เมื่อเวลา 08.45 น. วันที่ 17 ม.ค. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุเรือบรรทุกน้ำมันดีเซลขนาดใหญ่ ชื่อเรือ “สมูธซี 22” ซึ่งจอดซ่อมบำรุงภายในอู่ต่อเรือด๊อกยาร์ด ในพื้นที่หมู่ 8 บริเวณปากอ่าวแม่กลอง ต.แหลมใหญ่ อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม ระเบิดและเกิดไฟลุกไหม้ เป็นเหตุให้คนงานได้บาดเจ็บนับ 10 คน โดยแรงระเบิดทำให้บ้านเรือนประชาชนที่อยู่ใกล้เคียงในรัศมี 4-5 กิโลเมตร ถูกแรงอัดได้รับความเสียหาย ส่วนใหญ่เป็นกระจกหน้าต่างแตก และเสียงระเบิดดังไกลไปถึงโรงพยาบาลอัมพวา ซึ่งอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 10 กิโลเมตร ทำให้ทางโรงพยาบาลต้องเร่งเช็กที่มาของเสียงดังกล่าวว่าเกิดอะไรขึ้น เพื่อเตรียมย้ายคนไข้ โดยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงระดมรถฉีดน้ำนับ 10 คัน เร่งฉีดน้ำดับไฟ แต่เพลิงยังประทุอย่างต่อเนื่องนานนับชั่วโมง
นายสถาพร สกุลแก้ว อายุ 65 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ ซึ่งบ้านอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 100 เมตร เล่าว่า ขณะอยู่ที่บ้านได้ยินเสียงระเบิดดัง 2 ครั้งติดกัน ครั้งแรกดังไม่แรงนัก แต่ครั้งที่ 2 ดังแรงมากจนตนรู้สึกจุกแน่นหน้าอกอยู่นานเกือบครึ่งชั่วโมง นอกจากนี้ กระจกหน้าต่างบ้านแตกร่วงกราว เมื่อตั้งสติได้จึงรีบออกมาดูก็พบว่ามีกลุ่มควันไฟสีดำพวยพุ่งขึ้นมาจากเรือลำดังกล่าวพร้อมกับมีเปลวเพลิงลุกไหม้ตามมา และน่าจะมีผู้บาดเจ็บหลายคน เพราะมีรถมูลนิธิสว่างเบญจธรรมสมุทรสงคราม และรถโรงพยาบาลสมเด็จพระพุทธเลศหล้า วิ่งเข้าไปรับผู้ป่วยหลายเที่ยว แต่ไม่ยืนยันว่ามีผู้เสียชีวิตหรือไม่
สาเหตุเบื้องต้นทราบว่า เรือดังกล่าวเป็นเรือเปล่า ไม่มีน้ำมันในเรือแต่อย่างใด และผู้ประกอบการได้นำเรือเข้าซ่อมบำรุง สันนิษฐานว่าขณะที่คนงานกำลังอ๊อกเชื่อมถังน้ำมัน ซึ่งแม้จะไม่มีน้ำมันแต่มีกลิ่นไอของน้ำมันอาจทำให้เกิดแรงอัดและระเบิดขึ้นได้
เบื้องต้นทราบว่า มีผู้บาดเจ็บ 4 คน 3 คน เป็นชาวเมียนมา และคนไทย 1 คน คือ นายสมพงษ์ ใจวิถี ส่วนผู้สูญหายเบื้องต้นทราบว่ามี 7 คน เป็นคนไทย 1 คน ที่เหลือเป็นชาวเมียนมา โดยที่เกิดเหตุมีผู้ปฏิบัติงานในเรือประมาณ 10 คน มีผู้ปฏิบัติงานบนฝั่ง ซึ่งเป็นอู่ซ่อมเรือประมาณ 30 คน.