ตามหลักของชาวพุทธศาสนา สอนให้ผู้ซึ่งเป็นบุตรมีความกตัญญูต่อบิดา มารดา และตามความเชื่อหากผู้ใดดูแล และทดแทนคุณผู้ให้กำเนิด หรือ ผู้มีพระคุณชีวิตย่อมเจริญรุ่งเรือง และยังได้อานิสงส์ ทำให้มีความสุขในการใช้ชีวิต เป็นคนมีสติรอบคอบในการที่จะคิดทำการสิ่งใด มีความอดทน จากการทำสิ่งต่างๆ ได้ดี ทำให้พ้นทุกข์พ้นภัย แคล้วคลาดภัยในยามคับขัน มีความเจริญก้าวหน้าในชีวิต และทำให้ได้ลาภโดยง่าย เป็นต้น

เช่นเดียวกับนายทักษิณ มีเบ้า หรือ ทัด วัย 28 ปี ที่มีความกตัญญูต่อผู้ให้กำเนิด เป็นชาว ต.เชียงพิณ อ.เมือง จ.อุดรธานี ที่ดวงดีถูกรางวัลที่ 1 หมายเลข 913106 งวดที่ 42 ชุดที่ 62 ประจำวันที่ 1 พฤศจิกายน 2565

โดยผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ออนไลน์ ได้เดินทางไปยังบ้านของหนุ่มผู้โชคดี เมื่อไปถึงพบว่าทางนายทักษิณ กำลังล้อมวงรับประทานอาหารกลางวันกับครอบครัว มีผู้เป็นตา ยาย แม่ และป้า ล้อมวงกินอยู่กันแบบเรียบง่าย เป็นเมนูอาหาร ส้มตำ ไก่ทอด ตามแบบฉบับชาวอีสานทั่วไป

โดยนายทักษิณ ได้เล่าถึงที่มาที่ไปของการถูกรางวัลที่ 1 ในครั้งนี้ว่า เลขที่ซื้อไม่ได้ฝันอะไร ซื้อเพราะชอบ ตนก็ซื้อลอตเตอรี่มาเรื่อยๆ และเป็นเลขที่ชอบ หลังจากถูกรางวัลที่ 1 ชีวิตดีขึ้นพอสมควร แต่ก็ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมากนัก ตนเองยังคงทำงานประจำที่บริษัทพิยดา กรุ๊ป 2018 จำกัด ที่ อ.กุดจับ เหมือนเดิม ยืนยันว่าเงินที่ได้มาก็เพียงแค่ลาภลอยก้อนหนึ่ง ถึงอย่างไรก็ต้องทำงานตามปกติเหมือนเดิม ตนเองเพิ่งจะได้หยุดอีกครั้งในวันนี้ เพราะใช้วันลาไปหมดแล้ว เนื่องจากหลังถูกรางวัลได้หยุดงานไปทำธุรกรรมหลายอย่าง วันนี้คุณแม่เดินทางมาจาก กทม. เพื่อทำธุรกรรมเพิ่มเติม จึงได้หยุดงานอีกครั้ง

“เงินที่ได้มาหลังจากใช้หนี้สินให้แม่ ซื้อที่นา 4 ไร่ ที่แม่ขายไปก่อนหน้ากลับคืนมา ซื้อรถยนต์กระบะ 1 คัน ผมเองเก็บไว้ใช้จ่ายส่วนตัว 1 ล้านบาท นอกนั้นเงินที่เหลือตนให้แม่เป็นผู้ดูแล เป็นคนบริหารจัดการ ซึ่งตั้งใจว่าจะแบ่งที่ดินให้กับป้าไว้เป็นที่อยู่อาศัย สร้างบ้านพักให้กับตัวเอง 1 หลัง และจะปรับปรุงบ้านให้ตากับยาย ในอนาคตก็จะลงทุนด้านการเกษตรในพื้นที่ตัวเอง ส่วนตัวมีพื้นฐานในการทำนาบัวมาก่อน แต่ก็เป็นเรื่องของอนาคต ต้องวางแผนให้ดี จะไม่ทำอะไรบุ่มบ่าม ส่วนสาวข้างกายตอนนี้ก็มีผู้หญิงเข้ามาคุยบ้าง แต่ยังไม่ได้ตกลงปลงใจกับใคร ขอจัดการชีวิตตัวเองให้แล้วเสร็จก่อน ”นายทักษิณ กล่าว

