โรคหลอดเลือดแดงแข็งตัว (Atherosclerosis) เป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดอาการอ่อนตัวอีดี ตามด้วยโรคชนิดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหลอดเลือดสมองอุดตัน ซึ่งเป็นต้นเหตุของการเกิดอัมพฤกษ์ อัมพาต โรคหลอดเลือดแดงแข็งนี้ สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย โดยเกิดขึ้นตั้งแต่วัยเด็กและพัฒนาต่อไปเรื่อย ๆ เนื่องจากโรคนี้เกิดจากความเสื่อมของผนังหลอดเลือดแดง ซึ่งมีอยู่ทั่วร่างกายของคนเรา โดยหลอดเลือดแดงเหล่านี้เมื่อใช้ไปนาน ๆ จะเกิดการสะสมของตะกรันขึ้นที่หลอดเลือดแดง แต่ตะกรันเหล่านี้จะยังไม่เป็นอันตราย จนกระทั่งการสะสมของตะกรันหนาขึ้นเรื่อย ๆ และเกิดการปริ หรือกะเทาะของตะกรัน และกระตุ้นให้เกิดเป็นลิ่มเลือดไปอุดตันผนังหลอดเลือด

ปัจจุบันมีปัจจัยเสี่ยงมากมายที่จะก่อให้เกิดภาวะโรคหลอดเลือดแข็งตัว โดยเฉพาะในผู้สูงอายุที่มีสภาพร่างกายอ่อนแอตามวัยจะเกิดโรคนี้ได้ง่ายมาก ซึ่งอาการเริ่มแรกของผู้ที่อาจจะเกิดภาวะโรคเส้นเลือดแดงแข็งตัว ได้แก่ เจ็บหน้าอก เจ็บแขนซ้าย หรือกราม อึดอัด หายใจไม่ออก อ่อนเพลีย เหงื่อออกง่าย หรือเวียนศีรษะ เป็นต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาวะที่หัวใจต้องทำงานหนัก เช่น ในระหว่างการออกกำลังกาย ขณะมีเพศสัมพันธ์

สำหรับวิธีการป้องกันและรักษาโรคหลอดเลือดแดงแข็งตัว ด้วยการลดแอลดีแอล (LDL) คอเลสเตอรอลเป็นสิ่งสำคัญมาก หนีการกินอาหารประเภทเนื้อ หมู ไก่ กินเนื้อปลาให้มากขึ้น หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง, หวานจัด มีรสเค็ม และเน้นการทางอาหารประเภทผัก ผลไม้ งดสูบบุหรี่ และที่สำคัญควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมออย่างน้อยสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง ครั้งละ 30-60 นาที แต่ไม่จำเป็นต้องหักโหม

อย่างที่ทราบกันว่า ในร่างกายของคนเราจะมีหลอดเลือดแดงที่สำคัญอยู่ 3 จุด คือ หลอดเลือดที่ไปเลี้ยงอวัยวะเพศบริเวณล่างสุดจะเกิดอาการอีดี และบนสุดก็คือบริเวณสมองทำให้เกิดอาการอัมพฤกษ์ อัมพาต ตรงจุดที่สามคือ หลอดเลือดแดงที่ไปเลี้ยงหัวใจ ซึ่งหากเกิดการอุดตัน ก็จะเกิดอาการกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน การเริ่มใส่ใจดูแลสุขภาพร่างกายตั้งแต่วันนี้ จะช่วยลดการเกิดโรคหลอดเลือดแดงแข็งได้เมื่ออายุมากขึ้น โดยพิถีพิถันกินอาหารสัตว์ใหญ่ลดให้น้อยที่สุด เน้นผักให้ทานมากที่สุด ตามด้วยการออกกำลังกายสม่ำเสมอ สุขภาพจึงจะแข็งแรงเกินอายุ

———————
ดร.อุ๋มอิ๋ม