต่อรัฐบาลนำไปพิจารณาต่อไป.