ด้าน นางยุพิน สีหาคลัง อายุ 46 ปี แม่นายทักษิณ กล่าวว่า หลังจากเลิกกับพ่อของทัดแล้ว ตนได้ไปทำงานที่ กทม. และมีครอบครัวใหม่ที่นั่น มีลูกสาวอีก 2 คน ทัดเองหลังจบ ม.3 ได้ไปทำงานกับตนที่ กทม. เป็นลูกมือช่างทำกระจกช่วยพ่อใหม่ พออายุครบ 21 ปี ก็กลับมาคัดเลือกทหาร จากนั้นก็บวช และหางานทำที่บ้าน ลูกบอกว่าอยากอยู่ที่นี่เพื่อเลี้ยงดูตายาย เพราะท่านแก่ชรามากแล้ว ทัดเป็นเด็กมีความคิด เป็นเด็กไม่เกเร เชื่อฟังคนในครอบครัว ประมาณ 1 เดือนก่อนที่ทัดจะถูกรางวัลที่ 1 แม่ได้มาขายที่ดินมรดก 4 ไร่ เพื่อนำไปใช้หนี้ ลูกชายบอกทันทีว่า “เดี๋ยวผมจะหาเงินมาซื้อคืนให้” ไม่นานก็ถูกรางวัลที่ 1 คิดว่าคงจะเป็นบุญหนุนนำที่ลูกชายมีความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ ภูมิใจในตัวลูกมาก ห่วงอย่างเดียวคือคนที่จะมาเป็นคู่ชีวิตของเขา เพราะลูกชายเป็นคนตรง ไม่ค่อยพูด เอาใจใครไม่เก่ง

ขณะที่ ยายพุฒ หอมหวล อายุ 74 ปี ผู้เป็นยาย กล่าวว่า บ้านหลังนี้อาศัยอยู่กับ ตาทอง หอมหวล อายุ 76 ปี และมีทัด หลานชายคนนี้มาอาศัยอยู่ด้วย คอยดูแลตาและยายตลอด ตั้งแต่กลับมาอยู่อีกครั้ง ไม่เคยสร้างความเดือดเนื้อร้อนใจให้สักครั้ง หลานชายเป็นเด็กดี กตัญญูรู้คุณ เงินเดือนที่ไปรับจ้างขายแรงงานมา ก็เจียดมาคอยดูแลตายายทุกเดือน รักหลานคนนี้มาก ภูมิใจในตัวหลาน ห่วงเขาแค่ในเรื่องการขับรถเดินทางไปไหนมาไหน กลัวเรื่องอุบัติเหตุ ครอบครัวเราก็ยังคงใช้ชีวิตเหมือนเดิมตามปกติ ไม่มีอะไรพิเศษไปมากกว่านี้

สำหรับ “เศรษฐีใหม่” ก็ต้องขอแสดงความยินดีกับนายทักษิณ ที่โชคดีถูกรางวัลที่ 1 ในครั้งนี้ และขอให้เฮงๆยิ่งๆขึ้นไป ส่วนใครที่ยังไม่ถูกหวยรวยทรัพย์ ให้หมั่นกตัญญูกับผู้มีพระคุณ แล้วชีวิตจะโชคดีอย่าง “เสี่ยทัด”

คอลัมน์ ดวงจะรวยช่วยไม่ได้

โดย เศรษฐีใหม่

ขอบคุณข้อมูล จาก กสิวัฒน์ สวนเกตุ ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ออนไลน์ จ.อุดรธานี