สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงคาบูล ประเทศอัฟกานิสถาน เมื่อวันที่ 23 ส.ค. โดยอ้างข้อมูลจากแหล่งข่าวภายในกลุ่มตาลีบัน เปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ ว่า จนถึงขณะนี้ กลุ่มตาลีบันยังไม่ได้รับการติดต่อประสานงานอย่างเป็นทางการจากรัฐบาล หรือกองทัพของประเทศตะวันตกแห่งใด ในการขยายระยะเวลาอพยพพลเมืองของตัวเอง และชาวอัฟกันบางส่วน โดยกำหนดการปัจจุบันจะสิ้นสุดในวันที่ 31 ส.ค.นี้
อย่างไรก็ตาม ในเวลาเดียวกัน กลุ่มตาลีบันไม่มีทางยอมรับการประจำการในอัฟกานิสถานของกองทัพสหรัฐและพันธมิตร ให้เกิดขึ้นต่อไปอีกหลังสิ้นเดือนนี้ 
ทหารสหรัฐและฮังการีดูแลการอพยพชาวอัฟกันกลุ่มหนึ่ง ให้โดยสารเครื่องบินลำเลียงของกองทัพฮังการี เดินทางออกจากท่าอากาศยานนานาชาติฮามิด คาร์ไซ ในกรุงคาบูล
ท่าทีดังกล่าวของกลุ่มตาลีบันเกิดขึ้นในเวลาเดียวกับที่ นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ผู้นำสหราชอาณาจักร กล่าวว่า เขากำลังพยายามโน้มน้าวรัฐบาลวอชิงตันของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ให้ต่อเวลาภารกิจอพยพประชาชนออกจากอัฟกานิสถาน "ให้ยาวนานขึ้น" โดยให้เหตุผลว่า หากสหรัฐยุติปฏิบัติการทั้งหมดในวันที่ 31 ส.ค.นี้ เท่ากับว่าประเทศอื่น "ไม่มีทางเลือก"
ทั้งนี้ บรรยากาศที่ท่าอากาศยานนานาชาติฮามิ คาร์ไซ ในเขตชานกรุงคาบูล ยังคงวุ่นวายและคลาคล่ำไปด้วยชาวอัฟกันซึ่งต้องการเดินทางออกนอกประเทศ หลังกลุ่มตาลีบันเข้ายึดครองเมืองหลวงของอัฟกานิสถาน เมื่อช่วงกลางเดือนนี้ ถือเป็นการหวนกลับคืนสู่อำนาจเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี ขณะที่แหล่งข่าวภาคสนามรายงานว่า ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์โกลาหลและชุลมุนที่สนามบินแห่งนี้แล้ว "ไม่ต่ำกว่า 20 ราย" โดยหนึ่งในผู้เสียชีวิตรายล่าสุด เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยชาวอัฟกัน ต่อสู้ด้วยอาวุธปืนกับ "กลุ่มคนร้ายไม่ทราบฝ่าย".

เครดิตภาพ : AP