เมื่อวันที่ 23 ส.ค. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พาผู้เสียหายจำนวนกว่า 20 ราย ที่ถูกบริษัทแห่งหนึ่งหลอกขายบ้านที่ไม่ใช่ของตนเอง เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ภูมิรพี สังข์ทอง รอง ผกก.(สอบสวน) กก.2.บก.ป. เพื่อแจ้งความเอาผิดกรรมการผู้จัดการบริษัทดังกล่าวและพวกในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดยนำเอกสารหลักฐานการโอนเงินค่าผ่อนบ้านและเอกสารอื่นๆมามอบให้ประกอบการพิจารณา

นายอัจฉริยะ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากได้รับการร้องขอความช่วยเหลือจากทางกลุ่มผู้เสียหายว่าถูกบริษัทเกี่ยวกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์หลอกขายบ้านของผู้อื่นให้ โดยอ้างว่าสนิทกับเจ้าหน้าที่กรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม สามารถประมูลบ้านที่ถูกบังคับคดีมาขายต่อให้ได้ หากใครสนใจสามารถทำเรื่องกู้ซื้อผ่อนชำระกับทางบริษัทพร้อมเข้าอยู่ได้ทันที ทำให้มีผู้ที่สนใจอยากมีบ้านแต่ไม่สามารถทำเรื่องกู้กับทางธนาคารได้ตามปกติหลงเชื่อจำนวนมาก

ต่อมาหลังจากผู้เสียหายเข้าไปอยู่อาศัยได้ประมาณ 2-3 ปี กลับถูกเจ้าของบ้านคนเก่า ฟ้องขับไล่ออกจากบ้าน เนื่องจากกรรมสิทธิ์การครอบครองยังคงเป็นของเจ้าของบ้านเดิม ไม่ใช่บริษัทดังกล่าวตามที่ตกลงกันไว้ ผู้เสียหายบางรายเดือดร้อนหนักถึงขั้นถูกจับดำเนินคดีทั้งครอบครัว เหตุเพราะฝ่าฝืนคำสั่งศาลไม่ยอมย้ายออกจากบ้าน เพราะเชื่อว่าบ้านหลังดังกล่าวซื้อมาอย่างถูกต้อง

“จริงๆแล้วบ้านเหล่านี้ไม่ได้เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทดังกล่าว เป็นเพียงแค่การไปประมูลได้สิทธิซื้อบ้านเหล่านี้มา ไม่ได้จ่ายเงินไถ่ถอน หรือ ปิดยอดทั้งหมด กรรมสิทธิ์จึงยังเป็นของเจ้าของเดิม แต่กลับนำมาหลอกขาย ทำให้ผู้เสียหายเหล่านี้ต้องเสียเงินค่าผ่อนชำระกับทางบริษัทไปฟรีๆ โดยที่ไม่ได้บ้านแต่อย่างใด แถมยังต้องมาถูกเจ้าของเดิมฟ้องขับไล่ เหมือนกับการถูกหลอก และเชื่อว่าน่าจะมีเจ้าหน้าที่รู้เห็นหรือเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วย ตนจึงตั้งคำถามไปยังกรมบังคับคดีว่าปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร เพื่อเป็นการช่วยเหลือและให้ความเป็นธรรมในวันนี้จึงพาผู้เสียหายเหล่านี้ซึ่งมีอยู่ทั่วประเทศรวมตัวมาแจ้งความเอาผิดกับบริษัทดังกล่าว” นายอัจฉริยะ กล่าว

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำผู้เสียหายไว้ เพื่อนำไปพิจารณาควบคู่กับพยานหลักฐานต่างๆที่นำมามอบให้ ก่อนส่งต่อให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป.